ศูนย์ข่าวภูเก็ต- ผู้ว่าฯภูเก็ต ยืนยันไม่มีเมนูพิสดารทำจากอวัยวะช้างเสิร์ฟนักท่องเที่ยว เผย ในภูเก็ตมีช้างให้บริการเป็นกิจกรรมทางด้านการท่องเที่ยวเพียงอย่างเดียว ไม่มีเมนูทำจากเนื้อช้าง หรืออวัยวะช้างแน่นอน
นายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงกรณีที่ อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้ให้สัมภาษณ์ว่า มีการนำอวัยวะช้างที่ถูกฆ่าตาย เช่น อวัยวะเพศ งวง หาง ส่งมาให้ภัตตาคารที่ จ.ภูเก็ต ปรุงเป็นอาหารไว้รองรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เนื่องจากคนไทยไม่กินเนื้อช้าง ว่า ในส่วนของตนเท่าที่ดำรงตำแหน่งอยู่ที่ภูเก็ต ตั้งแต่สมัยเป็นรองผู้ว่าฯ จนกระทั่งมาดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯ ระยะเวลา 5-6 ปีที่ผ่านมา ยังไม่เคยได้ยินเรื่องของการกินเนื้อช้างแต่อย่างใด ที่ได้ยินมาจะเป็นสัตว์ป่าชนิดอื่นมากกว่า ไม่เคยได้ยินเรื่องของการกินเนื้อช้าง
เมื่อมีการออกข่าวมาเช่นนี้ ก็ได้ให้เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบเข้าไปดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าเป็นอย่างไร ซึ่งในการจำหน่ายอาหาร มีคณะกรรมการดูแลตรวจสอบอยู่แล้ว โดยเฉพาะสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด
นายตรี กล่าวต่อไปว่า เท่าที่ติดตามเรื่องของช้างนั้น จะพบว่า ในส่วนของภูเก็ต จะมีการนำช้างมาให้บริการในกิจกรรมการท่องเที่ยว มีทั้งการนั่งช้าง การนำช้างมาแสดงโชว์ต่างๆ และยืนยันว่าไม่มีการฆ่าช้างเพื่อนำเนื้อมาขายในภูเก็ต
ส่วนที่ว่ามีการนำเนื้อหรืออวัยวะของช้าง จากพื้นที่อื่นๆ เข้ามาจำหน่ายในภูเก็ต ที่ผ่านมา ก็ไม่เคยได้รับทราบข่าวมาก่อน แต่เมื่อมีข่าวขึ้นมาแล้วจะได้กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะทางสาธารณสุขที่ดูแลในเรื่องของอาหารเข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น เพื่อความกระจ่าง แต่เบื้องต้นยืนยันว่า ไม่มีรายงานจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาแต่อย่างใด
นายตรี กล่าวด้วยว่า สำหรับช้างถือเป็นสัตว์สงวนตามกฎหมาย มีบทลงโทษที่ชัดเจนอยู่แล้ว และทราบว่าจากกรณีช้างป่าแก่งกระจานถูกฆ่าตาย สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีพระเสาวนีย์ ว่า ทรงเสียพระทัยเป็นอย่างยิ่งที่ เห็นช้างที่เป็นสัตว์คู่บ้านคู่เมืองถูกฆ่าตายอย่างทารุณ และทรงรับสั่งว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงรักและห่วงใยช้าง โดยก่อนหน้านี้ ทรงมีโครงการในพระราชดำริช่วยเหลือช้าง เช่น การจัดหาอาหาร เป็นต้น เพื่อไม่ให้ช้างลงมารบกวนประชาชน ทำให้ช้างกับคนสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างดี เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นนับว่าเป็นเรื่องเศร้าสลด และถือว่าผิดพระราชปณิธาน
นอกจากนี้ หน่วยงานที่รับผิดชอบก็พยายามหาข้อพิสูจน์ และอยู่ในกระบวนการของการตรวจสอบว่ามีการฆ่าช้างกันจริงหรือไม่ และมีการเอาเนื้อ หรืองาช้างหรือส่วนอื่นๆ ของช้างไปขายหรือไม่อย่างไร