xs
xsm
sm
md
lg

รวบทีมฆ่านายก อบต.วังด้ง เผยค่าจ้าง 2 แสนบาท

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


กาญจนบุรี - ผบช.ภ.7 ลงพื้นที่กาญจน์ร่วมแถลงข่าวจับกุมทีมสังหารนายก อบต.วังด้ง พบอดีตเป็นจ่าทหารนอกราชการผู้รับงาน ส่วนกำนันคนดังผู้จ้างวานอยู่ระหว่างหลบหนี เผยค่าจ้าง 2 แสน เจ้าหน้าที่มุ่งปมการเมืองท้องถิ่น ด้านผู้ต้องหาปฏิเสธขอสู้คดีถึงที่สุด และขอให้สื่อลงข่าวให้ความเป็นธรรม

จากกรณีเมื่อตอนเที่ยงวันที่ 27 ก.ย.ที่ผ่านมา ตร.สภ.ลาดหญ้า อ.เมืองกาญจนบุรี ตรวจสอบภายโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลวังด้ง หมู่ 1 ต.วังด้ง ที่เกิดเหตุพบศพ นายมาโนช หรือ โนช สุดล้ำเลิศ อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 7/1 หมู่ 3 ต.บางเตย อ.สามพราน จ.นครปฐม ฉายา “โนช บางเตย” สภาพศพค่อมรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าสปาร์ค สีบรอนซ์ดำ ทะเบียนทำขึ้นเองจากกระดาษแข็ง กร 070 โดยรถจักรยานยนต์ล้มคว่ำด้านซ้าย พบอาวุธปืนขนาด 11 มม.ตกอยู่ที่พื้นระหว่างขาผู้ตาย 1 กระบอก ตรวจสอบบาดแผลพบถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าที่หัวไหล่ซ้ายกระสุนฝังใน 1 นัด และยังพบว่าคอหักปากแตก เนื่องจากรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุขณะขับหลบหนีเกิดล้มคว่ำอย่างกะทันหัน

ภายหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่สอบสวน ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ นายมาโนช มาดักรอยิง นายเอกสิทธิ์ วิริยาลัย อายุ 50 ปี นายก อบต.วังด้ง ที่เดินทางมาประชุมคณะกรรมการโรงสีชุมชน ขณะเดินออกจากห้องประชุมขึ้นรถจะเดินทางกลับ นายมาโนช เดินมาประกบ และใช้อาวุธปืนขนาด 11 มม.ยิงใส่ 6 นัด จนเสียชีวิต ก่อนที่ นายสุรสิทธิ์ สุขเกษม อายุ 34 ปี คนขับรถ นายเอกสิทธิ์ จะใช้ปืนขนาด 11 มม.ของ นายเอกสิทธิ์ ยิงสวน นายมาโนช จนรถ จยย.คว่ำเสียชีวิต เบื้องต้นตำรวจมุ่งปมเหตุเรื่องการเมืองท้องถิ่น เนื่องจากผู้ตายเป็นนายก อบต.วังด้ง มา 2 สมัยและประกาศลงชิงเก้าอี้นายก อบต.อีก 1 สมัย ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้ากรณีดังกล่าว เมื่อเวลา 09.00 น.วันนี (5 ต.ค.) พล.ต.ท.พงษ์สันต์ เจียมอ่อน ผบช.ภ.7 พร้อมด้วย พล.ต.ต.เรวัช กลิ่นเกษร รองผบช.ภ.7 พล.ต.ต.โชต วีรเดชกำแหง ผบก.ภ.กาญจนบุรี พ.ต.อ.วัฒนา ประสมทรัพย์ ผกก.สภ.ลาดหญ้า และ พ.ต.อ.ภัทรชัย กอสนาน ผกก.กสส.ภ.จ.กาญจนบุรี ร่วมกันแถลงข่าวที่ บก.ภ.กาญจนบุรี จับกุม จ.ส.อ.ประดิษฐ์ หรือ จ่าดิษฐ์ สารีวงษ์ อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 85 หมู่ 6 ต.แก่งเสี้ยน อ.เมืองกาญจนบุรี อดีตทหารนอกราชการ ผู้ต้องหาในคดีนี้

โดย พล.ต.ท.พงษ์สันต์ เปิดแถลงว่า หลังเกิดเหตุมือปืนยิง นายเอกสิทธิ์ วิริยาลัย นายก อบต.วังด้ง เสียชีวิต ส่วนมือปืนถูกยิงสวนเสียชีวิตเช่นกัน คดีนี้ตนได้เร่งสั่งการให้ พล.ต.ต.เรวัช กลิ่นเกษร รองผบช.ภ.7 ลงพื้นที่คุมคดีนี้ด้วยตนเอง เพราะผู้ตายเป็นนักการเมืองท้องถิ่น ถูกก่อเหตุอย่างอุจอาจ ถือเป็นที่สนใจของประชาชนทั่วไป หลังเกิดเหตุได้พยานสำคัญมา 1 ปาก คือ นายปื๊ด (นามสมมุต) ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุเมื่อวันที่ 22 ก.ย.54 เวลาประมาณ 14.00 น. จ.ส.อ.ประดิษฐ์ ได้ติดต่อให้ นายปื๊ด รับงาน แต่ นายปื๊ด ไม่รับ แต่ได้ติดต่อ นายมาโนช หรือ โนช สุดล้ำเลิศ อายุ 28 ปี มาให้ โดยพามาหา จ.ส.อ.ประดิษฐ์ หรือ จ่าดิษฐ์ ที่บ้านพักเลขที่ 85 หมู่ 6 ต.แก่งเสี้ยน อ.เมืองกาญจนบุรี ของ จ.ส.อ.ประดิษฐ์ เพื่อพบกับ นายบุญนะ ผิวอ่อนดี อายุ 56 ปี กำนัน ต.วังด้ง ที่นั่งคอยอยู่ โดย นายบุญนะ อ้างว่า นายเอกสิทธิ์ ผู้ตายเป็นชาวบ้านธรรมดา เป็นชู้กับเมียทหาร จึงจ้าง นายมาโนช ยิง โดย นายมาโนช เรียกค่าจ้าง 5 แสนบาท แต่ นายบุญนะ ต่อรองเหลือ 2 แสนบาท โดย นายบุญนะ จะเป็นผู้หาปืนมาให้ ส่วนรถ จยย.ที่ใช้ก่อเหตุให้ นายมาโนช หามาเอง

ผบช.ภ.7 กล่าวต่อว่า หลังจากนั้น นายบุญนะ ได้ขับรถพานายมาโนช ไปดูบ้านที่ทำงานและเส้นทางการหลบหนีของ นายเอกสิทธิ์ ผู้ตาย โดยมี จ.ส.อ.ประดิษฐ์ และพยานนั่งไปด้วย จากนั้นวันที่ 23 ก.ย.54 นายมาโนช ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์มาจาก จ.นครปฐม มาที่บ้าน จ.ส.อ.ประดิษฐ์ เพื่อรับเงินล่วงหน้า 3 หมื่นบาท พร้อมอาวุธปืน และดูรูปของ นายเอกสิทธิ์ จากนั้น นายมาโนช ได้เปลี่ยนป้ายทะเบียนรถจักรยานยนต์ เพื่ออำพรางเจ้าหน้าที่

จากนั้นได้นอนพักที่บ้าน จ.ส.อ.ประดิษฐ์ เพื่อรอเวลาลงมือ จนกระทั่งวันที่ 26 ก.ย.นายบุญนะ กับ จ.ส.อ.ประดิษฐ์ ได้โทรศัพท์ติดต่อกัน โดย นายบุญนะ บอกว่าพรุ่งนี้นายเอกสิทธิ์ จะไปประชุมที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลวังด้ง ให้นายมาโนช เตรียมตัว จนกระทั่งวันที่ 27 ก.ย. นายมาโนช ได้ขี่ จยย.ที่เตรียมไว้มาที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลวังด้ง เพื่อรอลงมือยิง นายเอกสิทธิ์ จนเสียชีวิต ส่วน นายมาโนช เองก็ถูกคนขับรถของ นายเอกสิทธิ์ ยิงสวนเสียชีวิตเช่นกัน

ด้าน พล.ต.ต.เรวัช กลิ่นเกษร รองผบช.ภ.7 เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุตนลงพื้นที่ควบคุมคดีด้วยตนเอง หลังได้พยานหลักฐานได้สั่งการให้ พ.ต.ท.พีระพจน์ ระหว่างบ้าน รองผกก.กสส.ภ.จ.กาญจนบุรี พ.ต.ท.เวช พิสูตร์ รอง ผกก.กสส.ภ.กาญจนบุรี พ.ต.ท.วรรณะ แจ่มศรีงาม สว.สส.สภ.ลาดหญ้า ประสานงานกันสืบสวนสอบสวนจนกระทั่งได้ตัว นายปื๊ด พยานปากสำคัญ มาสอบปากคำอย่างละเอียด ต่อมาช่วงบ่ายของวันที่ 4 ต.ค.54 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้เข้าจับกุมตัว จ.ส.อ.ประดิษฐ์ หรือ จ่าดิษฐ์ สารีวงษ์ อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 85 หมู่ 6 ต.แก่งเสี้ยน อ.เมืองกาญจนบุรี อดีตทหารนอกราชการ ซึ่งเป็นผู้รับงานมาจาก กำนันบุญนะ ได้

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อหาสนับสนุนให้ผู้อื่นกระทำผิดฐานฆ่าผู้อื่น ซึ่ง จ.ส.อ.ประดิษฐ์ ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาและขอให้การในชั้นศาล โดยจะขอสู้คดีจนถึงที่สุด อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่มีพยานบุคคลเป็นหลักฐานที่ชัดเจนคือตัวนายปื๊ด

ส่วนสาเหตุที่นายปื๊ด ยอมให้การเป็นประโยชน์เนื่องจากเกิดความโกรธแค้นกลุ่มผู้จ้างวานเพราะว่าหลังจากที่ นายมาโนช มือปืนถูกยิงสวนเสียชีวิตด้วย นายปื๊ด ได้มาติดต่อขอรับเงินค่าจ้างจำนวน 2 แสนบาทที่ตกลงกันไว้ แต่กลุ่มผู้จ้างวานไม่ยอมจ่าย จากนั้นจึงมาขอเงินจาก จ.ส.อ.ประดิษฐ์ 3 หมื่นบาท เพื่อนำเงินไปจัดงานศพ นายมาโนช แต่ก็ยังได้รับการปฏิเสธอีก จึงตัดสินใจเข้าพบตำรวจและให้การเป็นประโยชน์ต่อคดีนี้อย่างมาก ตำรวจจึงตัดสินใจกันเอาไว้เป็นพยานในคดีนี้

รองผบช.ภ.7 กล่าวอีกว่า สำหรับประเด็นในการสังหารตำรวจมุ่งปมขัดแย้งการเมืองท้องถิ่น โดยเชื่อว่าฝ่ายจ้างวานต้องการให้พรรคพวกตัวเองขึ้นมาชิงชัยเก้าอี้นายก อบต.วังด้ง แทน นายเอกสิทธิ์ ผู้ตาย แต่ปรากฏว่า นายเอกสิทธิ์ ได้นำเรื่องเข้าร้องเรียนที่ประชุมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอเมืองกาญจนบุรี ว่า มีกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ในพื้นที่ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองใน ต.วังด้ง ทำให้นายบุญนะ ไม่พอใจ จึงจ้างมือปืนมายิง ไม่ใช่เรื่องชู้สาวที่นายบุญนะ อ้างกับ นายมาโนช และพยาน ในวันที่ตกลงรับงานแต่อย่างใดเพราะตำรวจไม่มีหลักฐานประเด็นชู้สาวมาก่อนเลย

ส่วน นายบุญนะ ผิวอ่อนดี กำนัน ต.วังด้ง ผู้จ้างวานได้หลบหนีไป ตำรวจอยู่ระหว่างเร่งตามจับกุมตัวมาดำเนินดคีอย่างเร่งด่วน โดยมอบหมายให้ พ.ต.ท.พีระพจน์ ระหว่างบ้าน รองผกก.กสส.ภ.จ.กาญจนบุรี นำกำลังออกไล่ล่าตัวตามต่างจังหวัดที่คาดว่าผู้ต้องหาจะหลบซ่อนตัว ส่วน พ.ต.ท.วรรณะ แจ่มศรีงาม สว.สส.สภ.ลาดหญ้า ให้สืบหาที่ซ่อนตัวในพื้นที่ที่คาดว่าผู้ต้องหาจะหลบซ่อนตัวอยู่ คาดว่าจะได้ตัวในเร็ววันนี้

รายงานข่าวว่า ก่อนที่ ผบช.ภ.7 จะแถลงข่าว จ.ส.อ.ประดิษฐ์ หรือ จ่าดิษฐ์ สารีวงษ์ ผู้ต้องหาได้กล่าวขอร้องให้สื่อมวลชนทุกแขนงที่เดินทางไปทำข่าวในครั้งนี้ขอให้เขียนข่าวให้ความเป็นธรรมกับตนเองด้วย พร้อมทั้งกล่าวปฏิเสธคดีใช้ชั้นสอบสวน และจะขอสู้คดีในชั้นศาลจนถึงที่สุด


กำลังโหลดความคิดเห็น