xs
xsm
sm
md
lg

ม้าเหล็กนครศรีฯ-กทม.ตกรางพังยับ โชคดีไม่มีผู้เสียชีวิต

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


นครศรีธรรมราช - ม้าเหล็กขบวนด่วนนครศรีฯ-กทม. ตกรางพังยับ หวิดเกิดโศกนาฏกรรมโชคดีเบรคขบวนรถทัน ผู้โดยสารนับร้อยเคว้ง จนท.เร่งกู้ 9 โบกี้ เผยต้องใช้เวลา 2-3 วันซ่อมรางเนื่องจากเสียหายมาก


วันนี้ (6 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.นครศรีธรรมราช ว่า เมื่อเวลา เมื่อเวลา 15.30 น. ร.ต.ท.มนตรี ปานอ่าน พนักบงานสอบสวนเวร สภ.พระพรหม จ.นครศรีธรรมราช ได้รับวิทยุด่วนขอความช่วยเหลือจากอุบัติเหตุรถไฟตกราง ในท้องที่บ้านท่าช้าง ม.3 ต.ช้างซ้าย อ.พระพรหม มีผู้โดยสารจำนวนมากตกค้าง ขณะที่โบกี้ขบวนรถไฟตกรางได้รับความเสียหายอย่างหนัก หลังจากนั้นจึงรายงานให้ พล.ต.ต.กระจ่าง สุวรรณรัตน์ ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช ทราบอย่างเร่งด่วน แล้วจึงพร้อมด้วยหน่วยกู้ภัย เจ้าหน้าที่การรถไฟและเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องให้การช่วยเหลือ

ในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่พบผู้โดยสารอยู่ในอาการตื่นตระหนก ต่างพากันขนสัมภาระออกจากโบกี้โดยสารนับร้อยคน ส่วนขบวนรถดังกล่าวนั้นเป็นขบวนรถด่วนที่ 86 ต้นทางนครศรีธรรมราช ปลายทาง หัวลำโพง กทม. เพิ่งออกจาก สถานีต้นทางได้เพียงไม่ถึง 45 นาที ก่อนมาประสบอุบัติดังกล่าว

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตรวจสอบหัวรถจักร พบว่าเป็นหมายเลข 4525 ลากโบกี้โดยสารมาจำนวน 13 โบกี้ ตกรางนับตั้งแต่โบกี้ที่ 5 ไปจนสุดขบวนรวม 9 โบกี้ สภาพตะแคงด้านขวา รางเหล็กฉีกออกเป็นระยะทางกว่า 100 เมตร ไม้หมอนแตกกระจายกลายเป็นเศษไม้ ระบบล้อและช่วงล่างของโบกี้พังเสียหายยับเยิน บางช่วงรางเหล็กได้ดีดตัวออกโค้งงออย่างน่าหวาดเสียว ในขณะที่โบกี้ที่ 11 ตะแคงเกือบพลิกคว่ำกับพื้นดิน แต่เดชะบุญที่ขบวนรถหยุดได้ก่อน ไม่เช่นนั้นอาจเกิดโศกนาฏกรรมมีผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวนมากอย่างแน่นอน

นายจักกฤษณ์ สุวรรณพงศ์ อายุ 16 ปี อยู่ 27 ม.12 ต.คลองน้อย อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ผู้โดยในขบวนรถที่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุนั้นได้ยินเสียงเบรกขบวนรถกระตุก 2-3 ครั้ง จากนั้นได้ยินเสียงครูดพร้อมกับฝุ่นคละคลุ้ง ขบวนรถสะบัดอย่างรุนแรง จากนั้นขบวนรถตะแคงก่อนที่จะหยุดนิ่งท่ามกลางฝุ่นหนาในที่สุด จากนั้นผู้โดยสารต่างรีบออกจากตัวโบกี้โดยสารอย่างทุลักทุเลเนื่องจารกเกรงว่าขบวนรถจะพลิกเอนลงไปเรื่อยๆ

ด้าน นายสไลเดช แสงพยัคฆ์ นายสถานีรถไฟนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า ผู้โดยสารที่โดยสารขบวนรถออกไปจากสถานีต้นทางมีประมาณ 200 กว่าคน ส่วนการให้การช่วยเหลือผู้โดยสารเบื้องต้นนั้น ได้จัดให้ผู้โดยสารที่ประสงค์จะดินทางต่อไปยัง กทม.ขึ้นขบวนรถที่ยังใช้การได้ 4 โบกี้ตอนหน้า แล้วใช้รถจักรลากไปยังชุมทางทุ่งสง ก่อนที่จะโดยสารรถบัสต่อไปยัง กทม. ในขณะที่ผู้โดยสารที่ไม่ประสงค์จะเดินทางต่อนั้นสามารถขอคืนเงินได้เต็มราคาทันที หรือถ้าไม่สะดวกอีก 2-3 วันก็ได้

“สำหรับการกู้โบกี้ที่ประสบอุบัติเหตุตกรางจำนวน 9 โบกี้ และการซ่อมบำรุงทางให้สามารถเดินรถได้อาจต้องใช้เวลา 2-3 วันเป็นอย่างน้อย เนื่องจากระยะทางเสียหายไปกว่า 200 เมตร ส่วนขบวนรถที่ผ่านเส้นทางนี้ทุกขบวนจำเป็นต้องงดเดินรถโดยเด็ดขาดจนกว่าเจ้าหน้าที่สามารถเก็บกู้ได้ ส่วนมูลค่าความเสียหายนั้นยังไม่สามารถประเมินได้” นายสไลเดชกล่าว





กำลังโหลดความคิดเห็น