ชาวประมงพบโลมาหัวบาตรลอยตายขึ้นอึดที่หาดสำราญ

ตรัง - ชาวประมงพบโลมาหัวบาตรลอยตายขึ้นอืดกลางท้องทะเลหาดสำราญ คาดน่าจะตายมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 วัน ไม่พบบาดแผล เจ้าหน้าที่นำซากส่งตรวจพิสูจน์หาสาเหตุการตายต่อไป

นายแสวง ขุนอาจ เลขาธิการชมรมประมงพื้นบ้าน จ.ตรัง กล่าวว่า ได้มีการพบโลมาตายที่ชายหาดตะเสะ หมู่ที่ 4 ต.ตะเสะ อ.หาดสำราญ จ.ตรัง โดยเป็นโลมาหัวบาตร เพศเมีย อายุ 6 ปี น้ำหนักประมาณ 150 กก.ยาว 2.20 เมตร ในสภาพขึ้นอืดส่งกลิ่นเหม็นเน่า โดยที่ท้องมีไส้ทะลักออกมากองข้างนอก เนื่องจากตายมาแล้วหลายวัน แต่ลำตัวไม่พบบาดแผลมีเพียงผิวหนังที่หลุดลอก เบื้องต้นคาดว่าน่าจะตายมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 วัน ส่วนสาเหตุการตายยังไม่ทราบสาเหตุ

จากการสอบถามทราบว่า นายประหยัด หลงกลาง อายุ 35 ปี สมาชิกและกรรมการกลุ่มอนุรักษ์โลมาตะเสะ ได้นำเรือออกหาปลาและไปพบซากโลมาดังกล่าวลอยอยู่ในทะเลบริเวณหินยาวซึ่งอยู่ในเขตอนุรักษ์ 3,000 เมตร ใกล้ๆ กับเกาะหลาวเหลียง จึงได้ลากซากโลมาขึ้นมาบนฝั่ง พร้อมกับประสานไปยังเจ้าหน้าที่ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 6 ตรัง เพื่อส่งซากไปตรวจพิสูจน์หาสาเหตุการตายที่แน่ชัดต่อไป

ด้าน นายแสวง ขุนอาจ เลขาธิการชมรมประมงพื้นบ้าน จ.ตรัง กล่าวว่า โลมาชนิดนี้นั้นส่วนใหญ่จะพบมากในน่านน้ำ จ.ระนอง แต่การที่โลมามาอยู่ในท้องทะเล อ.หาดสราญ บ่งบอกถึงความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรในทะเล ซึ่งที่ผ่านมาในท้องทะเลแห่งนี้ห่างจากชายฝั่ง 3,000 เมตร จะมีโลมาชนิดนี้อยู่อาศัยประมาณ 80 ตัว ซึ่งรวมถึงโลมาปากขวด โลมาหัวบาตร โลมาสีชมพู และโลมาอิรวดี ประมาณ 150 ตัว โดยพบมากที่บริเวณหน้าหมู่บ้านนาชุมเห็ด หน้าเกาะเหลาเหลียง หลังเกาะสุกร และต.ตะเส๊ะ

อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลเมื่อปี 2550-2554 ที่ผ่านมาพบว่า โลมาที่ตายในท้องทะเลหาดสำราญ มีจำนวน 12 ตัว ส่วนใหญ่มาจากสาเหตุเครื่องมือประมงผิดกฎหมาย ทั้งนี้ ทางกลุ่มอนุรักษ์โลมาตะเส๊ะ เตรียมประสานไปยังนักวิจัยพันธุ์สัตว์หายากทางทะเล เพื่อมาสำรวจโลมาที่อาศัยอยู่ในท้องทะเลหาดสราญอีกครั้งว่า ยังมีจำนวนเหลืออยู่กี่ตัวกันแน่