เลขาธิการ ศอ.บต.เตรียมความพร้อมประชุม คกก.ยุทธศาสตร์พัฒนา จชต.

ยะลา - เลขาธิการ ศอ.บต.เรียกผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ประชุมเตรียมความพร้อมในการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ทำเนียบรัฐบาล

วันนี้ (26 ม.ค.) เมื่อเวลา 08.30 น. ที่ห้องศูนย์ปฏิบัติการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ถ.สุขยางค์ เขตเทศบาลนครยะลา อ.เมือง จ.ยะลา พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นประธานเตรียมความพร้อมการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ก.พ.ต.) ครั้ง 1/2555 ที่จะมีขึ้นในวันที่ 30 มกราคม 2555 นี้ เวลา 10.30 น. ณ ห้องประชุมวิจิตรวาทการ สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ทำเนียบรัฐบาล กรุงเทพมหานคร

โดยมี นายประมุข ลมุล รองเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนใต้ (ฝ่ายบริหาร), นายฐานิส ศรียะพันธ์ รองเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้, ผศ.ปิยะ กิจถาวร รองเลขาธิการ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมด้วยตัวแทนสำนัก กองต่างๆ ของศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ และบุคลกรทางการศึกษาของโรงเรียนสอนศาสนาอิสลาม โรงเรียนตาดีกา เข้าร่วมประชุมกว่า 30 คน

พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวว่า จากความก้าวหน้าผลการดำเนินงาน ตามคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ผ่านมา มีการเร่งรัดให้ดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี โดยจัดตั้งโครงการต่างๆ มากมาย เช่น โครงการจัดตั้งคณะสัตวแพทย์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เพื่อเป็นการรองรับการพัฒนาอุตสาหกรรมฮาลาล โครงการมาตรการรักษาความปลอดภัยของครู ซึ่งศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้เน้นการบูรณาการทางด้านการศึกษา พัฒนาห้องเรียนวิทยาศาสตร์ ห้องเรียนคอมพิวเตอร์ในโรงเรียนสอนศาสนาอิสลามในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้นักเรียนได้มีความรู้เพื่อก้าวสู่เวทีประชาคมอาเซียน

โดยมีการให้เงินอุดหนุนแก่สำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ มัสยิดละ 10,000 บาท จำนวน 2,334 แห่ง พร้อมเงินสนับสนุนค่าตอบแทนแก่อิหม่าม คอเต็บ บิหลั่น ในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพิ่มขึ้นเป็น 3,000 บาท/เดือน ส่งเสริมแนวคิดพหุวัฒนธรรมในพื้นที่ ที่มีความหลากหลายให้เป็นเอกลักษณ์ที่มีความโดดเด่น และการให้ความเป็นธรรม ด้านการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบ โดยจะจ่ายค่าความเสียหายตามที่เกิดขึ้นจริง เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่มีความไว้วางใจ และมั่นใจในการทำงานของภาครัฐมากยิ่งขึ้น