ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - สกว.จัดสัมมนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นจากโครงการสร้างเขื่อนนาปรัง-โครงการระบบระบายน้ำปลักปลิง ซึ่งกรมชลประทานยันเพื่อแก้ปัญหาอุทกภัยระหว่าง อ.นาทวี-จะนะ ขณะที่ชาวบ้านไม่ปักใจเชื่อ หวั่นเป็นการเตรียมรับมือโครงการแลนด์บริดจ์และนิคมอุตสาหกรรม
เมื่อวันที่ 25 ต.ค. ที่ ห้องประชุมเทศบาลตำบลนาทวี อำเภอนาทวี จังหวัดสงขลา สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย จัดสัมมนาเรียนรู้งานพัฒนาโครงการระบบระบายน้ำปลักปลิง อำเภอจะนะ และผลกระทบจากการขุดลอกคลอง แนวทางการแก้ไขปัญหาของคนอำเภอนาทวีและอำเภอจะนะ เพื่อแลกเปลี่ยนและเสนอแนวคิดต่อการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมอำเภอนาทวีและอำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา มีส่วนราชการผู้นำส่วนท้องถิ่น และชาวบ้านเข้าร่วมประมาณ 50 คน
นางสุไรดะห์ โต๊ะหลี จากมหาวิทยาลัยชาวบ้านลานหอยเสียบ อำเภอจะนะ กล่าวต่อที่สัมมนาว่า ตนคิดว่าโครงการระบบระบายน้ำปลักปลิง อำเภอจะนะ และอ่างเก็บน้ำนาปรัง อำเภอนาทวี น่าจะไม่ใช่โครงการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม แต่เป็นโครงการรองรับแผนพัฒนาแลนด์บริดจ์สงขลา-สตูล และนิคมอุตสาหกรรมที่จะเกิดขึ้นมากกว่า เพราะฉะนั้นสิ่งที่จะต้องพิจารณาคือ โครงการนี้จะแก้ปัญหาหรือสร้างปัญหา
ในขณะที่นายสถาพร โรจนะ รักษาการผู้อำนวยการสำนักงานก่อสร้างที่ 11 สำนักโครงการขนาดใหญ่ กรมชลประทาน กล่าวว่า โครงการระบบระบายน้ำปลักปลิง อำเภอจะนะ เป็นโครงการระบายน้ำลงสู่ทะเล เพื่อป้องกันน้ำท่วม จากปริมาณน้ำฝนที่เพิ่มขึ้นจากในอดีต หากไม่มีการขุดลอกคลองจะทำให้น้ำท่วม เพราะไม่มีที่ระบาย
“โครงการระบบระบายน้ำปลักปลิง อำเภอจะนะ ไม่ได้เป็นเขื่อนผลิตกระแสไฟฟ้า หรือตอบสนองโรงแยกก๊าซธรรมชาติของบริษัท ทรานส์ไทย มาเลเซีย จำกัด อย่าพยายามตั้งโจทย์ว่าโครงการนี้ต้องการสนองตอบนิคมอุตสาหกรรม และโครงการแลนด์บริดจ์สงขลา-สตูล” นายสถาพร กล่าว
นายกิตติภพ สุทธิสว่าง ผู้ประสานงานเครือข่ายฅนรักษ์จะนะ จังหวัดสงขลา กล่าวว่า การแก้ไขปัญหาน้ำท่วมต้องมีมิติที่หลากหลาย บรรดาสัตว์น้ำและระบบนิเวศริมคลอง จะต้องเหมือนเดิม ต้องคำนึงถึงความมั่นคงทางอาหารบริเวณริมคลอง หรือจะให้คลองเป็นแค่ทางผ่านน้ำเท่านั้น ทางรอดในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมและเรื่องการระบายน้ำคือ ต้องศึกษาวิจัยชุมชนโดยใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่น
“อย่าคิดแค่ต้องการสร้างทางระบายน้ำ แต่ต้องมองไปถึงเรื่องที่มีการถมพื้นที่แก้มลิงรองรับน้ำ โดยองค์การบริหารส่วนตำบล จะต้องออกข้อบัญญัติท้องถิ่นในเรื่องนี้ ทุกฝ่ายต้องมาหารือกัน เพื่อให้ทุกภาคส่วนอยู่ร่วมกันได้ สิ่งที่คนในอำเภอจะนะมีความกังวลมากที่สุดในขณะนี้คือ การสร้างเขื่อนนาปรัง ที่จะสูญเสียพื้นที่ป่าบนอุทยานแห่งชาติเขาน้ำค้าง 1-2 หมื่นไร่ ทำไมเราไม่ช่วยกันรักษาป่าเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วม” นายกิตติภพกล่าว