ยะลา - เรือนจำกลางยะลา ปล่อยตัวนักโทษ 95 คนหลังได้รับพระราชทานอภัยโทษ ผู้ต้องขังปลาบปลื้ม พร้อมสัญญาออกมาจะทำแต่ความดีเพื่อสังคม
เวลา 11.00 น.วันนี้ (8 ธ.ค.) ที่เรือนจำกลางจังหวัดยะลา ต.สะเตง อ.เมือง จ.ยะลา นางวิรา ยากะจิ ณ พิกุล ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดยะลา พร้อมด้วย นายอาคม สิงหเดชา ผู้พิพากษาศาลจังหวัดยะลา เป็นประธานในพิธีปล่อยตัวผู้ต้องราชทัณฑ์ที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษเนื่องในวโรกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 84 พรรษา 5 ธันวามหาราช นายอัศวิน คุณพันธ์ ผู้บัญชาการเรือนจำกลางจังหวัดยะลา และเจ้าหน้าที่จากกรมราชทัณฑ์ ร่วมให้การต้อนรับ ซึ่งในพิธี ผู้ต้องราชทัณฑ์ มีการปฏิญาณตน และทางกรมราชทัณฑ์ยังได้มอบเงิน เป็นค่าเดินทาง คนละ 500 บาท ซึ่งมีบรรดาญาติๆ ของผู้ต้องขังเดินทางมาต้อนรับ ด้วยความยินดีเป็นจำนวนมาก
สำหรับการพระราชทานอภัยโทษให้กับนักโทษในเรือนจำกลางจังหวัดยะลานั้น ขณะนี้มียอดผู้ต้องขัง ดังนี้โดยแยกเป็น ผู้ต้องขังชาย 1,197 คน ผู้ต้องขังหญิง จำนวน 89 คน กักขัง ชาย 20 คน กักขังหญิง 1 คน รอการพิสูจน์ เป็นชาย 10 คน ซึ่งมีการปล่อยตัวผู้ต้องราชทัณฑ์ ในวันนี้ (8 ธ.ค.) จำนวน 95 คน ในนี้เป็นหญิง 4 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ต้องขังในคดีทั่วไป และผู้ต้องขังแทนค่าปรับ เช่น ในคดีลักทรัพย์ รับของโจร ชิงทรัพย์ มียาเสพติดไว้ในครอบครอง และต้องเป็นผู้ต้องขังที่มีความประพฤติดี ได้รับการแก้ไขฟื้นฟู และไม่เป็นภัยต่อสังคม ส่วนผู้ต้องหาในคดีความมั่นคง ก็ได้รับสิทธิ์อภัยโทษ ลดโทษเช่นกัน
แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับความผิดในหมายศาลที่กำหนดความผิดในมาตราใดบ้าง และเป็นไปตามสัดส่วนรายละเอียดมาตรา ในพระราชกฤษฎีกา นำมาประกอบว่า จะได้รับการลดโทษ ในส่วนใดบ้าง ซึ่งผู้ต้องหาในคดีด้านความมั่นคง ที่คุมถูกขังอยู่ในเรือนจำกลางยะลา ในขณะนี้ มี จำนวน 24 คน โดยส่วนใหญ่อยู่ในระหว่างรอการประกันตัว สำหรับกลุ่มที่กักขังแทนค่าปรับ ก็จะลดให้ทั้งหมด และปล่อยตัวทันที ส่วนผู้ต้องขังที่มีโทษเหลือไม่เกิน 1 ปี แล้วถูกคุมขังมาแล้ว ก็เป็นไปตามมาตราที่กระทำความผิดในแต่ละมาตราที่กำหนดไว้ แต่ส่วนใหญ่ถ้าโทษเหลือไม่เกิน 1 ปี ก็จะปล่อยตัวออกไป
นางวิรา ยากะจิ ณ พิกุล ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดยะลา กล่าวว่า ให้ถือว่าในวันนี้ เป็นวันมงคลในชีวิต ขอให้อดีตที่ผ่านมาเป็นบทเรียนสอนตัวเอง เมื่ออกไปแล้วอย่าได้ไปกระทำความผิดซ้ำ และให้นึกถึงพระเมตตา และ พระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และน้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการดำเนินชีวิต
นายนพดล ดีบุรี ชาวบ้านในพื้นที่ จ.เลย ที่มาทำงานในพื้นที่ จ.ยะลา ซึ่งเป็นผู้ต้องขังในคดีกรรโชคทรัพย์ ที่ถูกศาลจังหวัดยะลา ตัดสินสั่งจำคุก เป็นเวลา 1 ปี กล่าวว่า ตนเองรู้สึกดีใจมาก เหมือนได้ชีวิตใหม่ โชคดีที่ได้เกิดบนผืนแผ่นดินไทย ที่มีพ่อหลวง ออกไปแล้วจะทำแต่ความดี จะทำเพื่อคนที่ตนเองรัก ทำเพื่อพ่อ-แม่ ตนเองอยากจะให้ทุกคนที่อยู่ในสังคม นึกถึงบุญคุณของแผ่นดิน นึกถึงบุญคุณ ของของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ขอให้ตั้งหน้าตั้งตาเป็นคนดี ทำดีเพื่อสังคม หากคนทุกคนในสังคม เป็นคนดี ประเทศชาติก็จะดี จะอยู่กันอย่างมีความสุข เมื่อตนเองออกไปแล้วจะกลับไปประกอบอาชีพที่บ้านเกิดในพื้นที่ จ.เลย ตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง