นครศรีธรรมราช - ฝนที่ตกหนักต่ออย่างต่อเนื่อง ทำให้น้ำป่าทะลักท่วมชุมชนในที่ราบลุ่มแล้วบางส่วน ขณะที่ ทน.นครศรีธรรมราช ประกาศเปลี่ยนสัญญาณธงเตือนภัยน้ำท่วมเป็นสีเหลือง เตือนให้ชาวบ้านติดตามข่าวเฝ้าระวังภัยน้ำท่วมอย่างใกล้ชิด
วันนี้ (22 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงาน จ.นครศรีธรรมราช ว่า หลังจากที่ฝนได้ตกลงมาอย่างต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 ส่งผลให้น้ำในลำคลองสายหลักหลายสายเริ่มล้นตลิ่งและไหลบ่าเข้าท่วมหลายชุมชนในที่ลุ่ม โดยเฉพาะในเขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราช
ทั้งนี้ นายเชาวนวัศน์ เสนพงศ์ นายกเทศมนตรีนครนครศรีธรรมราช ได้ส่งการให้เจ้าหน้าที่เปลี่ยนธงสัญญาณปรับระดับการแจ้งเตือนจากธงสีเขียว เป็นธงสีเหลืองแล้ว หมายความว่า ให้ประชาชนติดตามข่าวสาร และระดับน้ำอย่างใกล้ชิด และหากเปลี่ยนเป็นธงสีแดง หมายความว่า ต้องรีบอพยพขึ้นที่สูง โดยเฉพาะในเขตชุมชนริมคลองทั้ง 5 สายหลัก คือ คูพาย, สวนหลวง, ป่าเหล้า, หน้าเมือง, ราเมศวร์ ที่รับน้ำมาจากเขตเทือกเขาหลวงซึ่งไหลพาดตัวเมืองนครศรีธรรมราช และเป็นลำคลองที่ส่งผลให้เกิดอุทกภัยทุกครั้ง
ส่วนชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม และระดับน้ำยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากฝนยังคงตกหนักติดต่อกัน ได้แก่ ชุมชนหน้าสถานีรถไฟ ชุมชนบ่อทรัพย์ ชุมชนท่าโพธิ์ ชุมชนมะม่วงสองต้น ชุมชนท่าช้าง ซึ่งทั้งหมดอยู่ในเขต อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช
นายเอกรินทร์ รอดทอง ส.ท.นครนครศรีธรรมราช เขต 3 เปิดเผยว่า ขณะนี้เทศบาลนครนครศรีธรรมราช ได้เตรียมทรัพยากรทุกด้านที่ต้องใช้ในการช่วยเหลือประชาชนไว้พร้อมแล้ว โดยก่อนหน้านี้ได้มีการขุดลอกคูคลองไว้รองรับการระบายน้ำ
ส่วนทางด้านพื้นที่ป่าเขา โดยเฉพาะในแนวเทือกเขาหลวงซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงสูงสุดเป็นอันดับ 1 ของภาคใต้ ขณะนี้ฝนได้ตกลงมาอย่างหนักหลายจุด เริ่มมีน้ำป่าที่ไหลลงมาจากภูเขาอย่างต่อเนื่อง แต่ยังไม่ถึงขั้นรุนแรง โดยในพื้นที่เสี่ยงต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบก่อนหน้านี้ เช่น อ.ขนอม อ.สิชล อ.นบพิตำ อ.ลานสกา อ.พิปูน อ.ฉวาง อ.ช้างกลาง อ.พรหมคีรี และ อ.ร่อนพิบูลย์ ซึ่งเป็นพื้นที่รายรอบเทือกเขาหลวง ได้แจ้งเตือนประชาชนและในแต่ละชุมชนได้มีชุดเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน อ.นบพิตำ
นายธีระ มินทราศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชมีรายงานฝนตกและตกหนักในเกือบทุกอำเภอต่อเนื่องประมาณ 4 วัน แต่เป็นลักษณะของฝนตกแล้วทิ้งช่วง ทำให้การระบายน้ำในพื้นที่ต่างๆ ยังอยู่ในสภาพคล่องตัว ส่วนอ่างเก็บน้ำสำคัญทั้ง 4 แห่ง คือ อ่างเก็บน้ำห้วยน้ำใส อำเภอชะอวด อ่างเก็บน้ำคลองกะทูน และอ่างเก็บน้ำคลองดินแดง ในพื้นที่ อ.พิปูน และอ่างเก็บน้ำเสม็ดจวน อ.ทุ่งใหญ่ ยังอยู่ในสภาพที่สามารถรองรับปริมาณน้ำได้
วันนี้ (22 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงาน จ.นครศรีธรรมราช ว่า หลังจากที่ฝนได้ตกลงมาอย่างต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 ส่งผลให้น้ำในลำคลองสายหลักหลายสายเริ่มล้นตลิ่งและไหลบ่าเข้าท่วมหลายชุมชนในที่ลุ่ม โดยเฉพาะในเขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราช
ทั้งนี้ นายเชาวนวัศน์ เสนพงศ์ นายกเทศมนตรีนครนครศรีธรรมราช ได้ส่งการให้เจ้าหน้าที่เปลี่ยนธงสัญญาณปรับระดับการแจ้งเตือนจากธงสีเขียว เป็นธงสีเหลืองแล้ว หมายความว่า ให้ประชาชนติดตามข่าวสาร และระดับน้ำอย่างใกล้ชิด และหากเปลี่ยนเป็นธงสีแดง หมายความว่า ต้องรีบอพยพขึ้นที่สูง โดยเฉพาะในเขตชุมชนริมคลองทั้ง 5 สายหลัก คือ คูพาย, สวนหลวง, ป่าเหล้า, หน้าเมือง, ราเมศวร์ ที่รับน้ำมาจากเขตเทือกเขาหลวงซึ่งไหลพาดตัวเมืองนครศรีธรรมราช และเป็นลำคลองที่ส่งผลให้เกิดอุทกภัยทุกครั้ง
ส่วนชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม และระดับน้ำยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากฝนยังคงตกหนักติดต่อกัน ได้แก่ ชุมชนหน้าสถานีรถไฟ ชุมชนบ่อทรัพย์ ชุมชนท่าโพธิ์ ชุมชนมะม่วงสองต้น ชุมชนท่าช้าง ซึ่งทั้งหมดอยู่ในเขต อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช
นายเอกรินทร์ รอดทอง ส.ท.นครนครศรีธรรมราช เขต 3 เปิดเผยว่า ขณะนี้เทศบาลนครนครศรีธรรมราช ได้เตรียมทรัพยากรทุกด้านที่ต้องใช้ในการช่วยเหลือประชาชนไว้พร้อมแล้ว โดยก่อนหน้านี้ได้มีการขุดลอกคูคลองไว้รองรับการระบายน้ำ
ส่วนทางด้านพื้นที่ป่าเขา โดยเฉพาะในแนวเทือกเขาหลวงซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงสูงสุดเป็นอันดับ 1 ของภาคใต้ ขณะนี้ฝนได้ตกลงมาอย่างหนักหลายจุด เริ่มมีน้ำป่าที่ไหลลงมาจากภูเขาอย่างต่อเนื่อง แต่ยังไม่ถึงขั้นรุนแรง โดยในพื้นที่เสี่ยงต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบก่อนหน้านี้ เช่น อ.ขนอม อ.สิชล อ.นบพิตำ อ.ลานสกา อ.พิปูน อ.ฉวาง อ.ช้างกลาง อ.พรหมคีรี และ อ.ร่อนพิบูลย์ ซึ่งเป็นพื้นที่รายรอบเทือกเขาหลวง ได้แจ้งเตือนประชาชนและในแต่ละชุมชนได้มีชุดเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน อ.นบพิตำ
นายธีระ มินทราศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชมีรายงานฝนตกและตกหนักในเกือบทุกอำเภอต่อเนื่องประมาณ 4 วัน แต่เป็นลักษณะของฝนตกแล้วทิ้งช่วง ทำให้การระบายน้ำในพื้นที่ต่างๆ ยังอยู่ในสภาพคล่องตัว ส่วนอ่างเก็บน้ำสำคัญทั้ง 4 แห่ง คือ อ่างเก็บน้ำห้วยน้ำใส อำเภอชะอวด อ่างเก็บน้ำคลองกะทูน และอ่างเก็บน้ำคลองดินแดง ในพื้นที่ อ.พิปูน และอ่างเก็บน้ำเสม็ดจวน อ.ทุ่งใหญ่ ยังอยู่ในสภาพที่สามารถรองรับปริมาณน้ำได้