นครศรีธรรมราช - “เทพไท” เย้ยคำทำนายปี 2564 “ณัฐวุฒิ” เป็นนายกรัฐมนตรี แนะต้องผ่านคุกคดีเผาเมืองก่อน หากเป็นไปได้ต้องดูว่าเป็นเกียรติด้านใด
นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ แสดงความเห็นถึงกรณีการทำบุญเลี้ยงฉลองตำแหน่ง รมช.เกษตรและสหกรณ์ ของ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่ อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช และมีการพูดถึงการผูกดวงของนายณัฐวุฒิ ว่า จะเป็นนายกรัฐมนตรีในปี 2564 หรืออีก 9 ปีข้างหน้า และมีการพาดพิงมาถึง นายเทพไท เสนพงศ์ ในบางช่วงบางตอน ว่าเป็นความใฝ่ฝันของนักการเมืองทุกคนที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี
“แต่ทั้งนี้ การเป็นนายกรัฐมนตรีนั้นขึ้นอยู่กับวาสนา ขึ้นอยู่กับผลงานจนเป็นที่ยอมรับหรือไม่ หรือคิดฝันจะเป็นนายกรัฐมนตรีตามหมอดูอีก 9 ปีนั้น คงต้องผ่านเรื่องของคุกในคดีเผาเมือง คดีก่อการร้ายไปให้ได้ก่อนอีก 15 ปี 20 ปี หาก 9 ปี นายณัฐวุฒิเป็นนายกรัฐมนตรีเป็นจริงคงเป็นเรื่องความภูมิใจของคนนครศรีธรรมราช เป็นเกียรติด้านใดนั้นต้องดูกันอีกที แต่ถ้าเป็นไปได้นั้นต้องเป็นเพื่อคนไทยทุกคนไม่ใช่เพื่อคนเดียวอย่างที่นายณัฐวุฒิทำมา” นายเทพไท กล่าว
นายเทพไท ยังกล่าวถึงผู้บริหารภาคราชการระดับสูงคนหนึ่งของนครศรีธรรมราช ที่ไปแสดงบทบาทบนเวทีอย่างออกนอกหน้าถึงการได้ย้ายมายังนครศรีธรรมราช เพราะ นายณัฐวุฒิ และนายจตุพร ว่า ขณะนี้บ้านเมืองต้องการความปรองดองแต่หากผู้บริหารทำการเช่นนี้มันก็ไม่สอดคล้องกับรัฐบาล ยังคิดแบ่งแยกเป็นฝักฝ่าย การไปทำเช่นนั้นเหมือนกับมีนัยยะแอบแฝงเอาใจนักการเมืองหวังงบประมาณ หวังผลประโยชน์ส่วนตัว ตำแหน่งทางการเมืองคือหัวโขนไม่จีรังยั่งยืน ควรทำหน้าที่เพื่อบ้านเมืองจะดีกว่า
นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ แสดงความเห็นถึงกรณีการทำบุญเลี้ยงฉลองตำแหน่ง รมช.เกษตรและสหกรณ์ ของ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่ อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช และมีการพูดถึงการผูกดวงของนายณัฐวุฒิ ว่า จะเป็นนายกรัฐมนตรีในปี 2564 หรืออีก 9 ปีข้างหน้า และมีการพาดพิงมาถึง นายเทพไท เสนพงศ์ ในบางช่วงบางตอน ว่าเป็นความใฝ่ฝันของนักการเมืองทุกคนที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี
“แต่ทั้งนี้ การเป็นนายกรัฐมนตรีนั้นขึ้นอยู่กับวาสนา ขึ้นอยู่กับผลงานจนเป็นที่ยอมรับหรือไม่ หรือคิดฝันจะเป็นนายกรัฐมนตรีตามหมอดูอีก 9 ปีนั้น คงต้องผ่านเรื่องของคุกในคดีเผาเมือง คดีก่อการร้ายไปให้ได้ก่อนอีก 15 ปี 20 ปี หาก 9 ปี นายณัฐวุฒิเป็นนายกรัฐมนตรีเป็นจริงคงเป็นเรื่องความภูมิใจของคนนครศรีธรรมราช เป็นเกียรติด้านใดนั้นต้องดูกันอีกที แต่ถ้าเป็นไปได้นั้นต้องเป็นเพื่อคนไทยทุกคนไม่ใช่เพื่อคนเดียวอย่างที่นายณัฐวุฒิทำมา” นายเทพไท กล่าว
นายเทพไท ยังกล่าวถึงผู้บริหารภาคราชการระดับสูงคนหนึ่งของนครศรีธรรมราช ที่ไปแสดงบทบาทบนเวทีอย่างออกนอกหน้าถึงการได้ย้ายมายังนครศรีธรรมราช เพราะ นายณัฐวุฒิ และนายจตุพร ว่า ขณะนี้บ้านเมืองต้องการความปรองดองแต่หากผู้บริหารทำการเช่นนี้มันก็ไม่สอดคล้องกับรัฐบาล ยังคิดแบ่งแยกเป็นฝักฝ่าย การไปทำเช่นนั้นเหมือนกับมีนัยยะแอบแฝงเอาใจนักการเมืองหวังงบประมาณ หวังผลประโยชน์ส่วนตัว ตำแหน่งทางการเมืองคือหัวโขนไม่จีรังยั่งยืน ควรทำหน้าที่เพื่อบ้านเมืองจะดีกว่า