นครศรีธรรมราช - เกิดเหตุยิงโหดวันเดียว 2 คดี คดีแรกยิงถล่มขาใหญ่คนสนิทอดีต สจ.คนดังดับสยองคาถนน คดีที่สองยิงเสี่ยเจ้าของกิจการทำเส้นขนมจีนรายใหญ่ดับคาบ้านพัก เหตุวงในขัดแย้งกันเอง
วันนี้ (15 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.นครศรีธรรมราชว่า ในพื้นที่เกิดเหตุยิงโหดขึ้น 2 คดีซ้อน โดยรายแรกเป็นคนสนิทของนักการเมืองท้องถิ่น เหตุเกิดเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา พ.ต.ท.พงศ์ศักดิ์ ชโยฬาร พนักงานสอบสวนเวร สภ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งมีเหตุยิงกันตายบนถนนสายจันดี-พิปูน สี่แยกบ้านควนสงสารม.4 ต.ละอาย อ.ฉวาง จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นจึงพร้อมด้วยพ.ต.อ.สมชาย บุญครบ ผกก. พ.ต.ท.ณฐภูมินทร์ สรรพศิริกุลรอง ผกก.ป. พ.ต.ท.สมชาย เสนปาน สวป. กำลังตำรวจชุดสอบสวนแพทย์และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิใต้เต็กเซี่ยงตึ้งรีบรุดไปยังที่เกิดเหตุ
พบศพทราบชื่อต่อมาคือ นายประสิทธิ์ วงศ์พิพันธุ์ อายุ 49 ปี บ้านเลขที่ 77 ม.4 ต.ละอาย อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช นอนเสียชีวิตข้างรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า สีน้ำเงิน-ขาว ทะเบียน ขนส-559 นครศรีธรรมราช ซึ่งล้มคว่ำอยู่ สภาพศพมีบาดแผลคมกระสุนปืนลูกซองยาว ยิงเข้ากลางหลัง 7 นัด ใบหน้า 5 นัด คางหายไปทั้งแถบ ที่ข้อมือทั้งสองข้างถูกยิงขาดร่องแร่ง ลักษณะเหมือนยกมือไหว้ขอชีวิตแต่กลับถูกยิงจนมือขาด นอนหงายตายจมกองเลือดอยู่
เจ้าหน้าที่รวบรวมข้อมูลเบื้องต้นได้ความว่า นายประสิทธิ์ ผู้ตายเป็นคนสนิทของอดีต สจ. คนหนึ่งใน อ.ฉวาง และยังเป็นคนกว้างขวางในวงการนักเลงและมือปืนรับจ้าง รู้จักกันดีในฉายา “สิทธิ์ ควนสงสาร” ก่อนเกิดเหตุ ขณะที่ผู้ตายขับรถจักรยานยนต์คู่ชีพกลับจากทำธุระในตลาดจันดีเพื่อเดินทางกลับบ้านพัก เมื่อขับขี่รถจักรยานยนต์มาถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นที่เปลี่ยว มีคนร้าย 2 คน ใช้รถจักรยานยนต์ ไม่ทราบยี่ห้อและป้ายทะเบียนตามประกบ พอสบโอกาสคนร้ายก็ใช้อาวุธปืนยิงจนล้มทั้งรถทั้งคน ก่อนลงมาจ่อยิงซ้ำเสียชีวิตคาที่ดังกล่าว
พ.ต.อ.สมชายบุญครบ ผกก.สภ.ฉวาง เปิดเผยว่า การสังหารนายประสิทธิ์ ครั้งนี้ได้วางกรอบการสืบสวนไว้ว่าน่าจะมาจากความโกรธแค้นส่วนตัว เนื่องจากพบข้อมูลผู้ตายมีคู่อริมากมายหลายคน รวมทั้งเรื่องชู้สาวด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังสืบสวนหาสาเหตุที่แน่ชัดเพื่อเร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ส่วนเหตุฆาตกรรมอีกคดีหนึ่ง เกิดขึ้นเมื่อเวลา 12.30 น. พ.ต.ท.ยุทธนา สุพรรณอาสน์ พนักงานสอบสวนเวร สภ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งเหตุฆ่ากันตายที่บ้านเลขที่ 36 ถนนยุทธศาสตร์ ซอย 2 ต.ปากแพรก เขตเทศบาลเมืองทุ่งสง อ.ทุ่งสง จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นจึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.ชำนาญ ชำนาญกิจ ผกก. พ.ต.ท.สุรจิตรตะกรุดเดิม รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.ชัชชัย แก้วอ่อน สว.สส นำกำลังตำรวจ แพทย์ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิประชาร่วมใจรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านชั้นเดียว ภายในบ้านพบศพนายณัชนิธิ บุญเชิด อายุ 43 ปี เจ้าของบ้านหลังดังกล่าว นอนเสียชีวิตอยู่ในห้องครัวหน้าเครื่องซักผ้า สภาพศพคว่ำหน้าจมกองเลือด มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 ม.ม. เข้าที่บริเวณลำตัวจำนวน 5 นัด กระสุนฝังใน ในที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืน 5 ปลอก เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ก่อนแพทย์จะให้นำศพผู้ตายไปทำการขันสูตรที่โรงพยาบาลอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง
จากการสอบสวนทราบว่า นายณัชนิธิ ผู้ตายเป็นเจ้าของโรงงานทำเส้นขนมจีนรายใหญ่ ส่งตามตลาดใน อ.ทุ่งสง ก่อนเกิดเหตุขณะที่ผู้ตายอยู่ภายในบ้าน นายวัชรินทร์ จิตนาธรรม ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องกับผู้ตาย และประกอบอาชีพทำเส้นขนมจีนเช่นเดียวกับผู้ตาย ได้เดินมาหาผู้ตายที่บ้านพัก ทั้งนี้ ทั้งสองมักจะมีเรื่องขัดแย้งกันมาโดยตลอด
โดย นายวัชรินทร์ ถามผู้ตายว่าเป็นคนไปตัดท่อน้ำที่ดูดขึ้นมาใช้สำหรับทำเส้นขนมจีนหรือไม่ ผู้ตายได้ปฏิเสธ แต่นายวัชรินทร์ไม่เชื่อพร้อมกับชักอาวุธปืนขนาด 9 ม.ม. ที่พกติดตัวมากระหน่ำยิงผู้ตายจำนวน 5 นัดซ้อน จนผู้ตายล้มคว่ำเสียชีวิตคาที่ หลังก่อเหตุแล้วนายวัชรินทร์ได้ขับรถยนต์กระบะหลบหนีไป ขณะนี้อยู่ในระหว่างการติดตามตัว
วันนี้ (15 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.นครศรีธรรมราชว่า ในพื้นที่เกิดเหตุยิงโหดขึ้น 2 คดีซ้อน โดยรายแรกเป็นคนสนิทของนักการเมืองท้องถิ่น เหตุเกิดเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา พ.ต.ท.พงศ์ศักดิ์ ชโยฬาร พนักงานสอบสวนเวร สภ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งมีเหตุยิงกันตายบนถนนสายจันดี-พิปูน สี่แยกบ้านควนสงสารม.4 ต.ละอาย อ.ฉวาง จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นจึงพร้อมด้วยพ.ต.อ.สมชาย บุญครบ ผกก. พ.ต.ท.ณฐภูมินทร์ สรรพศิริกุลรอง ผกก.ป. พ.ต.ท.สมชาย เสนปาน สวป. กำลังตำรวจชุดสอบสวนแพทย์และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิใต้เต็กเซี่ยงตึ้งรีบรุดไปยังที่เกิดเหตุ
พบศพทราบชื่อต่อมาคือ นายประสิทธิ์ วงศ์พิพันธุ์ อายุ 49 ปี บ้านเลขที่ 77 ม.4 ต.ละอาย อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช นอนเสียชีวิตข้างรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า สีน้ำเงิน-ขาว ทะเบียน ขนส-559 นครศรีธรรมราช ซึ่งล้มคว่ำอยู่ สภาพศพมีบาดแผลคมกระสุนปืนลูกซองยาว ยิงเข้ากลางหลัง 7 นัด ใบหน้า 5 นัด คางหายไปทั้งแถบ ที่ข้อมือทั้งสองข้างถูกยิงขาดร่องแร่ง ลักษณะเหมือนยกมือไหว้ขอชีวิตแต่กลับถูกยิงจนมือขาด นอนหงายตายจมกองเลือดอยู่
เจ้าหน้าที่รวบรวมข้อมูลเบื้องต้นได้ความว่า นายประสิทธิ์ ผู้ตายเป็นคนสนิทของอดีต สจ. คนหนึ่งใน อ.ฉวาง และยังเป็นคนกว้างขวางในวงการนักเลงและมือปืนรับจ้าง รู้จักกันดีในฉายา “สิทธิ์ ควนสงสาร” ก่อนเกิดเหตุ ขณะที่ผู้ตายขับรถจักรยานยนต์คู่ชีพกลับจากทำธุระในตลาดจันดีเพื่อเดินทางกลับบ้านพัก เมื่อขับขี่รถจักรยานยนต์มาถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นที่เปลี่ยว มีคนร้าย 2 คน ใช้รถจักรยานยนต์ ไม่ทราบยี่ห้อและป้ายทะเบียนตามประกบ พอสบโอกาสคนร้ายก็ใช้อาวุธปืนยิงจนล้มทั้งรถทั้งคน ก่อนลงมาจ่อยิงซ้ำเสียชีวิตคาที่ดังกล่าว
พ.ต.อ.สมชายบุญครบ ผกก.สภ.ฉวาง เปิดเผยว่า การสังหารนายประสิทธิ์ ครั้งนี้ได้วางกรอบการสืบสวนไว้ว่าน่าจะมาจากความโกรธแค้นส่วนตัว เนื่องจากพบข้อมูลผู้ตายมีคู่อริมากมายหลายคน รวมทั้งเรื่องชู้สาวด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังสืบสวนหาสาเหตุที่แน่ชัดเพื่อเร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ส่วนเหตุฆาตกรรมอีกคดีหนึ่ง เกิดขึ้นเมื่อเวลา 12.30 น. พ.ต.ท.ยุทธนา สุพรรณอาสน์ พนักงานสอบสวนเวร สภ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งเหตุฆ่ากันตายที่บ้านเลขที่ 36 ถนนยุทธศาสตร์ ซอย 2 ต.ปากแพรก เขตเทศบาลเมืองทุ่งสง อ.ทุ่งสง จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นจึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.ชำนาญ ชำนาญกิจ ผกก. พ.ต.ท.สุรจิตรตะกรุดเดิม รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.ชัชชัย แก้วอ่อน สว.สส นำกำลังตำรวจ แพทย์ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิประชาร่วมใจรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านชั้นเดียว ภายในบ้านพบศพนายณัชนิธิ บุญเชิด อายุ 43 ปี เจ้าของบ้านหลังดังกล่าว นอนเสียชีวิตอยู่ในห้องครัวหน้าเครื่องซักผ้า สภาพศพคว่ำหน้าจมกองเลือด มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 ม.ม. เข้าที่บริเวณลำตัวจำนวน 5 นัด กระสุนฝังใน ในที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืน 5 ปลอก เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ก่อนแพทย์จะให้นำศพผู้ตายไปทำการขันสูตรที่โรงพยาบาลอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง
จากการสอบสวนทราบว่า นายณัชนิธิ ผู้ตายเป็นเจ้าของโรงงานทำเส้นขนมจีนรายใหญ่ ส่งตามตลาดใน อ.ทุ่งสง ก่อนเกิดเหตุขณะที่ผู้ตายอยู่ภายในบ้าน นายวัชรินทร์ จิตนาธรรม ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องกับผู้ตาย และประกอบอาชีพทำเส้นขนมจีนเช่นเดียวกับผู้ตาย ได้เดินมาหาผู้ตายที่บ้านพัก ทั้งนี้ ทั้งสองมักจะมีเรื่องขัดแย้งกันมาโดยตลอด
โดย นายวัชรินทร์ ถามผู้ตายว่าเป็นคนไปตัดท่อน้ำที่ดูดขึ้นมาใช้สำหรับทำเส้นขนมจีนหรือไม่ ผู้ตายได้ปฏิเสธ แต่นายวัชรินทร์ไม่เชื่อพร้อมกับชักอาวุธปืนขนาด 9 ม.ม. ที่พกติดตัวมากระหน่ำยิงผู้ตายจำนวน 5 นัดซ้อน จนผู้ตายล้มคว่ำเสียชีวิตคาที่ หลังก่อเหตุแล้วนายวัชรินทร์ได้ขับรถยนต์กระบะหลบหนีไป ขณะนี้อยู่ในระหว่างการติดตามตัว
