ศูนย์ข่าวภูเก็ต - มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ตจัดงานครบรอบ 40ปี มหาวิทยาลัยราชภัฎ ใต้ร่มพระบารมี” เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวครบ 84 พรรษา นำเสนอศักยภาพและการเป็นศูนย์กลางทางวิชาการของชุมชน
วันนี้ (7 ธ.ค.) ที่ศูนย์ประชุมมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต นายวรวัจน์ เอื้อภิญญกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานพิธีเปิดงานและบรรยายพิเศษงานครบรอบ 40 ปี มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต ใต้ร่มพระบารมี” พร้อมทั้งมอบโล่เกียรติยศแก้ศิษย์เก่าดีเด่น และนักศึกษาดีเด่น รวมถึงอาจารย์ตันติพงษ์ เพชรไชยา นักกีฬาขว้างค้อนเหรียญทองซีเกมส์ โดยมีนายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ดร.ประภา กาหยี อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต และนักศึกษาให้การต้อนรับ
นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า การพัฒนาการศึกษาจะต้องมองให้ไกล เพราะในอนาคตต้องมีการเปลี่ยนเกิดขึ้น รวมทั้งจะต้องมองให้ครอบคลุมถึงศักยภาพ ธรรมชาติธรรม ภูมิอากาศ ภูมิประเทศ และวัฒนธรรม โดยนำสิ่งเหล่านี้มาระดมสมองเพื่อที่จะกลั่นกรองออกมา เพราะการพัฒนาคนนั้นจะต้องให้สอดคล้องกับสิ่งที่เป็นศักยาภาพของพื้นที่นั้น
อย่างกรณีของภูเก็ตที่เป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลก แต่ตอนนี้ภูเก็ตยังขาดการบริหารจัดการที่ดีทั้งในเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน และการพัฒนาภูเก็ตจะต้องมีการออกแบบใหม่ โดยการนำเรื่องของการศึกษาเข้ามาเกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว ซึ่งทางกระทรวงศึกษาธิการจะร่วมมือกับสถาบันการศึกษาในจังหวัดภูเก็ตในการพัฒนาหลักสูตรให้สอดคล้องกัน
ด้าน ดร.ประภา กาหยี อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต กล่าวว่า มหาวิทยาลัยราชภัฎภูเก็ตได้ก่อตั้งมาเป็นเวลา 40 ปีแล้ว ซึ่งทางมหาวิทยาลัยฯ ได้จัดงานฉลองครบรอบ 40 ปี เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยได้จัดกิจกรรมภายใต้ชื่องาน “40 ปี มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต ใต้ร่มพระบารมี” ระหว่างวันที่ 4-8 ธ.ค. 2554 นี้ มีกิจกรรมเชิงวิชาการ เช่น การประชุมวิชาการนานาชาติ การนำเสนองานวิจัย นิทรรศการของคณะวิชาต่างๆ รวมไปถึงกิจกรรมที่เน้นความสามารถและทักษะเฉพาะด้าน เช่น การประกวดสุนทรพจน์ภาษาอังกฤษ การจัดแสดงผลงานบาติกเอกลักษณ์สำคัญของจังหวัดภูเก็ต งานกาล่าดินเนอร์อันดามันหรรษา บาบ๋ารวมใจเทิดไท้องค์ราชัน เป็นต้น
ดร.ประภากล่าวเพิ่มว่า มหาวิทยาลัยราชภัฏจะพัฒนาศักยภาพให้สอดรับกับนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ โดยมหาวิทยาลัยเป็นศูนย์ประสานงานของคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ของกระทรวง เพื่อให้ยุทธศาสตร์ของกระทรวงสามารถดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด ในขณะเดียวกันมหาวิทยาลัยจะเป็นสถานศึกษาที่ให้โอกาสทางการศึกษาแก่เยาวชน เน้นรูปแบบการจัดการเรียนการสอนที่ทันสมัย มีความแข็งแกร่งด้านองค์ความรู้ เพื่อบ่มเพาะบัณฑิตให้สามารถก้าวออกไปเป็นพลเมืองดีและกำลังสำคัญของประเทศชาติต่อไป
มหาวิทยาลัยให้ความสำคัญต่อการก้าวสู่สังคมอาเซียนในปี 2558 ทั้งพัฒนาหลักสูตรที่เน้นให้นักศึกษาทำงานระหว่างเรียนและมีงานทำเมื่อสำเร็จการศึกษา และมหาวิทยาลัยเน้นด้านการท่องเที่ยวและบริการ รวมทั้งสาขาที่เกี่ยวข้องและการพัฒนาศูนย์ภาษาให้เป็นศูนย์ภาษานานาชาติ เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของฝั่งอันดามันต่อไป