ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ดร.ไพบูลย์ นวลนิล นักแผ่นดินไหววิทยา แถลงข่าวโต้คำทำนาย “โหรโสรัจจะ” ยันปีนี้มีโอกาสเกิดแผ่นดินไหว 7.5 ริกเตอร์ หรือคลื่นสึนามิเหมือนปี 47 น้อยมาก ย้ำ ประชาชนอย่าตื่นตระหนก ให้ใช้ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ประกอบการตัดสินใจและเตรียมพร้อมรับมือ
สืบเนื่องจากโหรชื่อดัง “โสรัจจะ นวลอยู่” ทำนายว่า “ในเดือนกุมภาพันธ์ 2555 นี้ จะเกิดแผ่นดินไหวครั้งร้ายแรงในประวัติศาสตร์ชาติไทย วัดแรงสั่นสะเทือนได้ถึง 9 ริกเตอร์ ศูนย์กลางแผ่นดินไหวอยู่ห่างจากเมืองหลวงของประเทศไปทางเหนือราว 10 กิโลเมตร และลึกลงไปใต้ดินราว 15 กิโลเมตร ระดับความเสียหายครั้งนี้เลวร้ายกว่ามหันตภัยสึนามิ เมื่อปี 2547 (อ่านเพิ่มเติมได้ที่ http://bit.ly/yucVsQ)” ทำให้ประชาชนตื่นตระหนก และส่งผลเสียต่อการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจนั้น
วันนี้ (10 ม.ค.) ที่ห้องประชุมคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ ดร.ไพบูลย์ นวลนิล นักแผ่นดินไหววิทยา ภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ได้ออกแถลงข่าวโต้คำทำนายดังกล่าว ในหัวข้อ “โต้!! แผ่นดินไหว/สึนามิ อย่าตระหนกคำทำนาย” เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบข้อมูลและเตรียมพร้อมรับมือได้อย่างถูกต้อง
โดย ดร.ไพบูลย์ นวลนิล ระบุว่า สำหรับในสุมาตรา-อันดามัน ที่ประชาชนมีความกังวลว่าจะเกิดแผ่นดินไหวที่มีขนาดเกิน 7.5 หรือคลื่นสึนามิที่เหมือนเหตุการณ์ 26 ธันวาคม 2547 นั้นมีโอกาสเกิดขึ้นน้อยมาก โดยเฉพาะในปีนี้ เนื่องจากบริเวณใดที่เกิดแผ่นดินไหวรุนแรงแล้ว เช่น สุมาตรา-อันดามัน ไต้หวัน ญี่ปุ่น ก็ต้องใช้เวลาในการสะสมพลังงานตามรอบเวลาของคาบอุบัติซ้ำ ซึ่งแต่ละบริเวณ แต่ละทวีป จะมีคาบอุบัติซ้ำใช้เวลาไม่เท่ากันแม้จะพิจารณาที่ขนาดเดียวกัน
“แผ่นดินไหวในทะเลไม่ได้ส่งผลให้เกิดสึนามิทุกครั้ง เพราะต้องมีปัจจัยอื่นๆ ร่วมด้วย ส่วนความลึกของศูนย์กลางแผ่นดินไหวตามที่โหรโสรัจจะทำนายนั้น ต้องใช้ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์จำนวนมากในการประมวลผล ทั้งนี้ การทำนายเรื่องแผ่นดินไหวที่แม่นยำนั้น ควรจะระบุด้วยว่า เกิดที่ไหน เกิดเมื่อไหร่ และขนาดเท่าไหร่ หากทำนายได้ไม่ครบทั้งสามอย่างก็นำไปใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้” ดร.ไพบูลย์ กล่าว
และระบุอีกว่า “การใครทำนายว่าจะเกิดแผ่นดินไหวที่นั่นที่นี่ โดยระบุวัน เวลา และบังเอิญถูก ก็ถือว่าทายแม่นเพียง 66 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น เพราะยังขาดการทำนายเรื่องขนาดของแผ่นดินไหว ทั้งนี้ หากจะบอกว่าจะเกิดแผ่นดินไหวในสุมาตรา-อันดามัน ทายถูกแน่นอน เพราะบริเวณดังกล่าวเกิดแผ่นดินไหวปกติที่บันทึกได้ถึงวันละ 4 ครั้ง หรือถ้าจะบอกว่าขณะนี้เกิดแผ่นดินไหวอยู่ก็ถูกอีก เพราะในโลกนี้มีแผ่นดินไหวเกิดขึ้นเฉลี่ยนาทีละ 2 ครั้ง”
ดังนั้น ก่อนจะเชื่อถือและตื่นตระหนกกับคำทำนายใดใด ประชาชนควรใช้ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ประกอบด้วย ในขณะเดียวกันก็ไม่ควรละเลยเรื่องการเตรียมความพร้อมในการรับมือแผ่นดินไหวและสึนามิ รวมทั้งภัยพิบัติอื่นๆ ด้วย
สำหรับการแจ้งเตือนภัยแผ่นดินไหวล่วงหน้าของประเทศไทยนั้น ยังไม่มีหน่วยงานไหนในประเทศไทยที่สามารถแจ้งเตือนภัยแผ่นดินไหวล่วงหน้าได้ ไม่ว่าจะเป็นกรมอุตุนิยมวิทยา ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ กรมทรัพยากรธรณี ฯลฯ ปัจจุบันทำได้แค่เพียงรายงานการเกิดแผ่นดินไหว คือ รายงานว่าเกิดแผ่นดินไหวในขณะที่เกิดขึ้น เท่านั้น
ส่วนการเตือนภัยสึนามิล่วงหน้าของประเทศไทย ปัจจุบันมีทุ่นวัดสึนามิในอันดามัน 3 ทุ่น โดยอยู่ห่างจากชายฝั่งทะเลภูเก็ต ประมาณ 400 กม. ถ้าตรวจวัดได้ว่ามีแผ่นดินไหวเกิดขึ้น คลื่นแผ่นดินไหวจะใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง - 1 ชั่วโมง จึงจะมาถึงชายฝั่งภูเก็ต ในขณะนั้นก็จะมีการแจ้งเตือนจากหอเตือนภัย เพื่อให้ประชาชนอพยพสู่ที่ที่ปลอดภัย
นอกจากนี้ ประเทศไทยยังมีหอเตือนภัยชายฝั่งใน 6 จังหวัดอันดามัน มีสถานีตรวจวัดแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา 40 สถานี และมีข้อมูลจากศูนย์เตือนภัยสึนามิแปซิฟิก ฮาวาย แต่ยังขาดการบูรณาการการเตือนภัยที่มีประสิทธิภาพ ขาดเอกภาพ ประชาชนไม่เชื่อมั่น ไม่รู้จะฟังใคร ขาดข้อมูลและองค์ความรู้ ซึ่งถือเป็นการบ้านหลักที่หน่วยงานดังกล่าวต้องนำข้อมูลมาบูรณาการร่วมกัน เพื่อให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่นในระบบการแจ้งเตือนภัย เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของทุกภาคส่วน
และที่สำคัญ ควรซ้อมแผนอพยพและการกู้ชีพจากภัยแผ่นดินไหวและสึนามิอยู่เนืองๆ ในทุกจังหวัดที่เสี่ยงภัย เนื่องจากที่ผ่านมามีการซ้อมอพยพภัยสึนามิ แต่ไม่เคยมีซักซ้อมการจัดการเมื่อเกิดแผ่นดินไหวอย่างเป็นระบบ และประชาชนก็ยังไม่ให้ความสำคัญกับการซ้อมอพยพมากเท่าที่ควร ทั้งนี้ หากเป็นไปได้ควรซ้อมเตือนภัยพร้อมกันทุกจังหวัดด้วย เนื่องจากหากเกิดเหตุการณ์จริงนั้นจะเกิดขึ้นในทุกพื้นที่ ไม่ได้เลือกเกิดเฉพาะจังหวัดใดจังหวัดหนึ่ง
