นครศรีธรรมราช - ตร.นครศรีธรรมราช รวบยาบ้าคืนเดียวกว่า 1.4 หมื่นเม็ด พบพ่อค้ายาเชียงรายหลังออกคุกมาขยายเฟรนด์ไชน์ที่นครศรีธรรมราช ขณะที่นายอำเภอสิชลนำกำลังฝ่ายปกครอง และตำรวจเข้าทำการตัดโค้นทำลายพื้นกระท่อมที่ปลูกไว้ในสวนปาล์ม
วันนี้ (12 ก.พ.) พล.ต.ต.รณพงศ์ ทรายแก้ว ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช แถลงผลการจับกุมยาเสพติดหลังจากเจ้าหน้าที่ได้ปฏิบัติการณ์ตามแผนกวาดล้างยาเสพติดและอาชญากรรม ว่าเมื่อคืนที่ผ่านมา พ.ต.อ.เชาวศิลป์ บุญประดิษฐ์ ผกก.สส.บก.ภ.นครศรีธรรมราช และ พ.ต.ท.โชคดี ศรีเมือง รอง ผกก.สส.นำกำลังตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษ (นปพ.) จำนวน 20 นาย เข้าทำการจับกุมตัวผู้ต้องหาค้ายาบ้าที่บ้านเลขที่ 152/8 ถ.ประตูขาว ต.คลัง อ.เมือง
ได้พร้อมด้วยของกลางยาบ้าจำนวน 4,000 เม็ด อาวุธปืน 1 กระบอก โทรศัพท์มือถือ 6เครื่อง เงินสด 6,000 บาท ส่วนผู้ต้องหา 2 คน คือ นายสุรสิทธิ์ อินทวิมล อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 152/8 ถ.ประตูขาว ต.คลัง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช และนายอัมรินทร์ ยีบาระเหม อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 951 ถ.ยมราช ต คลัง อ เมือง จ.นครศรีธรรมราช
เบื้องต้นทั้งคู่ปฏิเสธว่า ของกลางทั้งไม่ได้เป็นของตัวเอง แต่เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ จึงควบคุมตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช เพื่อดำเนินคดี และทำการสอบสวนขยายผลหาตัวผู้ร่วมขบวนการต่อไป อย่างไรก็ตามในขณะนี้ทั้งยาบ้า และยาไอซ์เป็นที่นิยมของกลุ่มเสพยาเสพติดเป็นอย่างมาก ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องระดมกวาดล้างอย่างหนัก และมีการจับกุมแก๊งยาเสพติดได้อย่างต่อเนื่องด้วย
นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ถ้ำพรรณรา ได้ตั้งด่านตรวจบนถนนเอเชีย สาย 41 ม.3 ต.ถ้ำพรรณรา สามารถควมคุมผู้ต้องหาคือนายอนุรักษ์ หรือหล้า ปัญญาเสน อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่146 ม.10 ต.สันทราย อ.เมือง จ.เชียงราย ได้พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 8,000 เม็ด และยังใช้ พรบ.มาตรการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินเข้าขึดรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า สีดำ ทะเบียน กง 2401 พัทลุง กระบะหลังบรรทุกรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า สีแดงทะเบียน คฉษ 736 เชียงราย รวมทั้งเสื้อผ้า สัมภาระ อาหาร แกง ปลาร้า ผลไม้ และพัดลมตั้งโต๊ะ มาเต็มกระบะ ซึ่งการจับกุมปรากฏว่าผู้ร่วมแก๊งเป็นภรรยาของนายอนุรักษ์ คือ นางพาณิชย์ สติตรง หรือ เปิ้ล อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 229 ม.7 ต.ปริก อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ได้หลบหนีไป
ส่วนการตรวจค้นรถที่นายอนุรักษ์ ขับเจอยาบ้าซุกซ่อนอยู่ที่ใต้ฐานพัดลม 4 มัดใหญ่ จำนวน 8,000 เม็ด จึงกลับไปตามหานางพาณิชย์ แต่ไม่พบตัว จึงได้ระดมกำลังออกค้นหาแต่ไร้ร่องรอย ส่วนของกลางที่ได้ทำการตรวจยึดเพิ่มเติมมีเงินสด 10,000 บาท ทีวี 26 นิ้ว 2 เครื่อง โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง เครื่องเล่นวีดีโอ 2 เครื่อง สมุดธนาคาร 6 เล่ม มีเงินหมุดเวียนนับล้านบาท สมุดบัญชีรายชื่อลูกค้า 2 เล่ม และสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท 1 เส้น
นายอนุรักษ์ ให้การว่า ได้ซื้อยาบ้ามาจากชาวดอยตุง จ.เชียงราย ที่ทำธุรกิจนี้อยู่ทางภาคเหนือ โดยการสั่งซื้อยาบ้าจากฝั่งพม่าเข้ามาจำหน่ายในกับลูกค้าในประเทศไทย และตนซื้อมา 4 มัด ราคา 600,000 บาท และทำมาแล้วหลายครั้งแล้ว แต่ครั้งนี้ได้ถูกตั้งด่านจับกุมก่อนถึงบ้านเพียง 15 กม.เท่านั้น หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เข้าทำการยึดทรัพย์กระบะยี่ห้อฟอร์ด ตอนครึ่งสีน้ำเงิน ทะเบียน บย 3886 เชียงราย ภายในรถแต่งเครื่องเสียงอย่างดี
อย่างไรก็ตาม พ.ต.อ.ธีระภูมิ ธุรกิจ ผกก.สภ.ถ้ำพรรณรา จ.นครศรีธรรมราช ได้รายงานข้อมูลบุคคลของผู้ต้องหาเพิ่มเติมว่า สำหรับนายอนุรักษ์ เคยถูกจับคดีค้ายาบ้าเมื่อปี 2545 ที่ จ.ลำปาง ถูกศาลตัดสินจำคุก 11 ปี พอพ้นโทษออกมาได้ไม่นานก็หันกลับมาค้ายาบ้าอีกครั้งจนมีเงินมีทองร่ำรวย ก่อนจะมาได้นางพานิชย์ เป็นภรรยาและมาอาศัยอยู่ที่ภาคใต้ ทุกครั้งจะรับยาบ้ามาจากทางภาคเหนือส่งให้กับลูกค้าในภาคใต้จนถูกจับกุมอีกครั้งดังกล่าว
นายอำเภอสิชลบุกโค่นต้นกระท่อม ปลูกซ่อนในสวนปาล์ม
เมื่อเวลา 11.00 น.ของวันนี้ (12 ก.พ.) นายทินกร มุสิกวัตร นายอำเภอสิชล นำกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เข้าสนธิกำลังกับ ร.ต.อ.ขวัญชัย มายะเฉียว รักษาการ ผบ.ร้อย ตชด.424 เจ้าหน้าที่ป่าไม้ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สิชล พร้อมอุปกรณ์เข้าทำการตัดโค่นต้นกระท่อมจำนวนมาก หลังสืบทราบว่าที่สวนปาล์มน้ำมันในเขต ม.6 ต.สี่ขีด อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช มีการลักลอบปลูกพืชกระท่อมและเป็นแหล่งค้าส่งรายใหญ่
หลังจากที่เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพื้นที่ตามเป้าหมายพบว่า มีการปลูกต้นพระท่อมแซมในร่องปาล์มน้ำมันจำนวนมาก และมีบ้านพักปลูกสร้างอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวพบเจ้าของบ้านคือ นายสมโชค ศรีสุวรรณ อายุ 57 ปี บ้านเลขที่ 100/2 ม.6 ต.สี่ขีด อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช เจ้าหน้าที่จึงทำการคุมตัวไว้ก่อน และเข้าทำการตัดโค่นต้นพืชใบกระท่อมจำนวน 48 ต้น
และเมื่อตรวจสอบที่บ้านพบ ซึ่งเปิดหน้าต่างทิ้งไว้ เจ้าหน้าที่ได้ชำเลืองดูบ้านหลังดังกล่าว ปรากฏว่าเจอพืชใบกระท่อมใส่ในกะละมัง 5 กะละมัง และลังโฟม จำนวน 6 ลัง ได้จัดเตรียมทำเป็นมัดๆ พร้อมที่จะจำหน่ายให้กับพ่อค้าที่มารับซื้อจาก อ.เกาะสมุย จ.สุราษร์ธานี มูลค่ากว่า 20,000 บาท เจ้าหน้าจึงทำการจับกุม ข้อหาครอบครองเพื่อจำหน่าย และนำตัวส่ง พ.ต.ท.อรุณ จันทร์พูล พนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
วันนี้ (12 ก.พ.) พล.ต.ต.รณพงศ์ ทรายแก้ว ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช แถลงผลการจับกุมยาเสพติดหลังจากเจ้าหน้าที่ได้ปฏิบัติการณ์ตามแผนกวาดล้างยาเสพติดและอาชญากรรม ว่าเมื่อคืนที่ผ่านมา พ.ต.อ.เชาวศิลป์ บุญประดิษฐ์ ผกก.สส.บก.ภ.นครศรีธรรมราช และ พ.ต.ท.โชคดี ศรีเมือง รอง ผกก.สส.นำกำลังตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษ (นปพ.) จำนวน 20 นาย เข้าทำการจับกุมตัวผู้ต้องหาค้ายาบ้าที่บ้านเลขที่ 152/8 ถ.ประตูขาว ต.คลัง อ.เมือง
ได้พร้อมด้วยของกลางยาบ้าจำนวน 4,000 เม็ด อาวุธปืน 1 กระบอก โทรศัพท์มือถือ 6เครื่อง เงินสด 6,000 บาท ส่วนผู้ต้องหา 2 คน คือ นายสุรสิทธิ์ อินทวิมล อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 152/8 ถ.ประตูขาว ต.คลัง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช และนายอัมรินทร์ ยีบาระเหม อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 951 ถ.ยมราช ต คลัง อ เมือง จ.นครศรีธรรมราช
เบื้องต้นทั้งคู่ปฏิเสธว่า ของกลางทั้งไม่ได้เป็นของตัวเอง แต่เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ จึงควบคุมตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช เพื่อดำเนินคดี และทำการสอบสวนขยายผลหาตัวผู้ร่วมขบวนการต่อไป อย่างไรก็ตามในขณะนี้ทั้งยาบ้า และยาไอซ์เป็นที่นิยมของกลุ่มเสพยาเสพติดเป็นอย่างมาก ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องระดมกวาดล้างอย่างหนัก และมีการจับกุมแก๊งยาเสพติดได้อย่างต่อเนื่องด้วย
นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ถ้ำพรรณรา ได้ตั้งด่านตรวจบนถนนเอเชีย สาย 41 ม.3 ต.ถ้ำพรรณรา สามารถควมคุมผู้ต้องหาคือนายอนุรักษ์ หรือหล้า ปัญญาเสน อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่146 ม.10 ต.สันทราย อ.เมือง จ.เชียงราย ได้พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 8,000 เม็ด และยังใช้ พรบ.มาตรการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินเข้าขึดรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า สีดำ ทะเบียน กง 2401 พัทลุง กระบะหลังบรรทุกรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า สีแดงทะเบียน คฉษ 736 เชียงราย รวมทั้งเสื้อผ้า สัมภาระ อาหาร แกง ปลาร้า ผลไม้ และพัดลมตั้งโต๊ะ มาเต็มกระบะ ซึ่งการจับกุมปรากฏว่าผู้ร่วมแก๊งเป็นภรรยาของนายอนุรักษ์ คือ นางพาณิชย์ สติตรง หรือ เปิ้ล อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 229 ม.7 ต.ปริก อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ได้หลบหนีไป
ส่วนการตรวจค้นรถที่นายอนุรักษ์ ขับเจอยาบ้าซุกซ่อนอยู่ที่ใต้ฐานพัดลม 4 มัดใหญ่ จำนวน 8,000 เม็ด จึงกลับไปตามหานางพาณิชย์ แต่ไม่พบตัว จึงได้ระดมกำลังออกค้นหาแต่ไร้ร่องรอย ส่วนของกลางที่ได้ทำการตรวจยึดเพิ่มเติมมีเงินสด 10,000 บาท ทีวี 26 นิ้ว 2 เครื่อง โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง เครื่องเล่นวีดีโอ 2 เครื่อง สมุดธนาคาร 6 เล่ม มีเงินหมุดเวียนนับล้านบาท สมุดบัญชีรายชื่อลูกค้า 2 เล่ม และสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท 1 เส้น
นายอนุรักษ์ ให้การว่า ได้ซื้อยาบ้ามาจากชาวดอยตุง จ.เชียงราย ที่ทำธุรกิจนี้อยู่ทางภาคเหนือ โดยการสั่งซื้อยาบ้าจากฝั่งพม่าเข้ามาจำหน่ายในกับลูกค้าในประเทศไทย และตนซื้อมา 4 มัด ราคา 600,000 บาท และทำมาแล้วหลายครั้งแล้ว แต่ครั้งนี้ได้ถูกตั้งด่านจับกุมก่อนถึงบ้านเพียง 15 กม.เท่านั้น หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เข้าทำการยึดทรัพย์กระบะยี่ห้อฟอร์ด ตอนครึ่งสีน้ำเงิน ทะเบียน บย 3886 เชียงราย ภายในรถแต่งเครื่องเสียงอย่างดี
อย่างไรก็ตาม พ.ต.อ.ธีระภูมิ ธุรกิจ ผกก.สภ.ถ้ำพรรณรา จ.นครศรีธรรมราช ได้รายงานข้อมูลบุคคลของผู้ต้องหาเพิ่มเติมว่า สำหรับนายอนุรักษ์ เคยถูกจับคดีค้ายาบ้าเมื่อปี 2545 ที่ จ.ลำปาง ถูกศาลตัดสินจำคุก 11 ปี พอพ้นโทษออกมาได้ไม่นานก็หันกลับมาค้ายาบ้าอีกครั้งจนมีเงินมีทองร่ำรวย ก่อนจะมาได้นางพานิชย์ เป็นภรรยาและมาอาศัยอยู่ที่ภาคใต้ ทุกครั้งจะรับยาบ้ามาจากทางภาคเหนือส่งให้กับลูกค้าในภาคใต้จนถูกจับกุมอีกครั้งดังกล่าว
นายอำเภอสิชลบุกโค่นต้นกระท่อม ปลูกซ่อนในสวนปาล์ม
เมื่อเวลา 11.00 น.ของวันนี้ (12 ก.พ.) นายทินกร มุสิกวัตร นายอำเภอสิชล นำกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เข้าสนธิกำลังกับ ร.ต.อ.ขวัญชัย มายะเฉียว รักษาการ ผบ.ร้อย ตชด.424 เจ้าหน้าที่ป่าไม้ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สิชล พร้อมอุปกรณ์เข้าทำการตัดโค่นต้นกระท่อมจำนวนมาก หลังสืบทราบว่าที่สวนปาล์มน้ำมันในเขต ม.6 ต.สี่ขีด อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช มีการลักลอบปลูกพืชกระท่อมและเป็นแหล่งค้าส่งรายใหญ่
หลังจากที่เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพื้นที่ตามเป้าหมายพบว่า มีการปลูกต้นพระท่อมแซมในร่องปาล์มน้ำมันจำนวนมาก และมีบ้านพักปลูกสร้างอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวพบเจ้าของบ้านคือ นายสมโชค ศรีสุวรรณ อายุ 57 ปี บ้านเลขที่ 100/2 ม.6 ต.สี่ขีด อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช เจ้าหน้าที่จึงทำการคุมตัวไว้ก่อน และเข้าทำการตัดโค่นต้นพืชใบกระท่อมจำนวน 48 ต้น
และเมื่อตรวจสอบที่บ้านพบ ซึ่งเปิดหน้าต่างทิ้งไว้ เจ้าหน้าที่ได้ชำเลืองดูบ้านหลังดังกล่าว ปรากฏว่าเจอพืชใบกระท่อมใส่ในกะละมัง 5 กะละมัง และลังโฟม จำนวน 6 ลัง ได้จัดเตรียมทำเป็นมัดๆ พร้อมที่จะจำหน่ายให้กับพ่อค้าที่มารับซื้อจาก อ.เกาะสมุย จ.สุราษร์ธานี มูลค่ากว่า 20,000 บาท เจ้าหน้าจึงทำการจับกุม ข้อหาครอบครองเพื่อจำหน่าย และนำตัวส่ง พ.ต.ท.อรุณ จันทร์พูล พนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
