สตูล - เจ้าหน้าที่ยึดไม้ป่าชายเลน 200 ท่อน คาดเตรียมลักลอบส่งขายให้กับนายทุนในประเทศมาเลเซีย
วันนี้ (11 ต.ค.) นายเอกชัย เถรว่อง หัวหน้าสถานีพัฒนาทรัพยากรป่าชายเลนที่ 34 ตำมะลัง สตูล พร้อมเจ้าหน้าที่ทหารจากกองพันทหารราบที่ 2 กรมทหาราบที่ 5 และเจ้าหน้าที่ ตชด.436 กว่า 10 นาย ได้ร่วมกันตรวจยึดไม้ป่าชายเลน ได้แก่ ไม้ถั่วดำ ไม้ถั่วขาว ไม้โปรง จำนวน 200 ท่อน พร้อมลำเลียงขึ้นจากเรือของผู้ลักลอบตัดไม้ที่จอดทิ้งไว้ หลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจยึดไม้ขนาดความยาว 4 เมตร เส้นรอบวง 30 ซม. ในพื้นที่เขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเลนตอนที่ 5 จ.สตูล เพื่อนำมาตรวจสอบที่บริเวณท่าเรือตำมะลัง อ.เมือง จ.สตูล
สำหรับพฤติการณ์ในการตรวจยึดในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้สนธิกำลังออกตรวจป่าในพื้นที่ ซึ่งสายรายงานว่ามีกลุ่มคนได้พยายามเข้าไปลักลอบตัดไม้ป่าชายเลนจำนวนมาก เมื่อถึงจุดเกิดเหตุบริเวณคลองกำ หมู่ที่ 3 ต.ปูยู อ.เมือง จ.สตูล ซึ่งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าชายเลนตอนที่ 5 จ.สตูล พบเรือ 3 ลำ บรรทุกไม้ไว้เต็มเรือ เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ผู้ลักลอบตัดไม้ทั้งหมดจึงได้ทิ้งไม้ลงคลอง แล้วหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งไว้เพียงเรือพาดหางท้ายตัด สีฟ้า ขนาดยาว 4 เมตร กว้าง 1 เมตร พร้อมตัวเครื่อง และไม้ของกลางดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงตรวจยึดดำเนินคดีต่อไป
จากการตรวจค้นเพิ่มเติม พบใบผ่านแดนของนายสิเดะ เต๊ะปูยู อายุ 42 ปี บ้านเลขที่ 41 ม.2 ต.ปูยู อ.เมือง จ.สตูล ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นของผู้ต้องหา โดยจะทำการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง
สำหรับไม้ของกลางดังกล่าวนี้ เจ้าหน้าที่คาดว่าคนร้ายตัดเพื่อเตรียมส่งขายเป็นไม้ค้ำยัน และเป็นเสาเข็ม ให้กับชาวมาเลเซีย ในราคาต้นละ 80 บาท แต่หากส่งขายในไทยจะมีราคาเพียง ต้นละ 30 บาท โดยลักษณะของผู้ที่ลักลอบตัดไม้นี้ มักเข้าไปตัดในช่วงกลางวัน และลำเลียงออกในเวลากลางคืน