ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - “สนธิ ลิ้มทองกุล” เป็นประธานฝ่ายฆราวาสพิธีอัญเชิญหัวใจเงินหลวงปู่ทวดที่ วัดสันติวรคุณ อ.สะเดา แล้ว ชี้ปีหน้าจะจัดกองผ้าป่าร่วมทำบุญอีก 500,000 บาท หลังจากที่ นศ.อุเทนทวาย สร้างโบสถ์ดินเป็นแห่งแรกของภาคใต้ ลั่นการฝ่าวิกฤตการเมืองไทยมองข้ามผ่าน “สัมภเวสีทักษิณ” แล้ว ฝากทุกคนใช้ธรรมนำหน้าแทนการยึดติดตัวบุคคล เพื่อไม่ให้เป็นเหยื่อนักการเมือง
วันนี้ (9 ธ.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น.ณ วัดสันติวรคุณ (บ้านสำนักขาม) อ.สะเดา จ.สงขลา ผู้ช่วยเลขานุการสมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และ นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งสื่อในเครือ ASTVผู้จัดการ และแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เป็นประธานฝ่ายฆราวาส ในพิธีมหามงคล เพื่อน้อมถวายเป็นพระราชกุศลในวโรกาส พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เจริญพระชนมายุครบ 7 รอบ 84 พรรษา ท่ามกลางเหล่าพุทธศาสนิกชนทั้งเหล่าข้าราชการ นักการเมืองท้องถิ่นใน จ.สงขลา และพันธมิตรฯ จากหลายจังหวัดในภาคใต้ร่วมงานโดยพร้อมใจการสวมเสื้อสีชมพูเป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้ หลังจากได้ถวายสังฆทาน เจริญพระพุทธมนต์ และถวายพระพรชัยมงคลแล้ว นายสนธิได้ทำพิธีอัญเชิญหัวใจเงินหลวงปูทวด ซึ่งทำด้วยเงินแท้ตกแต่งด้วยพลอย ภายในบรรจุชื่อ พระครูปุณณสิริวัฒน์ เจ้าอาวาสวัดสันติวรคุณ เป็นการอุทิศดวงวิญญาณให้กับหลวงปู่ทวดก่อนนำไปบรรจุในรูปเหมือนองค์ใหญ่หน้าตักกว้าง 9 เมตร สูง 9 เมตร จากนั้นจึงถวายกองผ้าป่ามหากุศล และถวายกองผ้าป่ามหากุศล และทำพิธีบรรพชาอุปสมบทหมู่อีก 9 นาค เป็นอันเสร็จสิ้นพิธีการทั้งหมด
นายสนธิ กล่าวว่า สังคมไทยนั้นเป็นสังคมที่ต้องเลือก จึงต้องไม่สับสนว่าต้องยึดมันในหลักการ ไม่ใช่ตัวบุคคล เพราะความถูกต้องนั้นต้องมาก่อนสิ่งใด วันนี้ที่คลื่นพุทธศาสนิกชนจำนวนมากที่หลั่งไหลมาร่วมงานพิธีมหามงคล มาจากการยึดมั่นหลวงปู่ทวดเป็นที่พึ่งทางใจ และขอพรเพื่อให้ตัวเองและครอบครัวมีความสุข แต่อยากให้เปลี่ยนเป็นขอให้ชาติบ้านเมืองสงบสุขบ้าง เพราะผลที่ออกมาก็จะทำให้ตัวเองมีความสุขเช่นเดียวกัน
ขณะเดียวกัน ก็ขอให้ยึดเอาธรรมของพระพุทธเจ้ามานำหน้าด้วย อันเป็นจุดยืนเดียวกันของพันธมิตรฯ ทุกคนที่มีอยู่อย่างไม่เปลี่ยนแปลง และหากคนยึดมั่นในศีลธรรมแล้วสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็จะคุ้มครองให้ปลอดภัย
อย่างไรก็ตาม ตนได้เรียนรู้และเข้าใจชีวิตมากขึ้น และฝึกละวางความรัก โลภ โกรธ หลง ให้น้อยลง เพราะชีวิตคนเรานั้นก็มีแต่ความว่างเปล่า หากสมมติว่า พรุ่งนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เสียชีวิต คนจำนวนมากจะดีใจและหายโกรธ แต่ที่ทุกวันนี้ยังมีความทุกข์ ความโกรธ เพราะยังผูกพันกับโลกียะทั้งสิ้น
ดังนั้น เหตุที่ตนไม่ได้ออกมาปรากฏตัวในสังคมมากนัก ก็เพราะมองข้ามตัว พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะนั่นเป็นเพียงสัมภเวสี แต่กลับมองไปที่สังคมไทยด้วยความห่วงใย ว่า ทุกวันนี้ยังคงยึดติดที่ตัวบุคคล ซึ่งเป็นอันตรายที่จะถูกนักการเมืองหลอกและตักตวงผลประโยชน์เอาได้ง่าย
นายสนธิ ยังกล่าวยกย่อง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ว่า ทรงเป็นสุดยอดอรหันต์ และทรงมีญานสูงกว่าอริยสงฆ์หลายองค์ในประเทศ หากพิจารณาพระราชดำรัสแล้ว จะพบว่าล้วนเป็นหลักธรรมคำสอนที่อยู่ในพระไตรปิฎกทั้งสิ้น เช่น แนวทางใช้ชีวิตแบบเศรษฐกิจพอเพียง คือความสมถะที่ทำให้ชาวพุทธรู้จักพอ, ให้คนดีได้ปกครองบ้านเมือง และควบคุมคนไม่ดีไม่ให้มีอำนาจ มาจากมงคลสูตรที่สอนว่าอย่าคบคนพาล หรือแม้แต่ทรงตรัสมิให้นำกระสอบทรายกั้นน้ำท่วมที่วังสวนจิตรลดา เพื่อให้น้ำไหลออกไปโดยเร็ว เพราะหลักธรรมสอนว่าอย่าทำอะไรที่ฝืนธรรมชาติ เป็นต้น แต่ทั้งหมดนั้นเราไม่ได้คิดตาม
ก่อนเดินทางกลับนั้น นายสนธิ ยังได้กล่าวกับผู้เข้าร่วมงานว่า ในเดือนมกราคมปีหน้า ตนจะเดินทางมาที่นี่อีกครั้ง เพื่อจัดพิธีทอดผ้าป่าร่วม จำนวน 500,000 บาท เพื่อนำเงินไปใช้ประโยชน์ในส่วนนี้ภายหลังจากที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย ได้สร้างพระอุโบสถดินแห่งแรกของภาคใต้ ณ วัดสันติวรคุณ