ชุมพร-แก๊งค้ายาไอซ์ใช้ช่วงสถานการณ์น้ำท่วม ลักลอบขนยาไอซ์จากเมืองหลวงส่งลูกค้าภาคใต้ แต่ไม่รอดถูก ตำรวจชุด ปส.ชุมพร รวบได้พร้อมของกลาง 2 กก. มูลค่ากว่า 7 ล้านบาท
ที่ห้องประชุมกองกำกับการตำรวจภูธรจังหวัดชุมพร พ.ต.อ.นรินทร์ บุษยวิทย์ รอง ผบก.จว.ชุมพร พร้อมด้วย พ.ต.ท.พิทยา สองเมือง สว.กก.2บก.ปส.4 ชุมพร พ.ต.ท.สุทัศน์พงษ์ อัมพวัน ผบ.ร้อย ตชด.414 ชุมพร ค่ายอาภากรเกียรติวงศ์ นำตัวผู้ต้องหาค้ายาเสพติดมาแถลงผลการจับกุม
ประกอบด้วย นายภูกิจ ปัทพี อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 158 ม. 9 ต. ธงชัย อ.เมือง จ.เพชรบุรี นายกิตติพันธ์ สุขสวัสดิ์ อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1/3 ม.3 ต.ทุ่งกง อ.กาญจนดิษฐ์ จงสุราษฎร์ธานี และนางสาวนาถยา ก้องกังวาลย์ อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 14/1ซ.14 ต.ท่าเกษม อ.เมือง จ.สระแก้ว พร้อมด้วยของกลางยาไอซ์ จำนวน 2 กก.มูลค่ากว่า 7 ล้านบาท สมุดบัญชีธนาคาร จำนวน 3 เล่ม บัตรเอทีเอ็ม 6 ใบ และโทรศัพท์มือถือ อีกจำนวน 5 เครื่อง
พ.ต.อ.นรินทร์ บุษยวิทย์ รอง ผบก.จว.ชุมพร เปิดเผยว่า การจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมด ทั้งนี้สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุด กก.2บก.ปส.4 ชุมพร สืบทราบว่าจะมีขบวนการค้ายาเสพติดจะลักลอบขนยาไอซ์มาจากกรุงเทพฯ นำไปส่งให้ลูกค้าในจังหวัดชุมพร และจังหวัดสุราษฎร์ธานี จึงได้สั่งการให้สนธิกำลังระหว่างตำรวจ ปส.และ ตชด.ตั้งด่านตรวจสกัดบริเวณด่านตรวจยาเสพติด ประตูภาคใต้ ริมถนนสายเพชรเกษมขาล่อง ระหว่างหลัก กม.466-467 หมู่ 3 ต.สลุย อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร
กระทั่งพบรถยนต์โตโยต้า รุ่นสปอร์ตไรเดอร์ สีบรอนซ์ทอง หมายเลขทะเบียน กค 4207 เพชรบุรี ท่าทางมีพิรุธ จึงเรียกให้จอดเพื่อขอตรวจค้น ทราบคนขับชื่อ นายภูกิจ ปัทพี มีนายกิตติพันธ์ สุขสวัสดิ์ นั่งมาเบาะข้างคนขับ และ น.ส.นาถยา ก้องกังวาลย์ นั่งมาเบาะหลัง
จากการตรวจค้นเจ้าหน้าที่ตำรวจพบถุงพลาสติกแบบหูหิ้วสีเหลือง ตั้งอยู่บนพื้นรถบริเวณเท้าของนางสาวนาถยา จึงได้เปิดดูพบเป็นห่อชาจีนตราห้าดาว จำนวน 2 ก้อน เมื่อผ่าดูพบภายในเป็นยาไอซ์ห่อทับด้วยกระดาษฟอยล์กันชื้นอย่างดี น้ำหนักรวม 2 กก. มูลค่ากว่า 7 ล้านบาท จึงได้ทำการจับกุมตัวทั้ง 3 คนพร้อมของกลางไปสอบสวนขยายผล
จากการสอบปากคำ นายกิตติพันธ์ และ น.ส.นาถยา ให้การรับสารภาพว่าได้มีใบสั่งจากผู้ต้องขังรายหนึ่งในเรืองจำจังหวัดนครศรีธรรมราช ให้เดินทางไปรับยาไอซ์ ตามจุดนัดหมายแห่งหนึ่งในพื้นที่กรุงเทพฯ แล้วนำมาส่งให้กับลูกค้าในจังหวัดชุมพร และจังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยจะได้รับค่าจ้างคนละ 1 แสนบาท ตนเองเห็นว่าเงินดีและเป็นช่วงที่เกิดเหตุการณ์น้ำท่วม เจ้าหน้าที่น้อยเพราะต้องไปช่วยเหลือผู้ประสบภัย จึงรับงานและได้นั่งเครื่องบินจากจังหวัดสุราษฎร์ธานีไปลงที่สนามบินสุวรรณภูมิ ก่อนนั่งรถแท็กซี่ไปที่บริเวณถนนพระราม 2 เพื่อไปรับของที่เครือข่ายยาเสพติดได้นำมาวางไว้ให้ในตลาดนัดเปิดท้าย
หลังจากที่รับของซึ่งเป็นยาไอซ์แล้ว จึงไปขึ้นรถทัวร์สายกรุงเทพฯ-ภูเก็ต ซึ่งจอดอยู่โรงเบียร์ฮอลแลนด์ ซึ่งเป็นที่จอดรถสายใต้ชั่วคราวช่วงเกิดน้ำท่วม แต่พอนั่งรถทัวร์มาได้ระยะหนึ่งเปลี่ยนแผนลงจากรถทัวร์แวะไปหานายภูกิจ ปัทพี ซึ่งเป็นเพื่อนกันอยู่จังหวัดเพชรบุรี ให้ช่วยขับรถยนต์ไปส่งตนเองและนางสาวนาถยาที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี และจะได้แวะส่งยาไอซ์ให้กับลูกค้าที่จังหวัดชุมพรด้วย แต่ก็มาถูกจับกุมเสียก่อน เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อกฎหมายต่อไป