xs
xsm
sm
md
lg

นอภ.คุระบุรี สั่งเข้มกำจัดต้นกระท่อมให้หมดพื้นที่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายมานิต  เพียรทอง นายอำเภอคุระบุรี จ.พังงา ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง จำนวน 30 นายบุกเข้าทำลายต้นกระท่อมที่ลักลอบปลูกในสวนยาง
พังงา - นายอำเภอคุระบุรี จ.พังงา นำกำลังฝ่ายปกครองตัดทำลายต้นกระท่อม กว่า 60 ต้น หลังพบมีการลักลอบปลูกในสวนยางพารา พร้อมสั่งทุกพื้นที่ระดมกำลังกวาดล้างให้สิ้นซาก หากพื้นที่ใดไม่ปฏิบัติตามถือเป็นการขัดคำสั่งจะตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัย

เมื่อเวลา 11.00 น. วันนี้ (4 ก.พ.) นายมานิต เพียรทอง นายอำเภอคุระบุรี จ.พังงา ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง จำนวน 30 นาย เดินทางด้วยรถปิกอัพ 7 คัน จากตัวอำเภอเข้าสู่พื้นที่ที่มีการลักลอบปลูกต้นกระท่อม ระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร จากนั้นได้เดินเท้าเข้าสู่สวนยาง หมู่ที่ 7 บ้านแสงทอง ตำบลคุระ อ.คุระบุรี ซึ่งเป็นสวนยางพาราขนาดใหญ่กว่า 100 ไร่ โดยขณะที่เจ้าหน้าที่เดินทางถึงพบว่าคนงานได้ไหวตัวหลบหนีเข้าป่าไปหมดแล้ว

จากการตรวจสอบพื้นที่รอบๆ บ้านพักคนงานซึ่งเป็นชาวพม่า พบต้นกระท่อมที่มีอายุกว่า 10 ปีขึ้นไป จำนวน 67 ต้น ยังพบว่ามีการปลูกต้นกระท่อมขนาดเล็กรอบๆพื้นที่อีกประมาณ 200 ต้น โดยสวนใหญ่ปลูกในร่องยางพารา และมีการย้ายต้นกระท่อมออกไปบางส่วนก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเดินทางเข้าถึง

นอกจากนั้น ยังมีการตัดทำลายต้นกระท่อมขนาดใหญ่ลงไปแล้วกว่า 30 ต้น จึงได้ให้เจ้าหน้าที่ อส.และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ใช้อุปกรณ์ตัดทำลายต้นกระท่อมทั้งหมดทิ้งพร้อมกับเผาทำลายทันที แล้วให้ทายาฆ่าต้นตอกระท่อมเพื่อไม่ให้มีการงอกขึ้นมาแทนอีก

นายมานิต กล่าวว่าในพื้นที่อำเภอคุระบุรี มีการปลูกต้นกระท่อมเป็นจำนวนมาก จึงได้กำชับให้ผู้นำชุมชนกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เร่งออกสำรวจว่ามีการปลูกต้นกระท่อมในพื้นที่ของตนเองหรือไม่ หากพบว่าพื้นที่ใดยังคงปล่อยให้มีการปลูกอยู่อีกให้รีบทำลายทิ้งให้หมด พื้นที่ใดไม่ทำลายจะถือว่าเป็นการขัดคำสั่ง จะต้องตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยกับผู้นำชุมชน โดยเฉพาะกำนันผู้ใหญ่บ้าน ฝ่ายปกครองที่รับผิดชอบ หากมีส่วนร่วมรู้เห็นเป็นใจกับการกระทำผิดจะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายอาญาด้วย

ที่ผ่านมาพบว่าพื้นที่อำเภอคุระบุรีมีการปลูกต้นกระท่อมมานาน และเป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่คนในหมู่บ้านจะใช้รับประทานเพื่อทำงานหรือเป็นยา ซึ่งกฎหมายยังไม่รุนแรงสามารถอนุโลมได้ ต่อมาเมื่อสังคมเปลี่ยนไปกลับมีการนำใบกระท่อมไปผสมกับสารตัวอื่นๆ เพื่อให้เป็นยาเสพติดที่รุนแรงขึ้น ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน โดยเฉพาะเด็กและเยาวชน กฎหมายจึงได้กำหนดให้เป็นยาเสพติดประเภท 1 มีการเพิ่มโทษสูงขึ้น จึงต้องมีการทำลายทิ้งทั้งหมด ไม่ให้มีการปลูกอีกต่อไป

"ตั้งแต่ดำเนินการตามนโยบายนี้อย่างจริงจัง ได้มีการทำลายต้นกระท่อมไปแล้วทั้งหมดรวม 723 ต้น นับว่าเป็นพื้นที่ที่มีการปลูกมากในภาคใต้ สำหรับรายล่าสุดนี้จะสั่งการให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีกับเจ้าของที่ดินที่ปลูกต้นกระท่อมให้ถึงที่สุดด้วย" นายมานิต กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น