นราธิวาส - เผยผู้ใหญ่และชาวบ้านในพื้นที่เกิดเหตุบึ้มเส้งทางรถไฟที่ จ.นราธิวาส พบเห็นชายฉกรรจ์ 5-6 คน แยกออกเป็น 2 กลุ่ม เดินผ่านหมู่บ้านโดยที่ไม่มีใครเอะใจ ก่อนจะได้ยินเสียงระเบิดดั่งสนั่นหวั่นไหวถึง 2 ครั้ง ล่อคณะเจ้าหน้าที่เดินเท้ากว่า 2 กม.เข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ โชคดีพบระเบิดกับดักอีก 2 ลูกใช้ปืนแรงดันพลังน้ำยิงทำลายได้สำเร็จ
ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.นราธิวาส เพิ่มเติมกรณีโจรใต้ลอบวางระเบิดรางรถไฟนพื้นที่ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส เมื่อช่วงเช้า (27 ก.ค.) ที่ผ่านมาว่า คนร้ายได้ลอบวางระเบิดรางรถไฟ 2 จุด ระหว่างสถานีรถไฟสะโลตราแดะ กับสถานีรถไฟมะรือโบตก ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 1092 ม.6 ต.เฉลิม อ.ระแงะ โดยขณะเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปตรวจสอบในพื้นที่ต้องจอดรถยนต์ไว้ภายในหมู่บ้าน และเดินเท้าไปตามรางรถไฟไกลถึง 2 กม. จึงถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นป่ารกทึบ 2 ข้างทาง
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบรางรถไฟถูกอนุภาพของระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายประกอบใส่ไว้ในกล่องเหล็ก หนัก 5 กก. จุดชนวนด้วยแบตเตอรี่ที่มีการลากสายไฟยาวเข้าไปในป่า จนฉีดขาดยาว 1 ฟุต รถไฟไม่สามารถที่จะแล่นผ่านได้ และเมื่อตรวจสอบพื้นที่โดยรอบเจ้าหน้าที่พบระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายประกอบใส่ไว้ในท่อพีวีซีหนัก 1 กก. อีก 1 ลูกถูกฝังไว้ใต้ผิวถนนดินแดง ซึ่งห่างจากหลุมระเบิดประมาณ 3 เมตร โดยคนร้ายฝังไว้เพื่อดักสังหารเจ้าหน้าที่ขณะเข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุ แต่เจ้าหน้าที่จึงได้ใช้ปืนแรงดันพลังน้ำยิงทำลายไปได้
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้เดินทางไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุที่ 2 ซึ่งห่างจากจุดแรกประมาณ 200 เมตร พบรางรถไฟด้านซ้ายมือ พบว่าถูกอานุภาพระเบิดแสวงเครื่องชนิดและขนาดเดียวกันจนฉีกขาดยาวประมาณ 1 ฟุต โดยมีเศษซากชิ้นส่วนของระเบิดแสวงเครื่องตกกระจายเกลื่อนพื้นที่
ในระหว่างที่ ร.ต.ต.พลวัฒน์ เทพษร รอง หน.ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิดและพวก กำลังเก็บรวบรวมหลักฐานในที่เกิดเหตุอยู่นั้น ได้พบระเบิดแสวงเครื่องแบบเท้าเหยียบอีก 1 ลูก ซึ่งคนร้ายได้ฝังไว้เพื่อจุดชนวนระเบิดดักสังหารเจ้าหน้าที่เหมือนกับจุดแรก ซึ่งเป็นชนิดและขนาดเดียวกันวางอยู่ที่แนวหินรองฐานรางรถไฟห่างจากจุดระเบิดประมาณ 1 เมตร ซึ่งก็ได้ใช้ปืนแรงดันพลังน้ำยิงทำลายไปได้เช่นกัน
จากการสอบสวนนายอาดือมัน อับดุลรอมัน ผู้ใหญ่บ้านสะโลตราแดะ ซึ่งเป็นผู้ที่แจ้งไปยัง สภ.ระแงะทราบว่า ในช่วงใกล้รุ่งชาวบ้านพบเห็นชายฉกรรจ์จำนวน 5-6 คน ได้แยกออกเป็น 2 กลุ่ม เดินผ่านหมู่บ้านโดยที่ไม่มีใครเอะใจ จนกระทั่งเวลาประมาณ 05.00 น.ของวันนี้ (27) ได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้นสนั่นหวั่นไหวจำนวน 2 ครั้งซ้อน กระทั่งสว่างชาวบ้านจึงได้ชวนกันเดินไปตรวจสอบที่มาของเสี่ยงดังกล่าว และเมื่อพบต้นเหตุจึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบดังกล่าว
จากเหตุร้ายที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ส่งผลทำให้รถไฟจำนวน 14 ขบวนที่วิ่งขึ้น-ล่องจากสถานีต้นทางสุไหงโก-ลก จดปลายทางสถานีรถไฟต่างๆ ต้องหยุดวิ่งไปโดยปริยาย และคาดว่าเจ้าหน้าที่การรถไฟฯ ต้องใช้เวลาระยะหนึ่งในการซ่อมบำรุง ซึ่งสร้างความเดือดร้อนต่อประชาชนผู้ใช้รถไฟในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นอย่างมาก
