นายกฯ เป็นประธานปล่อยตัวผู้ต้องราชทัณฑ์ หลังได้รับพระราชทานอภัยโทษ 12,000 รายทั่วประเทศ แนะทุกคนเป็นคนดีของสังคม น้อมนับยึดแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเป็นหลักในชีวิต
วันนี้ (8 ธ.ค.) เมื่อเวลา 08.30 น.เรือนจำคลองเปรม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีปล่อยตัวผู้ต้องราชทัณฑ์ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554 โดยมี พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม คณะผู้บริหารกระทรวงยุติธรรมร่วมด้วย โดยวันนี้เป็นพิธีปล่อยตัวผู้ต้องราชทัณฑ์ในเขต กทม. และปริมณฑล จำนวนวน 2,766 ราย และทั่วประเทศจัดปล่อยตัวพร้อมกัน จำนวน 9,234 ราย รวมสิ้นปล่อยตัวทั้งสิ้นวันนี้ 12,000 ราย
ขณะที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวเปิดงานในพิธีว่า นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้แก่ผู้ต้องราชทัณฑ์และครอบครัว ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานอภัยโทษในครั้งนี้ ขอแสดงความยินดีกับทุกคนด้วย ทั้งนี้ ขอให้น้อมรำลึกในพระเมตตา พระมหากรุณาธิคุณในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ น้อมนำแนวพระราชดำริไปปรับใช้ในการดำเนินชีวิต ขอให้เริ่มต้นชีวิตใหม่โดยการประกอบอาชีพสุจริต อย่าไปทำผิดเหมือนในอดีต และขอให้เชื่อมั่นตนเองว่าจะอยู่ในสังคมได้ เนื่องจากสังคมไทยเป็นสังคมแห่งการให้อภัย เปิดกว้าง และให้โอกาสทุกกคนอย่างเท่าเทียมกัน ต้องไม่หวั่นไหว ต้องสร้างคุณงามความดี เพราะพระองค์ท่านทรงงานอย่าเหน็ดเหนื่อยเพื่อพสกนิกรทุกคน เพื่อให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ดังนั้นเราควรเดินตามรอยพระเบื้องยุคลบาท น้อมนำไปปฏิบัติ โดยเฉพาะแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ต้องรู้จักประมาณตน รู้รักสามัคคี ขยัน อดทน ให้สมกับที่ได้รับพระราชโทษครั้งนี้
ด้าน พ.ต.อ.สุชาติ วงศ์อนนันต์ชัย อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า ในวันนี้จะมีการปล่อยตัวผู้ต้องราชทัณฑ์ทั่วประเทศที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษกลุ่มแรก จำนวน 12,000 ราย และสำหรับในเขตกรุงเทพมหานคร และปริมณฑลกว่า 2,700 คน และที่เหลือกว่า 9,200 รายเป็นผู้ต้องราชทัณฑ์ในต่างจังหวัด โดยก่อนหน้าที่จะมีการปล่อยตัวนักโทษทั้งหมดจะได้ รับการอบรม 5 ด้าน ทั้งในเรื่องของความรู้สึกผิดชอบชั่วดี การปฏิบัติเป็นจิตอาสา รวมไปถึงการฝึกอาชีพ อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ทางกรมราชทัณฑ์จะมีการแจกเงินค่าเดินทางให้นักโทษใช้สำหรับเดินทางครั้งนี้ด้วย