ศูนย์ข่าวศรีราชา - อีสท์ วอเตอร์ ร่วมกับจังหวัดฉะเชิงเทรา เร่งสูบน้ำจากแม่น้ำบางปะกง บริเวณอำเภอคลองเขื่อน ผ่านท่อส่งน้ำบริษัท ระบายออกไปยังปากแม่น้ำบางปะกงลงสู่ทะเล เพื่อช่วยลดปริมาณน้ำจากแม่น้ำบางปะกงที่จะไหลเข้าสู่เมืองฉะเชิงเทรา
นายประพันธ์ อัศวอารี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ อีสท์ วอเตอร์ เปิดเผยว่า บริษัทได้ร่วมมือกับหน่วยงานราชการในจังหวัดฉะเชิงเทราเร่งรับมือปริมาณน้ำ ที่จะเอ่อล้นจากแม่น้ำบางปะกงเข้าพื้นที่ โดยจะเดินเครื่องสูบน้ำจากโรงสูบบริเวณ อ.คลองเขื่อน เพื่อช่วยระบายไปยังปากแม่น้ำบางปะกง และทางจังหวัดจะนำเรือระดมผลักน้ำออกสู่ทะเลต่อไป
สำหรับสถานีสูบน้ำของ อีสท์ วอเตอร์ ตั้งอยู่บริเวณ ต.คลองเขื่อน อ.คลองเขื่อน จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งห่างจากบริเวณปากแม่น้ำบางปะกงประมาณ 50 กิโลเมตร โดยบริษัทจะสูบน้ำผ่านท่อส่งน้ำของบริษัทไปยังปากแม่น้ำบางปะกง ซึ่งจะผันน้ำอ้อมพื้นที่บริเวณอำเภอเมืองและช่วยเพิ่มศักยภาพในการระบายน้ำสู่อ่าวไทยได้กว่า 200,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน โดยบริษัทจะเริ่มต้นสูบน้ำตั้งแต่วันที่ 11ตุลาคม 2554 เป็นต้นไป เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับมวลน้ำที่จะไหลมาในอีก 2-3 วันข้างหน้า
ทั้งนี้ ปริมาณน้ำที่จะไหลเข้าท่วมพื้นที่นั้น จะเป็นมวลน้ำจำนวนมากจนทำให้แม่น้ำบางปะกงเอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่รวม 4อำเภอ คือ อ.เมือง อ.คลองเขื่อน อ.บางคล้า และ อ.บางน้ำเปรี้ยว ซึ่งก่อนหน้านี้บริษัทก็ได้ร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ ทำการขุดลอกคลองต่างๆเป็นระยะทางประมาณ 33 กิโลเมตร เพื่อเตรียมรองรับน้ำที่จะไหลมาจากแม่น้ำบางปะกงไว้ก่อนแล้วทางหนึ่ง
นายประพันธ์ อัศวอารี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ อีสท์ วอเตอร์ เปิดเผยว่า บริษัทได้ร่วมมือกับหน่วยงานราชการในจังหวัดฉะเชิงเทราเร่งรับมือปริมาณน้ำ ที่จะเอ่อล้นจากแม่น้ำบางปะกงเข้าพื้นที่ โดยจะเดินเครื่องสูบน้ำจากโรงสูบบริเวณ อ.คลองเขื่อน เพื่อช่วยระบายไปยังปากแม่น้ำบางปะกง และทางจังหวัดจะนำเรือระดมผลักน้ำออกสู่ทะเลต่อไป
สำหรับสถานีสูบน้ำของ อีสท์ วอเตอร์ ตั้งอยู่บริเวณ ต.คลองเขื่อน อ.คลองเขื่อน จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งห่างจากบริเวณปากแม่น้ำบางปะกงประมาณ 50 กิโลเมตร โดยบริษัทจะสูบน้ำผ่านท่อส่งน้ำของบริษัทไปยังปากแม่น้ำบางปะกง ซึ่งจะผันน้ำอ้อมพื้นที่บริเวณอำเภอเมืองและช่วยเพิ่มศักยภาพในการระบายน้ำสู่อ่าวไทยได้กว่า 200,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน โดยบริษัทจะเริ่มต้นสูบน้ำตั้งแต่วันที่ 11ตุลาคม 2554 เป็นต้นไป เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับมวลน้ำที่จะไหลมาในอีก 2-3 วันข้างหน้า
ทั้งนี้ ปริมาณน้ำที่จะไหลเข้าท่วมพื้นที่นั้น จะเป็นมวลน้ำจำนวนมากจนทำให้แม่น้ำบางปะกงเอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่รวม 4อำเภอ คือ อ.เมือง อ.คลองเขื่อน อ.บางคล้า และ อ.บางน้ำเปรี้ยว ซึ่งก่อนหน้านี้บริษัทก็ได้ร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ ทำการขุดลอกคลองต่างๆเป็นระยะทางประมาณ 33 กิโลเมตร เพื่อเตรียมรองรับน้ำที่จะไหลมาจากแม่น้ำบางปะกงไว้ก่อนแล้วทางหนึ่ง
