พัทลุง - ประธานกรรมาธิการที่ดินและสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร ออกมาเรียกร้องเร่งแก้ปัญหาบุกรุกป่าเทือกเขาบรรทัด สำรวจพบกลุ่มนายทุนว่าจ้างชาวบ้านแผ้วถางป่าบนเนื้อที่นับ 1,000 ไร่ เพื่อรอทำการเผาในช่วงหน้าแล้งก่อนที่จะทำการปลูกต้นยางพาราต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพัทลุงว่า หลังจากชาวบ้านร้องเรียนพบกลุ่มนายทุนแอบลักลอบตัดไม้ทำแผ้วถางเพื่อทำการปลูกยางพาราพื้นที่ป่าเทือกเขาบรรทัด ต.คลองใหญ่ ต.เขาหัวช้าง อ.ตะโหมด จ.พัทลุง โดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย
วันนี้ (6 ก.พ.) จากการลงพื้นที่ตรวจสอบตามแนวเขาในพื้นที่หมู่บ้านดังกล่าว พบกลุ่มนายทุนได้ว่าจ้างชาวบ้านแผ้วถางป่าและโค่นล้มไม้ขนาดใหญ่ จำพวกไม้ยาง ไม้ตะเคียน อายุกว่า 300 ปี วัดเส้นรอบวงได้กว่า 360 เซนติเมตร และไม้ขนาดเล็กอีกหลายชนิดบนเนื้อที่นับ 1,000 ไร่ เพื่อรอทำการเผาในช่วงหน้าแล้งที่กำลังจะมาถึง ก่อนที่จะทำการปลูกต้นยางพาราต่อไป และบางแปลงได้ตัดต้นไม้ขนาดเล็กออกรอจังหวะที่จะโค่นต้นไม้ใหญ่ตามลงมา และตลอดเส้นทางเดินเข้าป่ายังพบว่ามีการแปรรูปไม้เป็นจำนวนมาก
จากการสำรวจพบว่า แปลงที่ถูกโค่นล้มแผ้วถางอยู่ในกลางหุบเขา ต้องเดินเท้าเข้าไปนานกว่า 4 ชั่วโมง บนเส้นทางที่ลาดชันซึ่งยากต่อการตรวจตราของเจ้าหน้าที่ และบางแปลงทางเจ้าหน้าที่ป่าไม้ได้นำป้ายตรวจยึดไปติดไว้ แต่ก็ยังไม่วายที่ต้นไม้ยังถูกโค่นโดยไม่มีการเกรงกลัวกฎหมายแต่อย่างใด
ในขณะที่ นายนริศ ขำนุรักษ์ ประธานกรรมาธิการที่ดินและสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า สถานการณ์บุกแผ้วถางป่าไม้ยังคงน่าเป็นห่วง โดยภาพรวมทั่วไปการทำงานของเจ้าหน้าที่ยังคงหย่อนยาน อย่างป่าเทือกเขาบรรทัดในเขตพื้นที่จังหวัดพัทลุง ตรัง สตูล และสงขลา ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาถูกนายทุนบุกรุก ข้าราชการแผ้วถางเพื่อปลูกยางพาราเป็นจำนวนมาก พร้อมทั้งถูกบุกรุกสร้างรีสอร์ตและที่พักไม่ต่างจากป่าวังน้ำเขียว จึงขอเรียกร้องให้อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช เร่งส่งเจ้าหน้าที่ลงมาแก้ไขอย่างเร่งด่วน ก่อนที่ป่าผืนสมบูรณ์ผืนสุดท้ายของภาคใต้จะถูกตัดโค่นจับจองไปมากกว่านี้