เลย-พบซากช้างน้อยอายุราว 2 ปีล้มในลำห้วยน้ำทบ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง คาดฝนตกหนักน้ำป่าพัดตกจากที่สูงจนคอหักและถูกน้ำซัดจนขาด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 20.00 น.คืนที่ผ่านมา (4 ต.ค.) นายวัชระ ธรรมสอน หัวหน้าโครงการฟื้นฟูอาหารช้างป่าภูหลวง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ เข้าตรวจสอบซากศพ ช้างนอนตายที่ลำน้ำห้วยน้ำทบ ภายหลังนายสุวัฒน์ ศรีทุมสุข อายุ 54 ปี ไปทำสวนยางพารา แล้วได้กลิ่นเหมือนซากสัตว์เน่าอยู่สวนยางพาราหลังบ้าน จึงแจ้งกับนายสมเกียรติ ดอนถวิน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านและได้โทรศัพท์แจ้งนายวัชระ ธรรมสอน หัวหน้าโครงการฟื้นฟูอาหารช้างป่าภูหลวงฯ ที่หมู่ที่ 8 บ้านน้ำทบ ตำบลเขาหลวง อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย
นายสุวัฒน์ ศรีทุมสุข ชาวสวนยางพารา ผู้พบซากช้างคนแรกกล่าวว่า ตนเข้าสวนยางพาราที่อยู่หลังบ้านเพื่อไปใส่ปุ๋ย เมื่อเดินไปใกล้ริมห้วยน้ำทบซึ่งติดกับสวนยางพาราของตนก็ได้กลิ่นเน่าโชยมากับลม คิดว่าเป็นซากสุนัขตายจึงไม่เอะใจคิดว่าเมื่อโดนน้ำพัดไหลไปกลิ่นก็จะหายเพราะเมื่อวันที่ 3 ต.ค.ที่ผ่านมาได้เกิดน้ำป่าไหลหลากจากห้วยน้ำทบบนเทือกเขาภูหลวง
อย่างไรก็ตาม ได้ตัดสินใจเดินเข้าไปดูจึงเห็นช้างที่ตายแล้วติดอยู่กับต้นมะขามที่ริมห้วยน้ำทบ หัวช้างขาด ผิวลอกขาว จึงรีบแจ้งผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านน้ำทบ หลังจากนั้นได้เข้าไปดูและได้ระดมชาวบ้านมาพากันงัดซากศพลงมาที่ร่องน้ำไหลผ่านเพื่อให้กลิ่นหายไป และได้แจ้งไปยังนายวัชระ ธรรมสอน หัวหน้าโครงการฟื้นฟูอาหารช้างป่าภูหลวง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ เข้ามาตรวจสอบ
นายวัชระ ธรรมสอน กล่าวว่า ซากช้างที่พบเห็นนั้นอายุราว 2 ปี เนื่องจากตัวใหญ่กว่าพลายบุญหลง ที่พลัดหลงจากแม่ช้างแต่โชคดี ไม่ตาย ที่ชาวบ้านพบที่บ้านเลยตาวตาด หมู่ 2 ตำบลเลยวังไสย์ อำเภอภูหลวง จังหวัดเลย สภาพน่าจะโดนน้ำพัดไหลมาจากที่อื่น จากกรณีที่คอขาดน่าจะเป็นเพราะว่าช้างได้ตกลงมาจากที่สูงแล้วคอหักตาย เมื่อฝนตกหนักน้ำป่าจึงพัดเอาช้างมาตามกระแสน้ำและได้มาติดที่ต้นไม้ดังกล่าว
ส่วนลำตัวใกล้กับขาหน้ามีแผลเปิดประมาณเส้นผ่านศูนย์กลาง 20 เซนติเมตร มองเห็นกระดูกซี่โครงทั้ง 2 ข้าง นั้นน่าจะมาจากถูกกิ่งไม้หรือของมีคมทิ่ม
ทั้งนี้ ในเช้าวันนี้ (5 ต.ค.) ชาวบ้านน้ำทบจะได้นิมนต์พระภิกษุมาสวดทำบุญให้ช้างที่ตายดังกล่าว