ศูนย์ข่าวศรีราชา - เจ้าหน้าที่ ปทส.ร่วมกับตำรวจจังหวัดชลบุรีบุกตรวจสอบสวนเสือศรีราชา หวั่นลักลอบสวมตั๋ว ช้าง-เสือ โดยผิดกฎหมาย
วันนี้ (22 มี.ค.) พล.ต.ต.นรศักดิ์ เหมนิธิ ผบก.กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ปทส.) ได้มอบหมายให้ พ.ต.ท.กษิเดช จังพนาสิน สารวัตร ปทส.พร้อมด้วย พ.ต.อ.ธีรพล จินดาหลวง รองผบก.ภ.จ.ชลบุรี และ นายศุภดล โฉมมงคล กรรมการผู้จัดการสวนเสือศรีราชา ได้ร่วมตรวจสอบเสือและช้าง ของสวนเสือศรีราชา หวั่นมีการสวมตั๋วเสือและช้างโดยไม่ถูกต้องตามกฎหมาย
พ.ต.อ.ธีรพล กล่าวว่า ที่ผ่านมา มีเหตุการณ์เกิดขึ้นในพื้นที่อื่นๆ กรณีจับช้างป่า หรือเสือจากที่อื่นมาเลี้ยงหรือดูแล ซึ่งถือว่าไม่ถูกต้องหรือผิดกฎหมาย เพราะช้างหรือเสือที่นำมาเลี้ยงหรือแสดงโชว์นั้นจะต้องแจ้งให้หน่วยงานที่รับผิดชอบทำการตรวจสอบและทำบันทึก เพื่อเป็นหลักฐานว่ามีแหล่งที่มาอย่างถูกต้องและชัดเจน เนื่องจากช้างและเสือ เป็นสัตว์สงวนหรือสัตว์หวงห้าม
การมาตรวจสอบครั้งนี้เป็นไปตามนโยบายของผู้บังคับบัญชา ซึ่งจะมีการตรวจสอบเป็นประจำและอย่างต่อเนื่อง และในการตรวจสอบในครั้งนี้ ทางสวนเสือศรีราชา ได้ดำเนินการอย่างถูกต้อง ประกอบด้วยเสือ 401 ตัว โดยมี 4 ตัว ซึ่งเกิดใหม่ที่ยังไม่ได้ฝังไมโครชิป นอกนั้นดำเนินการฝังไมโครชิปเรียบร้อยแล้ว
สำหรับช้างนั้น มีทั้งสิ้น 8 เชือกโดยมีการฝังไมโครชิปเช่นกัน และเมื่อร่วมกันตรวจสอบ พบว่า ถูกต้องทั้งหมด หลังเจ้าหน้าที่ของสวนเสือศรีราชา นำเครื่องตรวจไมโครชิปมาสุ่มตรวจสอบในส่วนที่ฝั่งไมโครชิป เครื่องก็จะแสดงรายละเอียดอย่างชัดเจนทันที ว่า ช้างหรือเสือนั้นเกิดจากพ่อ-แม่ตัวไหนเกิดเมื่อไร และอายุเท่าไร โดยจะแสดงออกมาอย่างละเอียด และเมื่อทำการตรวจสอบแล้ว พบว่าถูกต้องตามที่แจ้งไว้
ด้าน พ.ต.ท.กษิเดช กล่าวว่า การตรวจสอบครั้งนี้เพื่อให้ชัดเจนว่า สัตว์ที่แจ้งไว้นั้น ตรงกับจำนวนที่แจ้งไว้หรือไม่อย่างไร เพราะไม่ต้องการให้ผู้ประกอบการ ลักลอบกระทำผิด เช่น เดิมแจ้งว่า มีเสืออยู่ 10 ตัว อายุประมาณ 5-10 ปี แต่ระยะหลังมีเพิ่มเป็น 11 ตัว ดังนั้น ตัวที่ 11 นั้น ได้มาจากไหนอย่างไร โดยหากไม่สามารถชี้แจงได้ ถือว่ากระทำผิด นอกจากนั้น อาจมีกรณี จำนวนเสือเท่าเดิม แต่อายุหรือตำหนิอาจไม่ตรงกับที่แจ้งไว้ ก็ถือว่าผิดกฎหมายเช่นกัน และครั้งนี้ถือว่าตรงและถูกต้อง
ที่ผ่านมา สัตว์สงวนหรือสัตว์หวงห้าม เช่น ช้าง และ เสือ มีปริมาณลดลงอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากมีผู้ลักลอบกระทำและหวั่นในอนาคตอาจจะสูญพันธุ์หากไม่มีการควบคุมดูแลอย่างใกล้ชิด ดังนั้นจึงต้องมีมาตรการดังกล่าวอย่างจริงจัง และหลังจากนี้ ทางคณะกรรมการตรวจสอบก็จะเดินทางไปตรวจสอบ ในพื้นที่อื่นๆ เช่น สวนนงนุช อ.สัตหีบ, ที่ปราสาทสัจธรรม พัทยา หรือ อุทยานหินล้านปีและฟาร์มจระเข้พัทยาต่อไป เพื่อนำข้อมูลเสนอผู้บังคับบัญชาต่อไป