ยะลา - นายกเทศมนตรีเทศบาลนครยะลา เดินทางตรวจความพร้อมของประตูระบายน้ำ เพื่อใช้งานหากปริมาณน้ำฝนตกลงมามาก และช่วยให้น้ำไม่ท่วมเขตเมืองยะลา
นายพงษ์ศักดิ์ ยิ่งชนม์เจริญ นายกเทศมนตรีเทศบาลนครยะลา นำคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ฝ่ายช่างเทศบาลนครยะลา ไปตรวจความพร้อมของประตูระบายน้ำ ทั้ง 4 มุมเมือง เพื่อเตรียมผันน้ำออกจากเขตเทศบาล หากมีปริมาณน้ำฝนตกลงมาเกินขนาดและอาจท่วมขังในเขตเมืองได้ โดยเน้นการระบายน้ำที่มาจากตำบลรอบนอกผันลงสู่แม่น้ำปัตตานี และสายบุรีได้สะดวกรวดเร็ว เพื่อป้องกันน้ำจะทะลักเข้ามาท่วมในเขตเทศบาล ซึ่งได้ให้กองช่างและขอความร่วมมือ ฝ่ายช่าง อบจ.ยะลา ส่งเครื่องจักร ไปขุดลอกคลองส่งน้ำที่บ้านจารูที่เป็นสายทางน้ำหลักที่จะผันลงสู่แม่น้ำปัตตานี และคลองส่งน้ำบ้านสวนส้ม ที่จะผันน้ำลงเข้าเขต อ.รามัน เพื่อลงสู่แม่น้ำสายบุรี
นายพงษ์ศักดิ์ ยิ่งชนม์เจริญ นายกเทศมนตรีเทศบาลนครยะลา กล่าวว่า ในห้วงตั้งแต่เดือน พฤศจิกายน ถึงเดือน ธันวาคม ของทุกปี จะมีฝนตกลงมาอย่างหนักและมีปริมาณน้ำ ที่มาจากเขื่อนบางลาง และน้ำป่าจากพื้นที่ อ.เบตง จ.ยะลา และ อ.สุคิริน อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส ไหลลงมาสู่แม่น้ำปัตตานี ผ่านเทศบาลนครยะลาเป็นจำนวนมาก อาจเกิดท่วมขังได้ หากมีการระบายลงสู่คลองชลประมานที่ อ.เมืองยะลา มีปัญหาของช่องทางน้ำ
ดังนั้น ตนเอง ได้ประสานการปฏิบัติร่วมกับ ชลประทานปัตตานี และเขื่อนบางลาง อย่างใกล้ชิด โดยให้ชลประทานบริหารจัดการการระบายน้ำให้เกิดความคล่องตัว ในขณะที่เขื่อนบางลาง ต้องบริหารจัดการในการปล่อยน้ำจากเขื่อนให้มีความพอดีกับการระบายน้ำของปลายน้ำ ส่วนการจัดเตรียมการระบายน้ำออกกจากตัวเมืองยะลานั้น ตนได้จัดเตเรียมความพร้อมของประตูระบายน้ำ A B C และ D ที่ต้องผันน้ำไปสู่คลองชลประทาน ให้อยู่ในสภาพที่พร้อมที่จะเปิดปิดได้ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมกับขุดลอกคลองส่งน้ำธรรมชาติ ที่มีอยู่ไม่ให้มีสิ่งขีดขวางทางน้ำ
จึงมั่นใจว่า หากเกิดฝนตกลงมากและมีปริมาณน้ำฝนมากเกินขนาด ทางเทศบาลนครยะลา จะสามารถบริหารจัดการระบายน้ำลงสู่แม่น้ำปัตตานีและแม่น้ำสายบุรี เพื่อไปสู่ทะเล ได้อย่างรวดเร็ว จึงมั่นใจว่าจะสามารถป้องกันน้ำท่วมในเขเตเทศบาลนครยะลาได้แน่นอน
นายพงษ์ศักดิ์ ยิ่งชนม์เจริญ นายกเทศมนตรีเทศบาลนครยะลา นำคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ฝ่ายช่างเทศบาลนครยะลา ไปตรวจความพร้อมของประตูระบายน้ำ ทั้ง 4 มุมเมือง เพื่อเตรียมผันน้ำออกจากเขตเทศบาล หากมีปริมาณน้ำฝนตกลงมาเกินขนาดและอาจท่วมขังในเขตเมืองได้ โดยเน้นการระบายน้ำที่มาจากตำบลรอบนอกผันลงสู่แม่น้ำปัตตานี และสายบุรีได้สะดวกรวดเร็ว เพื่อป้องกันน้ำจะทะลักเข้ามาท่วมในเขตเทศบาล ซึ่งได้ให้กองช่างและขอความร่วมมือ ฝ่ายช่าง อบจ.ยะลา ส่งเครื่องจักร ไปขุดลอกคลองส่งน้ำที่บ้านจารูที่เป็นสายทางน้ำหลักที่จะผันลงสู่แม่น้ำปัตตานี และคลองส่งน้ำบ้านสวนส้ม ที่จะผันน้ำลงเข้าเขต อ.รามัน เพื่อลงสู่แม่น้ำสายบุรี
นายพงษ์ศักดิ์ ยิ่งชนม์เจริญ นายกเทศมนตรีเทศบาลนครยะลา กล่าวว่า ในห้วงตั้งแต่เดือน พฤศจิกายน ถึงเดือน ธันวาคม ของทุกปี จะมีฝนตกลงมาอย่างหนักและมีปริมาณน้ำ ที่มาจากเขื่อนบางลาง และน้ำป่าจากพื้นที่ อ.เบตง จ.ยะลา และ อ.สุคิริน อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส ไหลลงมาสู่แม่น้ำปัตตานี ผ่านเทศบาลนครยะลาเป็นจำนวนมาก อาจเกิดท่วมขังได้ หากมีการระบายลงสู่คลองชลประมานที่ อ.เมืองยะลา มีปัญหาของช่องทางน้ำ
ดังนั้น ตนเอง ได้ประสานการปฏิบัติร่วมกับ ชลประทานปัตตานี และเขื่อนบางลาง อย่างใกล้ชิด โดยให้ชลประทานบริหารจัดการการระบายน้ำให้เกิดความคล่องตัว ในขณะที่เขื่อนบางลาง ต้องบริหารจัดการในการปล่อยน้ำจากเขื่อนให้มีความพอดีกับการระบายน้ำของปลายน้ำ ส่วนการจัดเตรียมการระบายน้ำออกกจากตัวเมืองยะลานั้น ตนได้จัดเตเรียมความพร้อมของประตูระบายน้ำ A B C และ D ที่ต้องผันน้ำไปสู่คลองชลประทาน ให้อยู่ในสภาพที่พร้อมที่จะเปิดปิดได้ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมกับขุดลอกคลองส่งน้ำธรรมชาติ ที่มีอยู่ไม่ให้มีสิ่งขีดขวางทางน้ำ
จึงมั่นใจว่า หากเกิดฝนตกลงมากและมีปริมาณน้ำฝนมากเกินขนาด ทางเทศบาลนครยะลา จะสามารถบริหารจัดการระบายน้ำลงสู่แม่น้ำปัตตานีและแม่น้ำสายบุรี เพื่อไปสู่ทะเล ได้อย่างรวดเร็ว จึงมั่นใจว่าจะสามารถป้องกันน้ำท่วมในเขเตเทศบาลนครยะลาได้แน่นอน