นครศรีธรรมราช - ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช สั่งลุยปราบ ฟัน โค่น ทิ้งต้นกระท่อม แหล่งเพาะเชื้อสู่วงการยาเสพติด เผยขึ้นบัญชีผู้ค้าแล้วกว่า 1 พันราย พบเป็นนักเรียน 5-6 %
เมื่อเวลา 15.30 น.วันนี้ (13 ก.พ.) นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้เดินทางเข้าตรวจสอบของกลางเป็นพืชกระท่อมน้ำหนักหลายตัน หลังจากที่นายสมโภชน์ โอทอง ปลัดอาวุโส อ.ท่าศาลา นายวีระพรรณ สุขะวัลลิ ปลัดป้องกันอำเภอท่าศาลา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ อส.ได้สนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช นำโดย พ.ต.ท.ประเสริฐ นาคคง รองผกก.ป.สภ.ท่าศาลา พ.ต.ท.ปรีชา ศรีสกุล สวป.สภ.ท่าศาลา โดยมีกำลังทั้งหมดกว่า 50 นายได้ปูพรมพื้นที่เข้าขอความร่วมมือกับประชาชน และตัดโค่นทำลายต้นกระท่อม ซึ่งเป็นสารเสพติดเป็นที่นิยมของวัยรุ่น เยาวชน โดยนำมาดัดแปลงต้มกับน้ำอัดลมและสารอื่นๆ กลายเป็นสูตร 4 คูณ 100
โดยในการตัดโค่นทำลายนั้น เจ้าหน้าที่พร้อมด้วยผู้นำท้องถิ่นของแต่ละตำบลประกอบด้วย ต.ไทยบุรี ต.หัวตะพาน ต.โพธิ์ทอง ต.สระแก้ว ต.กลาย ต.ท่าศาลา ต.ดอนตะโก ต.ท่าขึ้น ต.ตลิ่งชัน และ ต.โมคลาน โดยใช้เลื่อยยนต์เข้าทำการตัดโค่นต้นกระท่อม ที่เจ้าหน้าที่ได้ใช้มาตรการทางรัฐศาสตร์เปิดโอกาสให้ประชาชนที่มีต้นกระท่อมอยู่ในเขตที่ดินของตนเอง มาแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบ และขอความร่วมมือในการเข้าตัดโค่นทำลาย ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดียิ่ง สามารถตัดโค้นทำลายต้นกระท่อมทุกขนาดไปได้ถึง 386 ต้น มีน้ำหนักรวมหลายตัน พร้อมด้วยตรวจยึดอุปกรณ์การต้ม ขวดยาแก้ไอที่เป็นส่วนผสมถูกทิ้งไว้ใกล้กับต้นกระท่อมเป็นจำนวนมาก
นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ต้องเข้าทำลายต้นกระท่อมพวกนี้ให้หมดไป แม้ว่าหลังจากทำลายจะทำให้ราคาของพวกนี้แพงขึ้นก็ตาม การนำกระท่อมไปต้มไปเสพของเยาวชนนั้นเป็นจุดเริ่มต้นของการเข้าไปสู่ยาเสพติดที่มีผลร้ายแรงยิ่งกว่า ซึ่งเจ้าหน้าที่จะต้องตัดตอนวงจรยาเสพติดพวกนี้
ผุ้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ยังกล่าวถึงการดำเนินการกับเครือข่ายยาเสพติดในเรือนจำกลางนครศรีธรรมราชว่า ขณะนี้ต้องให้เวลาเจ้าหน้าที่ในการดำเนินการคาดว่าไม่นานนี้จะเห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม และในส่วนของผู้ค้านั้นได้มีการขึ้นบัญชีไว้แล้วกว่า 1 พันราย โดยมีนักเรียนนักศึกษาอยู่ประมาณ 5-6 เปอร์เซ็นต์ในจำนวน