xs
xsm
sm
md
lg

“ตร.โจร-ตร.ยาบ้า” โผล่จากนรก มาตามนัด

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


มันไม่ยอมสูญพันธุ์จริงๆ ทั้งตำรวจโจร และตำรวจยาบ้า เว้นวรรคให้ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ได้หายใจหายคอไม่กี่สิบวัน พวกมันก็โผล่จากขุมนรกผุดขึ้นมา ประชันความชั่วชนิดไม่ยอมน้อยหน้า มีทั้งตำรวจภูธร ตำรวจทางหลวง และตำรวจตระเวนชายแดน ช่วยกันละเลงสีดำใส่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไม่สนใจว่าเจ้านายที่ชูคอบนหอคอย จะหน้าตามอมแมมเพียงใด

ต้นตอของการปล้นเงิน 3 ล้าน 5 แสนบาท ที่จังหวัดนครพนม มาจากพนักงานสารเลวของธนาคารกสิกรไทย สาขานครพนม นายภูวิศ ลาดหลุบเลา อยู่ฝ่ายบริการลูกค้า แล้วมันก็บริการลูกค้าอย่างเจ็บแสบแสนสาหัส อย่างไร้จรรยาแบงก์

เห็นลูกค้าหนุ่มวัยรุ่น จากสะหวันนะเขต ข้ามจากฝั่งลาวมาเบิกเงินครั้งละล้านบาท คิดว่า ไอ้หมอนี่คงทำธุรกิจมืด หรือไม่ก็ค้ายาเสพติด พอกลับบ้านที่สกลนคร ก็เอาเรื่องนี้ไปเล่าให้ตำรวจพรรคพวกกันฟัง จากนั้นลงมือปล้นลูกค้ารายนี้ ซึ่งเป็นพนักงานการเงินของโรงเลื่อยภูหลวง หลังจากเบิกเงิน 3 ล้าน 5 แสนบาท จะกลับสะหวันนะเขต

4 ตำรวจโจรแก๊งนี้ ที่ช่วยกันชะโลมสีดำให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มี ด.ต.ชดาวุฒิ นนท์คำวงศ์ อายุ 39 ปี ผู้บังคับหมู่ สถานีตำรวจทางหลวงที่ 5 กองกำกับการ 4 สกลนคร เป็นหัวหน้า มีลูกน้องตำรวจทางหลวงสังกัดเดียวกันอีก 3 คน ด.ต.จำนงค์ รักษา อายุ 36 ปี จ.ส.ต.เอกชัย สิงห์ทองไชย อายุ 35 ปี และอีกคน ด.ต.ณรงค์ บุญสินชัย อายุ 39 ปี ผู้บังคับหมู่ กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 235 อ.ธาตุพนม จ.นครพนม

ใช้รถฉลามบกส่งสัญญาณให้เหยื่อจอดรถ จากนั้น ด.ต.ชดาวุฒิ กับพวกขับรถเก๋งฮอนด้าตามมา แล้วเข้าปล้นชิงเงินหลบหนีไป ผู้เสียหายไปแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครพนม

ไม่แตกต่างจาก พ.ต.อ.พิจิตร กรมประสิทธิ์ อดีต ผกก.สภ.ไทรงาม จ.กำแพงเพชร ที่พาลูกน้องมาปล้นรถขนเงินที่ อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี จนป่านนี้ตำรวจจริงยังจับตำรวจโจรไม่ได้

ต้องปรบมือให้ พ.ต.อ.สมนึก มิควาฬ ผกก.สภ.เมืองนครหนม พ.ต.อ.อนุวัตร สุวรรณภูมิ ผกก.สืบสวน ภ.นครพนม แกะรอยจากรถเก๋งฮอนด้าสีน้ำเงิน ที่แก๊งตำรวจโจรใช้เป็นพาหนะ ในที่สุด ก็ตามลากคอ 4 ตำรวจโจรกับพนักงานแบงก์สารเลวได้ พร้อมกับเงินของกลาง

อีกรายเป็นความระยำของ 5 ตำรวจโรงพักระดับตำบลที่จังหวัดน่าน ชื่อ “สภ.อวน”

5 โมงเย็น วันพฤหัสบดี 13 ธันวาคม 2555 ตำรวจปราบปรามยาเสพติด ปิดล้อมลานจอดรถโรงแรมริเวอร์เพลส ต.หอรัตนไชย อ.พระนครศรีอยุธยา ตรวจค้นรถปิกอัพตราโล่ของ สภ.อวน พบยาบ้า 1 ล้านเม็ด จับคนในรถ 3 คน แล้วล็อกตัวอีก 2 คนที่นั่งอยู่ในรถปิกอัพอีกคัน

กากเดนมนุษย์ในคราบผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ทั้ง 5 คน เรียงลำดับจากหัวแถวหัวหน้าแก๊ง พ.ต.ท.ธรรมนุญ นาคบัว สารวัตรหัวหน้าโรงพักอวน ร.ต.ต.จิตติพงษ์ โสไชย รอง สว. ด.ต.นลธวัช พรรษา ด.ต.อรรถ คำแสน ด.ต.สักกพงษ์ เชียงหนุ้น เป็นผู้บังคับหมู่ฝ่ายป้องกันปราบปรามโรงพักเดียวกัน

เมื่อจนมุมด้วยพยานหลักฐานโจ่งแจ้ง ตำรวจยาบ้าแก๊งนี้ ก็ยอมรับสารภาพ รับจ้างขนยาบ้า 1 ล้านเม็ด จากพ่อค้าชาวเขาดอยตุง จ.เชียงราย มาที่ลานจอดรถโรงแรมริเวอร์เพลส อยุธยา แล้วจะมีคนมารับยาพร้อมกับเงินค่าจ้าง 2 ล้านบาท

เห็นความระยำของพวกมันไหม โดยเฉพาะ พ.ต.ท.ธรรมนูญ นาคบัว ซึ่งย้ายมาเป็นหัวหน้าโรงพักอวน เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมานี่เอง มันเอาเวลาราชการพาลูกน้องอีก 4 คน เอารถตราโล่มาขนยาบ้า ทั้งๆ โรงพักอวนมีกำลังพลไม่น่าจะเกิน 20 คน และมีรถตราโล่เพียงคันเดียว

ทั้งสองเหตุการณ์อัปยศ ไม่ต้องไปถามหาความรับผิดชอบจาก สารวัตรตำรวจทางหลวงสกลนคร ผู้กำกับการ 4 ตำรวจทางหลวง หรือผู้บังคับการตำรวจทางหลวง ซึ่งเป็น นรต.29 รุ่นเดียวกับ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว

ไม่ต้องถามหาความรับผิดชอบจาก ผู้บังคับกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 235 ผู้กำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 23 หรือผู้บังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 2 ไม่ต้องถามหาความรับผิดชอบจาก ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดน่าน

เพราะผู้บังคับบัญชาทุกระดับของตำรวจน้ำเลวเหล่านั้น ต้อง “รับผิด” ประการเดียว ในฐานะปล่อยปละละเลย ไม่เอาใจใส่ควบคุมดูแลผู้ใต้บังคับบัญชา ส่วนจะมีโทษทัณฑ์อันใด ก็ต้องว่ากันไปตามฐานานุรูป

ก็ต้องถามใจ พล.ต.ท.พงษ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พล.ต.ท.สุรพงษ์ เขมะสิงคิ ผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน พล.ต.ท.สุเทพ เดชรักษา ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 จะรายงานเรื่องนี้ต่อ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ประการใด

ตำรวจปัตตานี ยะลา นราธิวาส ต้องเผชิญหน้ากับความตายทุกนาทีทุกชั่วโมง ไม่รู้ว่ามันจะมาเมื่อไหร่ พวกเขากำลังทำหน้าที่ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ กำลังทาสีขาวให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กำลังเรียกศรัทธาประชาชนให้กลับคืนมา แต่ทำไมตำรวจโจรตำรวจยาบ้า กลับทำลายสิ่งดีงามเหล่านั้น

น่าสงสาร พล.ต.อ.อดุลย์ ปากเปียกปากแฉะ จ้ำจี้จ้ำไช ผู้บังคับบัญชาทุกระดับ นอกจากต้องทำตนเป็นตัวอย่างที่ดีแก่ลูกน้อง ยังต้องดูแลปกครองลูกน้องอย่างใกล้ชิดถึงขนาดประกาศอย่างเฉียบขาด “ไม่มีไพร่พลเลว” อันหมายถึงถ้าจะมีความเลวเกิดขึ้น ก็มาจากผู้บังคับบัญชานั่นเอง

ถ้า พล.ต.อ.อดุลย์ ไม่ลงดาบผู้ใต้บังคับบัญชา ที่สวนทางกับนโยบายของตัวเองที่วางไว้ คาดว่า กว่าจะถึง 30 กันยายน 2557 วันสุดท้ายของการรับราชการ ปากของ พล.ต.อ.อดุลย์ ต้องฉีกถึงรูหูเป็นแม่นมั่น

แล้วจะมี พล.ต.อ.สุวัฒน์ จันทร์อิทธิกุล เพื่อนร่วมรุ่น นรต.29 เป็นรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หัวหน้าฝ่ายบริหาร ไว้ทำไม มี พล.ต.อ.อมรินทร์ อัครวงศ์ เป็นจเรตำรวจแห่งชาติ ไว้ทำไม ก็ต้องดูว่า ทั้งสองเหตุการณ์อัปยศ “ตำรวจโจรกับตำรวจยาบ้า” พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว จะกล้าฟันใครบ้าง
กำลังโหลดความคิดเห็น