ชุมพร - ชาวบ้านที่อำเภอพะโต๊ะ จังหวัดชุมพรโวยเป็นหมู่บ้านโลกลืม เส้นทางคมนาคมยังถูกตัดขาด หน่วยงานรัฐแค่เข้าไปสำรวจแล้วเงียบหาย ไฟฟ้าใช้การไม่ได้ ยางพารา ปาล์ม พืชผลการเกษตร ลำเลียงออกไปขายให้พ่อค้าไม่ได้นาน 5 วันแล้ว วอนทหารช่วยด้วย
จากการที่จังหวัดชุมพรเกิดอุทกภัยในพื้นที่อำเภอละแม อำเภอหลังสวน อำเภอพะโต๊ะ อำเภอทุ่งตะโก และอำเภอสวี รวม 27 ตำบล 277 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อนกว่า 6 หมื่นคน พื้นที่การเกษตร ทรัพย์สินของประชาชน และสิ่งสาธารณประโยชน์ เสียหายรวมมูลค่ากว่า 50 ล้านบาทนั้น
ผู้สื่อข่าวได้รับร้องเรียนจากชาวบ้านหมู่บ้านคลองเงิน หมู่ที่ 5 ต.พระรักษ์ อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร ซึ่งตั้งอยู่พื้นที่ชนบทห่างไกลความเจริญ ในหมู่บ้านดังกล่าวมีถนนลูกรังเพียงเส้นทางเดียวแยกจาก ถนนสายหลักทางหลวงหมายเลข 4006 หลังสวน-ระนอง ลึกเข้าไปประมาณ 20 กม. มีบ้านเรือนราษฎรอาศัยอยู่ราว 50 หลังคาเรือนกว่า 400 คนต้องประสพปัญหาถนน สะพาน เส้นทางการคมนาคมเข้าหมู่บ้านดังกล่าวถูกน้ำป่าไหลทะลักกัดเซาะขาดพังเสียหายใช้การไม่ได้นับสิบจุด รถทุกชนิดไม่สามารถสัญจรไปมาได้ ทำให้หมู่บ้านขาดการติดต่อโลกภายนอกอย่างสิ้นเชิง มาตั้งแต่วันฝนตกหนักจนถึงขณะนี้ 5 วันแล้ว
นายพินิจ เย็นบ้านควน อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 42 บ้านคลองเงิน หมู่ที่ 5 ต.พระรักษ์ อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร อาชีพทำสวนยาง เปิดเผยว่า ตั้งแต่คืนวันที่ 2 มกราคมที่ผ่านมา ชาวบ้านในพื้นที่ดังกล่าวได้รับความเดือนร้อนเสียหายจากน้ำป่าทะลักเข้ท่วมจำนวนมาก ถนนเส้นทางหลักเข้าหมู่บ้านถูกตัดขาดจนถึงขณะนี้ยังใช้การไม่ได้ แจ้งไปยัง อบต.พระรักษ์ ก็ได้รับคำตอบว่ามีงบประมาณไม่เพียงพอต้องรอประสานหน่วยงานเกี่ยวข้องก่อน
จนถึงขณะนี้ชาวบ้านในพื้นที่กว่า 400 คนไม่สามารถใช้รถยนต์ จักรยานยนต์สัญจรเข้าออกได้ ทำให้ผลผลิตยางพารา ปาล์มน้ำมัน และพืชผลอื่นๆ ที่เป็นอาชีพหลักของชาวบ้านที่นี่ไม่สามารถนำออกไปส่งให้กับพ่อค้าได้ นอกจากนั้นเด็กๆ ที่จะต้องไปเรียนหนังสือก็ไม่สามารถเดินทางไปโรงเรียนได้ ต้องเดือดร้อนกันอย่างมาก
“ผมและภรรยาพร้อมลูกๆ อีก 4 คนต้องกินต้องใช้ รายได้ก็ไม่มีนอกจากขายยางพารา แต่ก็ไม่สามารถนำออกไปขายได้ นอกจากนี้ ไฟฟ้าก็ใช้การไม่ได้มานานหลายวันแล้วเช่นกัน มีหน่วยงานรัฐเข้ามาดูแล้วสำรวจข้อมูลกลับไปแล้วก็เงียบหายไปเลย ตอนนี้ผมและชาวบ้านนึกถึงทหารเป็นที่พึ่งสุดท้าย ของให้มาช่วยพวกเราด้วย เพราะสิ่งเหล่านี้เกินความสามารถของชาวบ้านที่จะช่วยเหลือตนเองได้” นายพินิจกล่าว