นครศรีธรรมราช - ชาวบ้านเข้าชื่อนับร้อยร้องผู้ว่าฯ ค้านสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวลของเอกชนที่ขายให้กับ กฟภ. มึนยังไม่ประชาคม-ประชาพิจารณ์ แต่ อบต.อนุมัติสร้างเฉย ขณะที่ทั้งแบบผังและแบบแปลนยังไม่ปรากฏด้วยซ้ำ ซึ่งหากเกิดขึ้นจริงจะอยู่ใจกลางชุมชนที่มีประชากรหนาแน่น
วันนี้ (3 ก.พ.) เมื่อเวลา 13.30 น.ที่ศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช นายเอกชัย เพชรอาวุธ, นายจิระวัฒน์ สิขิวัฒน์, นายวิทยา เชื่อพุทธ ในฐานะตัวแทนของชาว ต.ทุ่งสังข์ อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ได้เข้าขื่นหนังสือต่อนายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อคัดค้านการตั้งโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวล ในพื้นที่ ต.ทุ่งสังข์ อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช พร้อมกันนั้นได้แนบบัญชีรายชื่อของผู้ที่แสดงตนคัดค้านโครงการดังกล่าวหลายร้อยคน
นายวิทยา เชื่อพุทธ ในฐานะตัวแทนชาวบ้านได้เข้ายื่นเอกสารการคัดค้านโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลดังกล่าว มีสาระสำคัญว่าการเข้ามาเตรียมการก่อสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวลของบริษัทเอกชนได้สร้างความวิตกให้กับชุมชนในตำบลทุ่งสังข์เป็นอย่างมาก เนื่องจาก อบต.ไม่มีความชัดเจนและชี้แจงใดๆ กับประชาชนในพื้นที่
จนกระทั่งมีเอกสารรายงานการประชุมสภาออกมามีมติให้สร้างโรงไฟฟ้าชีวมวลตามเอกสารโครงการของ บ.ทุ่งสังข์กรีนจำกัด ซึ่งยิ่งสร้างความวิตกไปทั้งชุมชน โดย อบต.ไม่ได้เปิดทำประชาพิจารณ์ ประชาคม หรือสอบถามความเห็นหรือการมีส่วนร่วมของชาวบ้าน
“สำหรับโครงการแห่งนี้จะตั้งอยู่กลางชุมชนดั้งเดิมของตำบลทุ่งสังข์มีประชากรหนาแน่น เส้นทางจราจรคับคั่ง มีวัดอยู่ใกล้เคียง 3 วัด โรงเรียน 3 โรง ศูนย์เด็กเล็ก 1 แห่ง และมีแหล่งน้ำสำคัญคือลุ่มน้ำคลองสังข์ รวมทั้งระบบชลประทาน และรายละเอียดของโครงการที่สร้างความเคลือบแคลงสงสัยในกระบวนการทั้ง อบต. และฝ่ายท่องที่โดยไม่น่าไว้วางใจ” นายวิทยากล่าว
ขณะที่นายจิระวัสส์ สิขิวัสส์ ตัวแทนชาวบ้านที่เข้าร่วมยื่นหนังสืออีกราย กล่าวเพิ่มเติมว่า ในวันนี้จะเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อดำเนินคดีกับผู้ใหญ่บ้านรายหนึ่งในพื้นที่ เนื่องจากผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับการสร้างโรงไฟฟ้าได้มีการนำเอาป้ายไปติดตั้งคัดค้านการก่อสร้างยังที่สาธารณะตรงข้ามกับสถานที่ตั้งโครงการ ผู้ใหญ่บ้านรายดังกล่าวได้นำพวกเข้ารื้อทำลายโดยอ้างว่าในพื้นที่เขาไม่สามารถติดตั้งป้ายได้ทั้งที่จุดดังกล่าวเป็นที่สาธารณะ
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้ตรวจสอบโครงการดังกล่าว พบว่าเป็นการพัฒนาพลังงานทดแทน ในโครงการผลิตไฟฟ้าด้วยชีวมวลของ บริษัททุ่งสังกรีน จำกัด มีกำลังการผลิต 9.5 เมกกะวัตถ์ และจำหน่ายให้กับ กฟภ. 9.2 เมกกะวัตต์ ภายใต้โครงการผู้ผลิตไฟฟ้าขนาดเล็กมาก ตามนโยบายสนับสนุนการใช้พลังงานทดแทน โดยมีเชื้อเพลิงชีวมวลประเภทตอไม้ยางพารา เศษไม้ยางพาราเป็นเชื้อเพลิงหลัก
นอกจากนี้ยังมีรายงานการประชุมที่มี นายวรรธนะ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา ในฐานะผู้แทนบริษัท ทุ่งสังกรีน จำกัด นายอรรถพล ณ นคร ในฐานะวิศวกรประจำโครงการ เข้าร่วมการประชุม สภา อบต.ทุ่งสัง เมื่อวันที่ 12 ม.ค.55 ชี้แจงถึงโครงการดังกล่าว
โดยเนื้อหาระบุว่าเหตุที่ไม่ต้องทำประชาพิจารณ์ หรือประชาคมนั้น เนื่องจากกฎหมายระบุไว้ว่า หากโรงไฟฟ้าผลิตเกิน 10 เมกกะวัตต์จะต้องทำประชาพิจารณ์ แต่ในกรณีของโรงไฟฟ้าชีวมวลดังกล่าวนั้นไม่ต้องทำประชาพิจารณ์เนื่องจากมีกำลังการผลิตแค่ 9.5 เมกกะวัตต์เท่านั้น จึงเป็นเหตุยกเว้นไม่ต้องทำประชาพิจารณ์นั่นเอง
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่าประชาชนในพื้นที่ได้หวาดวิตกกับโครงการดังกล่าว โดยหากไม่มีความชัดเจนหรือการชี้แจงใดๆ หลังจากนี้อาจจะมีการรวมตัวเพื่อประท้วงคัดค้านการก่อสร้างอีกครั้ง