xs
xsm
sm
md
lg

ผู้นำฝ่ายค้านลงมอบของช่วยชาวชุมพร ด้านทหารบินส่งเสบียงช่วยคนเดือดร้อน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ชุมพร - ผู้นำฝ่ายค้านโผล่มอบถุงยังชีพให้ผู้ประสบภัยในชุมพร เจอแม่ยกนับพันรุมล้อมหอมแก้ม จนไม่สนถุงยังชีพ ส่วนทหารบินขนเสบียงส่งชาวบ้านกลางหุบเขาที่ขาดการติดต่อมานานหลายวัน

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ผู้นำฝ่ายค้าน พร้อมนายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ นายเชน เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี และคณะ เดินทางลงพื้นที่ประสบอุทกภัยท่วมในพื้นที่ ต.พ้อแดง ต.วังตะกอ อ.หลังสวน และ ต.แหลมปอ อ.สวี จ.ชุมพร เพื่อเยี่ยมและให้กำลังใจแก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ดังกล่าว พร้อมมอบถุงยังชีพ ในนามของพรรค และมูลนิธิ มรว.เสนีย์ ปราโมช จำนวน 1,000 ชุด ในแต่ละจุด ที่ออกเยี่ยมเยียนให้กับผู้ประสบภัย

โดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ผู้นำฝ่ายค้าน ได้พบปะกับผู้ประสบอุทกภัย และมีบรรดาแม่ยก คนเฒ่าคนแก่ และสาวๆ จำนวนนับพันคนมารุมห้อมล้อมรอจับมือรอถ่ายรูป ทั้งสวมกอดจูบหอมกันชุลมุนจนวุ่นวายไปทั่ว จน นายธีระชาติ ปางวิรุฬรักษ์ ส.ส.ชุมพร ต้องประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงขอร้องให้ทุกคนกลับไปนั่ง เพื่อรอแจกถุงยังชีพที่เตรียมไว้ แต่บรรดาแม่ยกสาวแก่แม่หมายไม่สนใจ ยังคงอ้อมล้อมอยู่ไม่ห่างทำเอา นายอภิสิทธิ์ถึงกับ เหงื่อตก กว่าจะได้แจกสิ่งของกินเวลานานเกือบชั่วโมง เล่นเอาทีมงานต้องเหนื่อยไปตามๆ กัน

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ทราบว่าน้ำท่วมครั้งนี้สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านเป็นอย่างมาก แต่ไม่สามารถจะเดินทางมาได้ทันทีเนื่องด้วยเที่ยวบินเต็มทุกไฟท์ จึงต้องเดินทางมาในวันที่ (5 ม.ค.) และมารับข้อมูลความเดือดร้อนของประชาชนที่ร้องเรียน เพื่อจะนำไปเสนอให้ทางฝ่ายรัฐบาลได้พิจารณาช่วยเหลือ โดยเฉพาะในช่วงนี้ ครม.กำลังอยู่ในวาระพิจารณางบประมาณประจำปี ซึ่งตนเองจะผลักดันงบประมาณเพื่อนำมาช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดชุมพร โดยเฉพาะในพื้นที่ อ.หลังสวน ที่น้ำท่วมซ้ำซากเป็นประจำ

นายอภิสิทธื์ กล่าวถึงเกณฑ์การช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัยว่า หลักเกณฑ์การช่วยเหลือครัวเรือนละ 5,000 บาท ที่ริเริ่มในรัฐบาลชุดที่แล้วนั้นมีความเหมาะสมและครอบคลุมทั้งน้ำท่วมขังและน้ำป่าไหลหลาก ซึ่ง หากรัฐบาลนำมาใช้แล้วมีปัญหารัฐบาลก็สามารถทบทวนได้ ซึ่งขึ้นอยู่กับพื้นที่ที่ต้องสำรวจและรายงานขึ้นไป แต่คิดว่าหลักเกณฑ์ที่กำหนดมีความยืดหยุ่นเพียงพอ ที่จะทำให้การช่วยเหลือพี่น้องประชาชนได้อย่างไม่ปัญหา

“ ก็ขอให้รัฐบาลเร่งออกช่วยเหลือประชาชนพื้นที่ภาคใต้ที่ถูกน้ำท่วม ไม่อยากให้รับรัฐบาลรู้สึกว่าปัญหาน้ำท่วมนั้นผ่านพันไปแล้ว และอยู่ระหว่างการฟื้นฟูแต่ความเป็นจริงบางพื้นที่ยังต้องการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าอยู่ ที่ผ่านมา ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม หรือ ศปภ.ไม่ได้ให้ความสนใจกับน้ำท่วมภาคใต้มากนัก ” นายอภิสิทธิ์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะเดินทางต่อไปยังจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้มี นายสุทธิพันธ์ สุวรรณบัณฑิต สมาชิก อบต.ท่ามะพลา อ.หลังสวน จ.ชุมพร ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนต่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ผู้นำพรรคฝ่ายค้าน เพื่อให้ดำเนินการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ ต.ท่ามะพลา จำนวน 1,040 ครัวเรือน ที่ไร้การเหลียวแลจากหน่วยงานใดๆ ตั้งแต่สถานการณ์น้ำท่วมพื้นที่จนน้ำแห้งเป็นปกติ ทั้งที่พื้นที่ดังกล่าวประสบภัยน้ำท่วมร้อยเปอร์เซ็นต์ บางแห่งสูงกว่า 2 เมตร เกินความสามารถที่ อบต.ในพื้นที่จะช่วยเหลือตัวเองได้ ซึ่งผู้นำฝ่ายค้านได้รับเรื่องพร้อมได้กำชับให้ ส.ส.ในพื้นที่ประสานไปทางหน่วยงานของจังหวัดลงมาดำเนินการช่วยเหลือต่อไป

สำหรับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ผู้นำพรรคฝ่ายค้าน ก่อนหน้านี้สมัยที่เป็นนายกรัฐมนตรี ที่ผ่านมา จังหวัดชุมพร ประสบภัยน้ำท่วมหลายอำเภอ ไม่เคยลงมาพื้นที่เลยแม้แต่ครั้งเดียว แม้แต่การช่วยลูกพรรคหาเสียงลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ช่วงที่ผ่านมา ก็ไม่เคยโพล่เข้าพื้นที่แต่อย่างใด

ส่วนความช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ จ.ชุมพร เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2554 ทหารจากจากหน่วยบิน กองทัพภาคที่ 4 จังหวัดนครศรีธรรมราช ที่เข้ามาช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดชุมพร ร่วมกับ นายชวลิต บุญมี นายก อบต.นาขา อ.หลังสวน จ.ชุมพร พร้อมเจ้าหน้าที่ ผู้นำชุมชน เร่งลำเลียงถุงยังชีพ จำนวน 350 ชุด ขึ้นเฮลิปคอปเตอร์ จากหน่วยบิน กองทัพภาคที่ 4 นำไปช่วยเหลือชาวบ้านหมู่ที่ 13 บ้านห้วยเหมือง ต.นาขา อ.หลังสวน จ.ชุมพร เป็นหมู่บ้านที่อยู่กลางกลางป่าใกล้หุบเขาพื้นที่ทุรกันดาร ซึ่งมีชาวบ้านอาศัยอยู่กว่า 500 ชีวิต หลังที่เกิดน้ำป่าไหลหลาก ถนนถูกตัดขาด และดินสไลด์ทับเส้นทางเข้าออกหมู่บ้านหลายจุด จนขาดการติดต่อกับโลกภายนอกทำให้อาหารหมดขาดแคลนเครื่องอุปโภคบริโภคมานาน 3 วัน เพื่อเป็นการช่วยเหลือเพื่อบรรเทาทุกข์ในเบื้องต้น

จากการบินสำรวจพบว่าพบว่าเป็นหมู่บ้านอยู่ในถิ่นทุระกันดานห่างไกลความเจริญ ถนนเส้นทางหลักในหมู่บ้านหลายแห่งมีดินสไลด์ลงมาทับ และถูกน้ำเซาะตัดขาด นอกจากนั้นมีร่องรอยการบุกรุกทำลายป่าเพื่อทำการเกษตรจำนวนมาก เมื่อเฮลิปคอปเตอร์ของทหารเข้าไปลงยังลานหญ้ากลางหมู่บ้าน มีผู้นำชุมชนและชาวบ้านมารอรับสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภคด้วยดีใจ หลังจากต้องอดอาหารมานาน

นายชวลิต บุญมี นายก อบต.นาขา อ.หลังสวน จ.ชุมพร กล่าวว่า พื้นที่ดังกล่าวถือว่าเป็นพื้นที่ชายขอบที่มีเขตติดต่อกับอำเภอหลังสวน อำเภอพะโต๊ะ และอำเภอทุ่งตะโก ทำให้มีประชากรเข้ามาอยู่กันเป็นจำนวนมาก โดยพื้นแห่งที่นี้เป็นหุบเขา มีถนนเข้าออกหมู่บ้านหลานสายเชื่อมต่อหลายอำเภอหลายตำบล แต่เมื่อเกิดฝนตกหนักมีน้ำป่าไหลหลากดินถล่มพร้อมกันหลายจุด ทำให้เส้นทางคมนาคมถูกตัดขาดจากโลกภายนอกโดยสิ้นเชิง อาหารที่มีอยู่ก็ไม่เพียงพอ เนื่องจากเหตุการณ์ได้เกิดขึ้นอย่างฉับพลันทันด่วน ทำให้ชาวบ้านต้องอดอาหารกันหลายวัน

นายชวลิต ยังกล่าวอีกว่า พื้นที่ป่าแห่งนี้เหลือลดน้อยลง เพราะมีการบุกรุกแผ้วถางป่าเพื่อยึดที่ดินมาประกอบอาชีพเกษตร สวนยางพารา สวนปาล์ม ซึ่งพืชเกษตรพวกนี้ไม่สามารถชะลอน้ำได้ และรากก็ไม่ลึกและไม่ยึดดิน ทำให้เมื่อฝนตกหนักดินอุ้มน้ำและถล่มในที่สุด ซึ่งเหตุการณ์เช่นนี้จะเกิดอยู่บ่อยครั้ง จึงต้องปลุกจิตสำนึกให้ทุกคนตระหนักในการอนุรักษ์ป่า และป่าต้นน้ำ เพื่อประโยชน์และความปลอดภัยของทุกคน

ด้านนายบุญเสี่ยง หมู่เย็น ผอ.สำนักงานแขวงการทางระนอง กล่าวว่า ถึงเส้นทางจราจรในบริเวณถนนถนนทางหลวงหมายเลข 4006 ระหว่างหลังสวน - ระนอง หมู่ที่ 12 ต.วังตะกอ อ.หลังสวน จ.ชุมพร ที่มีคอสะพานคอนกรีตข้ามคลองปิ กว้าง 10 เมตร ทรุดตัวจนสะพานพังถล่มเสียหายทั้งหมด และห่างจากจุดแรกไป อีก 3 กม. กระแสน้ำได้พัดเอาท่อลอดระบายน้ำขนาดใหญ่ ใต้สะพานข้ามคลองบากแดง หลุดหายไป จนเป็นหลุมลึกกว้างกว่า 10 เมตร ทำให้ถนนพังยุบตัวลง รถทุกชนิดไม่สามารถสัญจรได้นั้น เส้นทางดังกล่าวอยู่ในความรับผิดชอบของแขวงการทางระนอง

นายบุญเสี่ยง กล่าวว่า โดยถนนถนนทางหลวงหมายเลข 4006 ขณะนี้ได้ดำเนินการทอดสะพานแบรี่ย์เสร็จเรียบร้อยแล้ว และอีกจุดได้ดำเนินการวางท่อถมดินแล้ว ซึ่งถนนที่ชำรุดเสียหายทั้ง 2 จุดขณะนี้ใช้ได้แล้ว จึงขอประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนที่ใช้เส้นทางถนนสายหลังสวน-ระนอง โปรดใช้ความระมัดระวังในการเดินทางด้วย

สำหรับจังหวัดชุมพรได้เกิดอุทกภัยน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก มีพื้นที่ประสบอุทกภัยรวม 5 อำเภอ คือ อำเภอละแม อำเภอหลังสวน อำเภอพะโต๊ะ อำเภอทุ่งตะโก อำเภอสวี รวม 27 ตำบล 277 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 20,062 ครัวเรือน จำนวน 67,016 คน มูลค่าความเสียหายเบื้องต้นประมาณ 50,085,000 บาท ขณะนี้สถานการณ์เข้าสู่สภาวปกติแล้ว แต่การคมนาคมในหลายหมู่บ้านยังถูกตัดขาดรอการซ่อมบำรุงจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่ขณะนี้
กำลังโหลดความคิดเห็น