ศูนย์ข่าวภูเก็ต - จังหวัดภูเก็ตประกาศดีเดย์กวาดล้างขอทาน-คนเร่ร่อน 14 ก.พ.นี้ หวังสร้างภาพลักษณ์เมืองท่องเที่ยวระดับโลก ต้องปลอดจากกลุ่มคนขอทานและเร่ร่อนทั้งไทยและต่างชาติ ด้านพัฒนาสังคมฯ เผยปี 54 จับกุมได้ 30 ราย ปีนี้แค่เดือนเดียวจับไปแล้ว 3 ราย มีนายหน้านำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน
น.ส.ชวนชม จันทะวงษ์ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดภูเก็ต เปิดเผยถึงการแก้ปัญหาขอทาน และคนเร่ร่อนในจังหวัดภูเก็ตว่า ปัจจุบันปัญหาคนเร่ร่อนและขอทานในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตจะทวีความรุนแรงมากขึ้น ประกอบกับจังหวัดภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลก จึงไม่เหมาะที่จะมีภาพลักษณ์เหล่านี้ ทางผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต จึงได้มอบหมายให้สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดภูเก็ต (พมจ.) ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งตำรวจภูธรจังหวัด สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด เจ้าพนักงานปกครองอำเภอ บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัด บ้านมิตรไมตรีภูเก็ต และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ดำเนินการกวดขันคนเร่ร่อน และขอทานในพื้นที่ 3 อำเภอของจังหวัดภูเก็ต ที่มีพฤติกรรมขอเงินจากนักท่องเที่ยว และประชาชนทั่วไป
โดยขอทานหรือคนเร่ร่อนกลุ่มนี้มักจะพบเห็นตามแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัด หรือตามตลาดสด ตลาดนัด ซึ่งประชาชนไปจับจ่ายซื้อของ คนกลุ่มนี้ส่วนหนึ่งเข้ามาในจังหวัดภูเก็ต เพื่อแสวงหารายได้หรือบางรายถูกบังคับขู่เข็ญให้เป็นขอทาน
น.ส.ชวนชมเผยอีกว่า บุคคลเร่ร่อนหรือขอทานซึ่งมีทั้งเด็ก ผู้หญิง คนพิการ ผู้สูงอายุ ที่พบส่วนใหญ่เป็นคนไทยที่มีฐานะยากจนหรือคนต่างด้าว ทั้งนี้ บุคคลที่ขอทานมักมีรายได้ที่ดี หลายรายที่กวดขันจับกุมได้ สอบถามพบว่า มีรายได้ไม่ต่ำกว่าวันละ 500 บาท
อย่างไรก็ตาม จากการกวดขันจับกุมบุคคลเร่ร่อน ขอทาน ตาม พ.ร.บ.ควบคุมการขอทาน พ.ศ. 2484 เฉพาะในปี 2554 สามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้ 30 ราย สำหรับปี 2555 เดือนมกราคม ได้ออกไปกวดขันในพื้นที่สะพานหิน เทศบาลเมืองกะทู้ วัดฉลอง ตลาดนัดสามกอง ป่าตอง และตลาดนัดหัวสะพานรัษฎา รวม 7 ครั้ง สามารถจับกุมขอทานชาวกัมพูชาได้ 3 ราย เป็นเด็กผู้หญิงอายุประมาณ 7 ขวบ 1 ราย และเป็นผู้ใหญ่ซึ่งเป็นผู้ชาย 2 ราย ทั้งนี้ จากการสอบถามคิดว่าขอทานกลุ่มดังกล่าวอาจจะมีนายหน้าพามาจากต่างประเทศ
ส่วนการดำเนินการหลังการจับกุมนั้น น.ส.ชวนชมกล่าวว่า กรณีผู้กระทำผิดและมีอายุตั้งแต่ 18-60 ปี จะส่งตัวไปสถานสงเคราะห์คนไร้ที่พึ่งภาคใต้ อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช เพื่อการสงเคราะห์และส่งเสริมอาชีพที่เหมาะสม ไม่ให้กลับมาขอทานอีก กรณีพบผู้กระทำความผิดที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี จะเรียกผู้ปกครองมาว่ากล่าวตักเตือน ทำทัณฑ์บน และปล่อยตัวกลับไป หากไม่มีผู้ปกครองมารับ จะส่งตัวไปสถานแรกรับ คือบ้านพักเด็กและครอบครัวเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย
กรณีผู้กระทำความผิดมีอายุ 60 ปีขึ้นไป จะส่งตัวไปศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุ เพื่อให้การสงเคราะห์ กรณีผู้กระทำความผิดเป็นคนต่างด้าว จะประสานส่งต่อสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองภูเก็ต เพื่อดำเนินการตามกฎหมายและผลักดันกลับประเทศต้นทาง กรณีผู้กระทำความผิดเป็นบุคคลที่มีโรคติดต่อร้ายแรง เช่นโรคเรื้อน หรือคนวิกลจริต จะประสานสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเพื่อดำเนินการในส่วนเกี่ยวข้องต่อไป
อย่างไรก็ตาม การขอทานจะไม่หมดไปจากจังหวัดภูเก็ต ถ้าทุกคนไม่หยุดให้เงินขอทาน และขอความร่วมมือประชาชน และนักท่องเที่ยว ถ้าพบเห็นการใช้แรงงานเด็ก คนเร่ร่อน ขอทาน ซึ่งบุคคลกลุ่มนี้อยู่ในขบวนการค้ามนุษย์ ให้แจ้งมาที่เบอร์กลางของศูนย์ประชาบดี 1300 เพื่อเข้าไปดำเนินการกวดขันจับกุมต่อไป
น.ส.ชวนชมกล่าวในตอนท้ายว่า หลังได้รับคำสั่งจากผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตให้ทางพม.ผนึกกำลังกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการกวาดล้างขอทาน และคนเร่ร่อนให้หมดไปจากจังหวัดภูเก็ต เริ่มกวาดล้างอย่างเป็นทางการในวันที่ 14 ก.พ. 2555 นี้ โดยจะมีการประชุมร่วมของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด หลังจากนั้นก็จะตั้งชุดเฉพาะกิจอำเภอละ 1 ชุด ออกตระเวนไปตามจุดต่างๆ ที่เป็นจุดที่คนขอทานออกทำงานเป็นจำนวนมาก ซึ่งการออกกวาดล้างดังกล่าวจะทำให้ขอทานและคนเร่ร่อนหมดไปจากภูเก็ต
