ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ตร.ยันป้ายทะเบียนปลอมของรถวีออส ที่คนร้ายใช้ก่อเหตุยิงม็อบชาวสวนยางพารา เป็นป้ายรถเปอโยต์ของตำรวจนอกราชการที่เสียชีวิตไปแล้ว คาด ผู้ก่อเหตุน่าจะมีคดีติดตัว หรือมีสิ่งผิดกฎหมายอยู่ภายในรถ
จากกรณีที่มีคนร้ายขับรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส สีดำ เลขทะเบียน กข 9694 สงขลา มาจาก จ.สตูล และจะมุ่งหน้าไปยัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา แต่เมื่อมาถึงบริเวณสี่แยกคูหา อ.รัตภูมิ จ.สงขลา ซึ่งมีม็อบชาวสวนยางพาราชุมนุมประท้วงปิดถนนอยู่ จึงไม่พอใจแล้วใช้อาวุธปืน 9 มม.กราดยิงใส่กลุ่มม็อบ แต่เป็นการยิงไม่ได้หวังแก่ชีวิต เพราะเล็งลงในระยะต่ำ จากนั้นคนร้ายเร่งขับรถหลบหนีไป ทั้งนี้ เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับเจ็บจำนวน 8 คน คือ ด.ต.สมคิด เกตุนวล ตำรวจสังกัด สภ.อ.รัตภูมิ ส.ต.ท.เอกพงษ์ พลภากิจ อายุ 26 ปี ตำรวจสังกัด ตชด.43 นายสมบูรณ์ สร้อยปักขิน อายุ 61 ปี ผู้ชุมนุมประท้วงจาก อ.นาทวี จ.สงขลา นายภัทรวิน แก้วเรือง อายุ 26 ปี ผู้ชุมนุมประท้วงจาก อ.รัตภูมิ และผู้ชุมนุมประท้วงอีก 4 คน
โดยต่อมา ตำรวจได้ทำการตรวจสอบ พบว่า ป้ายทะเบียนดังกล่าวเป็นทะเบียนปลอม คาดว่าคนร้ายน่าจะเป็นผู้ที่มีคดีติดตัว หรืออาจมีของผิดกฎหมายอยู่ในรถด้วย จึงต้องการขับรถผ่านสี่แยกดังกล่าวไปอย่างรวดเร็ว เหตุเกิดเมื่อวันที่ 10 ม.ค.ที่ผ่านมา
สำหรับความคืบหน้าคดีดังกล่าว วันนี้ (12 ม.ค.) พ.ต.อ.พิทักษ์ พุทธวิโร ผกก.สภ.รัตภูมิ จ.สงขลา ได้เผยว่า ได้ทำการตรวจสอบเจ้าของรถตามทะเบียนแล้ว พบว่า อยู่ที่ อ.หาดใหญ่ เป็นของ พ.ต.ท.สวัสดิ์ นคราวงศ์ อดีตตำรวจนอกราชการ ซึ่งเสียชีวิตไปเมื่อปี 2554 เป็นรถเก๋งเปอโยต์ ซึ่งได้มีการขายรถให้กับอู่รถแห่งหนึ่งไปแล้ว ส่วนป้ายทะเบียนได้หายไป สำหรับการติดตามตัวคนร้ายนั้น ขณะนี้ได้มีการเร่งสืบสวนหารถต้องสงสัยในพื้นที่และใกล้เคียง พร้อมทั้งสืบหาตัวบุคคลที่ต้องสงสัยในพื้นที่และใกล้เคียงด้วยเช่นกัน ส่วนตัวผู้ต้องหาจะมีกี่คนนั้น ยังไม่มั่นใจ เพราะพยานยังให้การค้านกันอยู่ว่าคนเดียวบ้าง สองคนบ้าง ซึ่งต้องมีการพิสูจน์ภาพถ่ายด้วย เนื่องจากรถติดฟิล์มดำมาก
นอกจากนี้ ได้ส่งปลอกกระสุนปืนไปให้ทางสำนักงานพิสูจน์หลักฐาน จ.สงขลา ทำการตรวจพิสูจน์ดูแล้วว่าใกล้เคียงกับปืนที่เคยใช้ก่อคดีในพื้นที่สงขลา หรือใกล้เคียงหรือไม่ ส่วนที่มีแกนนำม็อบบางคนสงสัยไม่เชื่อว่าป้ายทะเบียนรถของคนร้ายเป็นทะเบียนปลอมนั้น ก็เป็นเรื่องของเขา แต่หลักฐานทางราชการต่างๆ มันชี้ชัดอยู่แล้วว่าป้ายดังกล่าวไม่ใช่ของรถคันที่ก่อเหตุอย่างแน่นอน ซึ่งขณะนี้ทางตำรวจกำลังสืบสวนอยู่