ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - อำเภอสะบ้าย้อย สงขลา วิกฤตน้ำท่วมทั้งอำเภอ หนักสุดที่บ้านแลแบง ชาวบ้านอพยพออกจากหมู่บ้านทั้งหมดมาอาศัยอยู่ภายในศูนย์พักพิง ร.ร.สะบ้าย้อย ชั่วคราว นอกจากนี้ โรงเรียนอย่างน้อยสองแห่งปิดเรียนชั่วคราว และยังเกิดเหตุเศร้าสลดเมื่อพ่อแม่ลูก 4 ชีวิต พยายามขับรถฝ่ากระแสน้ำ แต่เครื่องดับลูกชายวัย 3 ขวบ ถูกน้ำพัดเสียชีวิต ขณะที่ภาพรวมของสงขลาถูกน้ำท่วมแล้ว 3 อำเภอ และเตรียมประกาศเป็นพื้นที่เขตภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน
วันนี้ (24 พ.ย.) สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา เข้าขั้นวิกฤต ล่าสุด ชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 1 บ้านแลแบง ต.สะบ้าย้อย ทั้งหมู่บ้านรวม 99 ครัวเรือน 364 คน ได้พากันอพยพออกจากหมู่บ้านมาอาศัยอยู่ในศูนย์พักพิงภายในโรงเรียนสะบ้าย้อย โดยใช้โรงยิมเนเซียม โรงอาหาร และศาลาละหมาด เป็นที่พัก เนื่องจากสภาพภายในหมู่บ้าน ถูกน้ำท่วมอย่างหนักความสูง 2-4 เมตร ไม่สามารถอาศัยได้การเข้าออกต้องใช้เรือเพียงอย่างเดียว ซึ่งเป็นผลมาจากน้ำป่าที่ไหลเข้าท่วมหมู่บ้านอย่างรวดเร็วตั้งแต่ช่วงเย็นของเมื่อวานนี้ต่อเนื่องมาจนถึงวันนี้
โดยขณะนี้ทางอำเภอสะบ้าย้อย อบต.สะบ้าย้อย และ อบจ.สงขลา พร้อมด้วยทหารพราน และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้เข้าไปช่วยเหลือชาวบ้านทั้งหมดโดยมีการนำรถสุขาเคลื่อนที่มาให้บริการ และเตรียมส่งความช่วยเหลือ โดยเฉพาะเครื่องอุปกรณ์เข้าไปมอบให้กับชาวบ้านทั้งหมดโดยเร็วที่สุด เนื่องจากขณะนี้ชาวบ้านยังชีพอยู่ได้จากข้าวสาร และกับข้าวที่พอจะขนติดไม้ติดมืออกมาจากบ้านเท่านั้น
ขณะที่ผู้อพยพส่วนใหญ่จะเป็นผู้หญิง และเด็ก โดยเฉพาะ นางฟาติเมาะ จอแมเต๊ะ อายุ 24 ปีซึ่งจำเป็นต้องนำลูกชายคนแรกซึ่งเพิ่งคลอด และอายุยังไม่ถึง 1 เดือนออกมาอยู่ที่ศูนย์พังพิงเพราะบ้านถูกน้ำท่วม เช่นเดียวกับครอบครัวของ นายมะแอ ดอเลาะห์ อายุ 20 ปี พร้อมญาติๆ อีกกว่า 20 คนก็ต้องพากันอพยพออกจากหมู่บ้านเช่นกันเนื่องจากบ้านพักถูกน้ำท่วมอย่างหนัก
นายอับดุลรอแม เจ๊ะและ ผู้ใหญ่บ้าน ม.1 บ้านแลแบง บอกว่า น้ำที่ไหลเข้าท่วมหมู่บ้านแลแบง เป็นน้ำป่าที่มาจากเขาบาโหย เขาแดง ใน อ.สะบ้าย้อย และน้ำป่าจาก อ.กาบัง จ.ยะลา ซึ่งไหลมารวมกันที่หมู่บ้านแลแบงซึ่งเป็นที่ลุ่มทำให้น้ำท่วมสูงอย่างรวดเร็ว ชาวบ้านไม่ทันตั้งตัวและจำเป็นต้องอพยพออกจากหมู่บ้านเพื่อความปลอดภัย
อย่างไรก็ตาม ในพื้นที่ อ.สะบ้าย้อย นอกจากหมู่บ้านแลแบงแล้ว ขณะนี้น้ำได้เริ่มไหลเข้าท่วมภายในเขตเทศบาลตำบลสะบ้าย้อยแล้วเช่นกัน โดย นางชลลดา นิวาสวุฒิกิจ นายกเทศมนตรีตำบลสะบ้าย้อย เปิดเผยว่า บริเวณถนนเทศบาล 1 ซึ่งอยู่ท้ายตลาดน้ำได้ท่วมถนน และบ้านเรือนชาวบ้าน ระดับน้ำสูงประมาณ 50 เซนติเมตร ส่งผลให้ชาวบ้านกว่า 30 ครัวเรือนจำเป็นต้องอพยพออกจากบ้านไปอาศัยอยู่ตามบ้านญาติชั่วคราว ขณะที่ทางเทศบาลตำบลสะบ้าย้อยได้จัดเตรียมสถานที่ และศูนย์อพยพเพื่อให้ชาวบ้านนำทรัพย์สินและรถยนต์มาเก็บไว้เพื่อรับสถานการณ์น้ำที่อาจจะท่วมสูงขึ้น
นอกจากนี้ โรงเรียนใน อ.สะบ้าย้อย อย่างน้อย 2 แห่งเช่น โรงเรียนสะบ้าย้อยวิทยา ได้ปิดชั่วคราวและเปิดเรียนอีกครั้งในวันจันทร์ที่ 28 พ.ย.นี้ รวมทั้งศูนย์เด็กเล็กโรงเรียนสะบ้าย้อยซึ่งถูกน้ำท่วมก็ปิดเรียนไม่มีกำหนดเช่นกัน
และที่เศร้าสลด คือ จากน้ำท่วมในพื้นที่ อ.สะบ้าย้อย ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 1 ราย คือ ด.ช.ณัฐดนัย รัตนพงษ์ อายุ 3 ขวบ 7 เดือน ซึ่งจมน้ำเสียชีวิตโดยเหตุการณ์เกิดขึ้นขณะที่ นายณัฐสกล รัตนพงษ์ ซึ่งเป็นพ่อได้ขับรถยนต์กระบะพาครอบครัวซึ่งประกอบด้วยภรรยา และลูกชายวัย 3 ขวบ และ 1 ขวบ อีก 2 คน กลับบ้านพักในพื้นที่ ม.2 บ้านถ้ำครก ต.คูหา และพยายามขับรถฝ่ากระแสน้ำที่ท่วมสะพาน แต่ปรากฏว่ารถเกิดดับกลางน้ำ และรถถูกน้ำซัด นายณัฐสกล จึงพยายามนำลูกชายทั้งสองคนออกจากรถ โดยให้ภรรยาอุ้มไว้ แต่ปรากฏว่า กระแสน้ำที่เชี่ยว ด.ช.ณัฐดนัย เกิดหลุดจากมือแม่จมหายไปกับสายน้ำ และพบศพเมื่อช่วงเช้าของวันนี้ท่ามกลางความเสียใจของทั้งพ่อและแม่
ส่วนสถานการณ์ในภาพรวมของ จ.สงขลา นายวิญญู ทองสกุล ผู้ว่าราชการ จ.สงขลา เปิดเผยว่า ที่ได้รับรายงานขณะนี้ จ.สงขลา ถูกน้ำท่วมแล้ว 3 อำเภอ คือ อ.สะบ้าย้อย อ.ควนเนียง และ อ.สิงหนคร และทางจังหวัดเตรียมประกาศให้พื้นที่ทั้ง 3 อำเภอ เป็นเขตภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน ขณะที่สถานการณ์โดยรวมยังไม่น่าไว้วางใจ เนื่องจากยังมีฝนตกหนักอาจจะเกิดน้ำท่วมขึ้นอีกหลายพื้นที่เช่น อ.นาทวี และ อ.จะนะ และ อ.รัตภูมิ ซึ่งเป็นพื้นที่ลาดเชิงเขาเสี่ยงต่อน้ำป่าไหลหลาก และน้ำท่วมฉับพลัน ทั้งนี้ ได้สั่งการให้ทั้ง 16 อำเภอเตรียมพร้อมรับสถานการณ์อย่างเต็มที่โดยเฉพาะการช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัย