ศูนย์ข่าวภูเก็ต- ผู้ว่าฯพังงา “ธำรง เจริญกุล” ปฏิเสธไม่เกี่ยวข้องบุกรุกตัดโค่นต้นไม้บริเวณเทือกเขาบรรทัด อ้างเป็นแค่คนให้คำปรึกษาพรรคพวกที่ไปซื้อที่ดินพร้อมสวนยางพาราบริเวณนั้น ทำชาวบ้านเข้าใจผิดคิดว่าเป็นคนซื้อ เผยก่อนหน้านี้เคยแจ้งเจ้าหน้าที่อุทยานและป่าไม้จับกุมคนอ้างชื่อมาแล้ว
นายธำรง เจริญกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา กล่าวถึงกรณีที่ นายสุรัตน์ แก้วศรีสุข เจ้าพนักงานป่าไม้ ตัวแทนชุดเฉพาะกิจปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช เข้าแจ้งความดำเนินคดี นายธำรง เจริญกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา เป็นผู้ต้องสงสัยว่าจ้างให้แผ้วถางป่าที่บริเวณเทือกเขาบรรทัด จ.พัทลุง ว่า
กรณีที่มีข่าวกล่าวหาว่าตนเข้าไปเกี่ยวข้องกับการบุกรุกตัดต้นไม้ ที่บริเวณเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเทือกเขาบรรทัด ท้องที่ อ.ตะโหมด จ.พัทลุง นั้น ข้อเท็จจริงมีอยู่ว่า นายเล็ก ซึ่งเป็นคนที่รู้จักกัน เนื่องจากเป็นคนบ้านเดียวกัน ต้องการจะประกอบอาชีพสวนยางพาราในที่ดินบริเวณที่มีปัญหาอยู่ในขณะนี้ ตนจึงได้แนะนำว่าให้ระมัดระวังเรื่องที่ดินบริเวณดังกล่าวว่าอยู่ในเขตป่าหรือไม่ เพราะที่ดินในบริเวณเทือกเขาบรรทัดมีปัญหามาโดยตลอด
ทั้งนี้ เนื่องจากในอดีตนั้น ตนเคยรับราชการเป็นปลัดอำเภอ อยู่ที่อำเภอปากพะยูน จ.พัทลุง ซึ่งมีพื้นที่ติดต่อกับอำเภอตะโหมด มาก่อน
นายธำรง กล่าวอีกว่า นายเล็ก ได้ซื้อที่ดินมาจากชาวบ้านในบริเวณนั้น เป็นที่ดินพร้อมด้วยสวนยางพาราซึ่งมีอายุมากแล้ว ไม่สามารถที่จะกรีดน้ำยางได้อีก เมื่อเป็นเช่นนั้นเจ้าของสวนยางพาราเดิมได้มอบฉันฑะแก่ผู้ซื้อไปขอรับสงเคราะห์การทำสวนยาง จากกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยางจังหวัดพัทลุง และต่อมากองทุนสวนยางฯได้อนุมัติเงินสงเคราะห์
และโดยเฉพาะรอบๆ บริเวณสวนยางพาราที่นายเล็กซื้อ มีสวนยางพาราล้อมรอบ และปัจจุบันมีการกรีดยางเป็นปกติ และอยู่ไม่ห่างจากชุมชน มีบ้านเรือนของชาวบ้านปลูกอาศัยอยู่นานไม่ต่ำกว่า 60 ปี มีทั้งสถานีอนามัยอยู่ใกล้เคียง มีไฟ้ฟ้า และถนนลาดยาง ฯลฯ
“เมื่อนายเล็กได้รับสงเคราะห์การทำสวนยางแล้ว ก็ได้เริ่มปลูกยางพาราทดแทนของเดิมในบริเวณที่ดินที่ซื้อมาเท่านั้น ไม่ได้มีการแผ้วถางหรือตัดโค่นต้นไม้ภายนอกที่ดินแต่อย่างใด ซึ่งตนได้ตั้งข้อสังเกตว่าห่างจากสวนยางพาราของนายเล็กซื้อนั้น มีการตัดโค่นต้นไม้ ซึ่งตนไม่ทราบว่าเป็นใคร เนื่องจากตนได้มารับตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา
ต่อมาเมื่อมีการแอบอ้างว่าตนได้จ้างวานให้แผ้วถางป่านั้น ไม่เป็นความจริง เพราะตนเป็นคนมีคุณธรรม มีสติปัญญาดีพอ ประวัติการทำงานไม่เคยด่างพร้อยมาก่อน และก่อนหน้านี้ตนได้รับแจ้งจากคนที่รู้จักว่ามีการแอบอ้างชื่อตนในการแผ้วถางป่าและตัดโค่นต้นไม้ จึงได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ป่าไม้และเจ้าหน้าที่อุทยานจับกุม ซึ่งตนไม่เกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
ประการต่อมาตนทราบว่า นายเล็ก ได้ปลูกยางพาราเสร็จก่อนฤดูฝนแล้ว แต่จากภาพข่าวต้นไม้ที่ถูกตัดโค่นจากผู้ลักลอบตัดต้นไม้ยังมีสภาพใหม่ รอยตัดยังมียาง หรือลอยแผล และใบไม้ยังสดอยู่ แสดงว่าไม่ใช่ต้นไม้ในสวนยางพาราที่นายเล็กซื้อมา เนื่องจากมีการลักลอบตัดต้นไม้จากแปลงอื่น ซึ่งชาวบ้านในบริเวณนั้นทราบดีว่าใครเป็นคนตัดโค่นต้นไม่ดังกล่าว
นายธำรง กล่าวอีกว่า กรณีที่มีการระบุว่า ตนเป็นคนว่าจ้างให้นายโข่ง และ นายสุชาติ เป็นคนแผ้วถางป่านั้น ตนไม่รู้จักทั้งสองคน แต่สองคนนั้นมาแอบอ้างว่าตนเป็นคนว่าจ้างซึ่งเป็นเรื่องธรรมดา ตนรู้จักเฉพาะนายเล็กที่เป็นพรรคพวกเท่านั้นที่ซื้อสวนยางพาราเก่ามา ส่วนการลักลอบตัดไม้นอกแปลงของนายเล็กนั้น ตนไม่ทราบ แต่มีคนพยายามที่จะเชื่อมโยงเข้ากับสวนยางแปลงที่นายเล็กซื้อมา ทั้งๆ ที่เป็นคนละแปลงกัน
ส่วนกรณีที่มีการระบุว่า มีการลักลอบต้นไม้ในพื้นที่จำนวน 3,000 ไร่นานนับสิบปีนั้น นายธำรง กล่าวว่า จริงๆ ไม่ใช่การบุกรุกป่าของชาวบ้าน ที่บริเวณเขาหัวช้าง ต.ตะโหมด หน่วยงานราชการกำลังจะก่อสร้างอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ในพื้นที่พันกว่าไร่ ซึ่งได้ขออนุญาติจากกรมป่าไม้เรียบร้อยแล้ว เพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมและปัญหาขาดแคลนน้ำ ตนจะเข้าไปเกี่ยวข้องได้อย่างไร
อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ หากมีการเรียกตนเข้าไปชี้แจง ก็จะยืนยันและอธิบายกับทางกรมอุทยานแบบนี้ เพราะตนไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้อง เพียงแต่นายเล็กเขามาขอคำปรึกษาเท่านั้น ทำให้ชาวบ้านเข้าใจผิดคิดว่าที่ดินแปลงดังกล่าวเป็นของตน