ศิลปิน-นักศึกษาเมืองคอน ยื่นหนังสือผู้ว่าฯชวนปกป้องอ่าว

นครศรีธรรมราช - เครือข่ายศิลปิน และนักศึกษาจังหวัดนครศรีธรรมราช ตั้งโต๊ะหน้าจวนผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่ออ่านแถลงการณ์ และยื่นหนังสือ เชิญให้เป็นกำลังหลักร่วมกันปกป้องอ่าวทองคำสู่แหล่งอาหารโลก

วันนี้ (29 ม.ค.) เมื่อเวลา 15.00 น.ที่บริเวณหน้าจวนผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ถ.ราชดำเนิน อ.เมืองนครศรีธรรมราช ได้มีกลุ่มมวลชนในนาม “เครือข่ายศิลปินเมืองคอน” และ “เครือข่ายนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฎนครศรีธรรมราช” ประมาณ 30 คน นำโดย นายภัทรา ผดุงสุนทรารักษ์ นักวิชาการจาก ม.ทักษิณ นายศุภกร วงเมฆ หรือ “ตุด นาคอน” นายเกษม จันทร์ดำ นักกวี นายเอกลักษณ์ ชนะนคร เครือข่ายนักศึกษา ม.ราชภัฏ นายปริทัศน์ หุตางกูร ได้มาตั้งโต๊ะ เพื่ออ่านแถลงการณ์ และยื่นหนังสือถึง นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อเชิญให้เป็นกำลังหลักร่วมกันปกป้องอ่าวทองคำสู่แหล่งอาหารโลก

โดยขณะที่กลุ่มเครือข่ายได้ตั้งโต๊ะหน้าจวนผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำพล สังข์ทอง ปลัดอำเภอ ได้เข้ามาพยายามเจรจาให้ย้ายสถานที่ จากหน้าจวนผู้ว่าราชการจังหวัดไปยังศาลาประดู่หกที่อยู่ใกล้กัน จนเกือบกระทบกระทั่งกันขึ้น เนื่องจากการตั้งโต๊ะหน้าจวนผู้ว่าราชการจังหวัดนั้น จะเป็นภาพที่ไม่งาม และเกรงว่าจะมีการกล่าวปราศรัยที่รุนแรงก้าวร้าว

ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่หลายคนที่มาดูแลอยู่ในบริเวณดังกล่าว ต่างวิตกกังวลเนื่องจากอยู่ในช่วงการเตรียมเปิดกีฬา อบจ.ทั้ง 15 จังหวัด นับแต่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ลงมา โดยที่จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นเจ้าภาพ แต่ในที่สุดทางกลุ่มเครือข่ายได้เจรจา ว่า จะใช้เวลาไม่นานจนสามารถตั้งโต๊ะต่อไปได้

โดยในการแถลงการณ์นั้น ได้เริ่มจาก นายภัทรา ผดุงสุนทรารักษ์ นักวิชาการจาก ม.ทักษิณ ได้แถลงในเชิงวิชาการ ในสารสำคัญการป้องกันรักษาทรัพยากรของชาติ และการเข้ามาของกลุ่มทุนที่มาฉกฉวยแย่งชิงทรัพยากร ต่อมาเป็น นายศุภกร วงเมฆ หรือ ตุด นาคร ได้ร้องเพลงที่แต่งขึ้นสดๆ เพื่อแสดงการต่อต้าน โครงการของ บริษัท เชฟรอน จากนั้น นายเกษม จันทร์ดำ ได้อ่านบทกวี

ส่วนการยื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช นั้นสารสำคัญได้ระบุว่า จากนโยบายหลายรัฐบาลที่ผ่านมา ได้มีความพยายามที่จะเข้ามาเปลี่ยนสภาพของความมั่นคงของทรัพยากร ให้จังหวัดนครศรีธรรมราช ก้าวเข้าสู่ความเป็นนิคมอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ครบวงจร อันประกอบด้วย อุตสาหกรรมโรงกลั่นแยกก๊าซ อุตสาหกรรมปิโตรเคมี โรงไฟฟ้าถ่านหิน โรงไฟฟ้าปรมาณู การสร้างเขื่อน ท่าเรือน้ำลึกของ บ.เชฟรอน

“จากนโยบายที่จะเข้ามากำหนดทิศทางใหม่ดังกล่าว นับว่าไม่เป็นธรรมกับประชาชนชาวนครศรีธรรมราช กับผลกระทบที่สามารถรับรู้ และดูเป็นตัวอย่างได้จากทั่วโลก เช่น ผลของโรงไฟฟ้าถ่านหิน-ปรมาณู นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดที่กลายเป็นแหล่งควบคุมมลพิษ เพราะประชาชนเป็นโรคทางเดินหายใจ และมะเร็งอันดับหนึ่ง ในนามกลุ่มศิลปินเมืองคอน จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นกลุ่มคนทำงานศิลปะ นักดนตรี กวี และนักเขียน ซึ่งมีความรักห่วงใย และตระหนักต่อผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นแก่บ้านเกิด

จึงขอเสนอมายังผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้แสดงบทบาทเป็นกำลังหลัก โดยเฉพาะชุมชนประมงชายฝั่ง ในการปกป้องแผ่นดินอ่าวทองคำ ก่อนจะเปลี่ยนไปสู่ทิศทางการพัฒนาที่ก่อมลพิษแก่ทรัพยากรสิ่งแวดล้อม มลพิษทางด้านสังคม และวัฒนธรรม ที่อาจกู้คืนและเยียวยา ให้ได้ดำรงไว้ซึ่งความอุดมสมบูรณ์ของความเป็นแหล่งอาหารดังเช่นปัจจุบัน” หนังสือฉบับดังกล่าวระบุ

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า หลังจากนั้นกลุ่มเครือข่ายได้แยกย้ายสลายตัวไปในที่สุด