นราธิวาส - เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ระแงะ จ.นราธิวาส เร่งติดตามคนร้ายก่อเหตุลอบวางระเบิดคาร์บอมบ์เยื้องตู้เอทีเอ็มของธนาคารกรุงไทย สาขาตันหยงมัส เป็นเหตุให้มีชาวบ้านได้รับบาดเจ็บ 2 ราย คาดอีก 3-4 วันสามารถออกหมายจับได้
วันนี้ (12 ม.ค.) พ.ต.อ.สุชาติ อัศวจินดารัตน์ ผกก.สภ.ระแงะ จ.นราธิวาส ได้เปิดเผยถึงกรณีคนร้ายลอบวางระเบิดคาร์บอมบ์เยื้องตู้เอทีเอ็มของธนาคารกรุงไทย สาขาตันหยงมัส เขตเทศบาลตำบลตันหยงมัส อ.ระแงะ ในช่วงคืนของวันที่ 10 ม.ค.55 ที่ผ่านมา ทำให้ชาวบ้านได้รับบาดเจ็บ 2 ราย
ล่าสุดเจ้าหน้าที่ชุดคลี่คลายคดีได้แยกดำเนินการ 2 ขั้นตอน โดยชุดแรกได้มีการประสานไปยัง พล.ต.ต.ชาญ วิมลศรี ผบก.น.4 ส่งเจ้าหน้าที่ติดตามตัวนายสำอาง บำรุง อยู่บ้านเลขที่ 63/1 ซอยราษฎร์พัฒนา 5 แขวงและเขตสะพานสูง กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นผู้ครอบครองรถยนต์เก๋งยี่ห้อมิตซูบิซิ สีเทาดำ ทะเบียน กข 9784 ยะลา คนสุดท้าย ที่ซื้อต่อจากนางกาญจนา เตชะรุ่งโรจน์ ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ จ.เชียงใหม่ ว่าได้ขายโอนให้ใครหรือแจ้งหายไว้ในพื้นที่ใดบ้าง เพื่อที่จะทำการสอบสวนปากคำ และขยายผลไปสู่ผู้ครอบครองคนสุดท้าย ก่อนที่คนร้ายจะใช้เป็นพาหนะในการวางระเบิดคาร์บอมบ์
ส่วนเจ้าหน้าที่ชุดที่ 2 ได้เชิญพยานบุคคลไปสอบสวนปากคำในเบื้องต้นแล้ว 4 ราย ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ควบคู่กับการพิจารณาภาพที่บันทึกได้จากกล้องวงจรปิด โดยใช้เทคนิคในการทำภาพให้มีความคมชัดมากขึ้น ในการขยายผลถึงรูปพรรณสัณฐานของคนร้าย โดยเฉพาะคนร้ายที่ทำหน้านำรถยนต์เก๋งที่ประกอบคาร์บอมบ์มาจอดว่าเป็นใคร และในสวนของการสืบสวนสอบสวนหาตัวคนร้ายที่ขับรถยนต์กระบะแบบตอนครึ่ง ยี่ห้ออีซูซุ สีบรอนซ์ ที่ทำหน้าที่ขับรถมารับคนร้ายที่ขับรถยนต์คาร์บอมบ์มาจอดก่อเหตุว่าเป็นใครเช่นกัน
โดยเจ้าหน้าที่ขอเวลาในการรวบรวมหลักฐานอีก 3-4 วัน ถึงจะสามารถออกหมายจับคนร้ายในคดีนี้ในเบื้องต้น 2 คน คือ คนขับรถยนต์คาร์บอมบ์มาจอด และคนร้ายรถยนต์กระบะมารับ ในส่วนของคนร้ายที่ทำหน้าที่จุดชนวนระเบิดซึ่งแฝงตัวอยู่ที่บริเวณมัสยิดทางเข้าโรงเรียนดารุสสารามนั้นอยู่ในระหว่างขั้นตอนต่อไปเพื่อที่จะจับกุมคนร้ายทั้งหมดมาดำเนินคดี
วันนี้ (12 ม.ค.) พ.ต.อ.สุชาติ อัศวจินดารัตน์ ผกก.สภ.ระแงะ จ.นราธิวาส ได้เปิดเผยถึงกรณีคนร้ายลอบวางระเบิดคาร์บอมบ์เยื้องตู้เอทีเอ็มของธนาคารกรุงไทย สาขาตันหยงมัส เขตเทศบาลตำบลตันหยงมัส อ.ระแงะ ในช่วงคืนของวันที่ 10 ม.ค.55 ที่ผ่านมา ทำให้ชาวบ้านได้รับบาดเจ็บ 2 ราย
ล่าสุดเจ้าหน้าที่ชุดคลี่คลายคดีได้แยกดำเนินการ 2 ขั้นตอน โดยชุดแรกได้มีการประสานไปยัง พล.ต.ต.ชาญ วิมลศรี ผบก.น.4 ส่งเจ้าหน้าที่ติดตามตัวนายสำอาง บำรุง อยู่บ้านเลขที่ 63/1 ซอยราษฎร์พัฒนา 5 แขวงและเขตสะพานสูง กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นผู้ครอบครองรถยนต์เก๋งยี่ห้อมิตซูบิซิ สีเทาดำ ทะเบียน กข 9784 ยะลา คนสุดท้าย ที่ซื้อต่อจากนางกาญจนา เตชะรุ่งโรจน์ ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ จ.เชียงใหม่ ว่าได้ขายโอนให้ใครหรือแจ้งหายไว้ในพื้นที่ใดบ้าง เพื่อที่จะทำการสอบสวนปากคำ และขยายผลไปสู่ผู้ครอบครองคนสุดท้าย ก่อนที่คนร้ายจะใช้เป็นพาหนะในการวางระเบิดคาร์บอมบ์
ส่วนเจ้าหน้าที่ชุดที่ 2 ได้เชิญพยานบุคคลไปสอบสวนปากคำในเบื้องต้นแล้ว 4 ราย ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ควบคู่กับการพิจารณาภาพที่บันทึกได้จากกล้องวงจรปิด โดยใช้เทคนิคในการทำภาพให้มีความคมชัดมากขึ้น ในการขยายผลถึงรูปพรรณสัณฐานของคนร้าย โดยเฉพาะคนร้ายที่ทำหน้านำรถยนต์เก๋งที่ประกอบคาร์บอมบ์มาจอดว่าเป็นใคร และในสวนของการสืบสวนสอบสวนหาตัวคนร้ายที่ขับรถยนต์กระบะแบบตอนครึ่ง ยี่ห้ออีซูซุ สีบรอนซ์ ที่ทำหน้าที่ขับรถมารับคนร้ายที่ขับรถยนต์คาร์บอมบ์มาจอดก่อเหตุว่าเป็นใครเช่นกัน
โดยเจ้าหน้าที่ขอเวลาในการรวบรวมหลักฐานอีก 3-4 วัน ถึงจะสามารถออกหมายจับคนร้ายในคดีนี้ในเบื้องต้น 2 คน คือ คนขับรถยนต์คาร์บอมบ์มาจอด และคนร้ายรถยนต์กระบะมารับ ในส่วนของคนร้ายที่ทำหน้าที่จุดชนวนระเบิดซึ่งแฝงตัวอยู่ที่บริเวณมัสยิดทางเข้าโรงเรียนดารุสสารามนั้นอยู่ในระหว่างขั้นตอนต่อไปเพื่อที่จะจับกุมคนร้ายทั้งหมดมาดำเนินคดี