ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - เครือข่ายพิทักษ์สิทธิชุมชนเขาคูหา ยื่นหนังสือเร่งรัดให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาเปิดประชุมผู้ได้รับผลกระทบ จากกรณีการทำเหมืองหินเขาคูหา อ.รัตภูมิ ที่ทำให้บ้านเรือนแตกร้าว 326 เพื่อรับทราบสถานการณ์จริงจากพื้นที่ และรายงานผลการดำเนินการแก้ไขปัญหาของคณะกรรมการ
วันนี้ (3 ต.ค.) นายเอกชัย อิสระทะ ผู้ประสานงานเครือข่ายพิทักษ์สิทธิชุมชนเขาคูหา อ.รัตภูมิ จ.สงขลา ได้ยื่นหนังสือถึง นายวิญญู ทองสกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เพื่อขอเร่งรัดการแก้ไขปัญหาบ้านเรือนแตกร้าว จากการทำเหมืองหินเขาคูหา อ.รัตภูมิ จ.สงขลา โดยอ้างถึงหนังสือที่ คสค. 01/2554 ถึงผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา วันที่ 5 มกราคม 2554 ขอทราบความคืบหน้า การแก้ไขปัญหาบ้านเรือนฯภายหลังจากที่ศาลแขวงสงขลา มีคำพิพากษาคดีหมายเลขแดงที่ 313/2554 กรณีนางเรณู แสงสุวรรณและพวกฟ้องแพ่งต่อ บริษัท พีรพล มายนิ่ง จำกัด เรื่อง บ้านเรือนแตกร้าวเสียหาย
สืบเนื่องจากเครือข่ายพิทักษ์สิทธิชุมชนเขาคูหา อ.รัตภูมิ จ.สงขลา ได้ร้องเรียนให้มีการแก้ไขปัญหา และคัดค้านการต่ออายุประทานบัตรการทำเหมืองหินเขาคูหา ล่าสุดทางเครือข่ายฯได้ขอเข้าพบผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2554 เพื่อรายงานสถานการณ์ การแก้ไขปัญหาเขาคูหา โดยเฉพาะกรณีบ้านเรือนแตกร้าว 326 หลัง ชาวบ้านเชื่อมั่นในระบบราชการที่จะช่วยแก้ไขปัญหา แต่เมื่อได้เรียนรู้เรื่องอายุความของการดำเนินคดี มีระยะเวลาอายุความ 1 ปี จึงมีการใช้สิทธิในกระบวนการยุติธรรม 6 คน แยกฟ้องศาลจังหวัด 2 ราย และฟ้องศาลแขวง 6 ราย (มีการถอนฟ้อง 2 ราย) ซึ่งในศาลแขวง ชั้นต้นได้มีคำพิพากษา ในคดีหมายเลขแดงที่ 313/2554
ทั้งนี้ ในกรณีปัญหาบ้านเรือนแตกร้าวอีก 320 หลังคาเรือนในส่วนที่เหลือ ยังรอกระบวนการแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ จากระบบราชการอยู่ เครือข่ายฯ จึงขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดช่วยเร่งรัดดำเนินการแก้ไขปัญหาโดยมีข้อเสนอให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม ดูบ้านเรือนราษฎรที่แตกร้าว และเปิดประชุมผู้ได้รับผลกระทบ จากกรณีการทำเหมืองหินเขาคูหา โดยเฉพาะบ้านเรือนแตกร้าว 326 หลังคาเรือน ที่อำเภอรัตภูมิ เพื่อรับทราบสถานการณ์จริงจากพื้นที่ และรายงานผลการดำเนินการแก้ไขปัญหาของคณะกรรมการแก้ไขปัญหา ที่ผู้ว่าฯ แต่งตั้งโดยมีรองผู้ว่าฯ เป็นประธาน (เมืี้่่อมกราคม 2554 ) รวมถึงรับฟังข้อเสนอแนะจากประชาชนในการแก้ไขปัญหา และหวังว่าผู้ว่าราชการจังหวัดจะได้จัดสรรเวลา และให้ความสำคัญในการแก้ปัญหาที่เรื้อรังนี้มาหลายปี
วันนี้ (3 ต.ค.) นายเอกชัย อิสระทะ ผู้ประสานงานเครือข่ายพิทักษ์สิทธิชุมชนเขาคูหา อ.รัตภูมิ จ.สงขลา ได้ยื่นหนังสือถึง นายวิญญู ทองสกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เพื่อขอเร่งรัดการแก้ไขปัญหาบ้านเรือนแตกร้าว จากการทำเหมืองหินเขาคูหา อ.รัตภูมิ จ.สงขลา โดยอ้างถึงหนังสือที่ คสค. 01/2554 ถึงผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา วันที่ 5 มกราคม 2554 ขอทราบความคืบหน้า การแก้ไขปัญหาบ้านเรือนฯภายหลังจากที่ศาลแขวงสงขลา มีคำพิพากษาคดีหมายเลขแดงที่ 313/2554 กรณีนางเรณู แสงสุวรรณและพวกฟ้องแพ่งต่อ บริษัท พีรพล มายนิ่ง จำกัด เรื่อง บ้านเรือนแตกร้าวเสียหาย
สืบเนื่องจากเครือข่ายพิทักษ์สิทธิชุมชนเขาคูหา อ.รัตภูมิ จ.สงขลา ได้ร้องเรียนให้มีการแก้ไขปัญหา และคัดค้านการต่ออายุประทานบัตรการทำเหมืองหินเขาคูหา ล่าสุดทางเครือข่ายฯได้ขอเข้าพบผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2554 เพื่อรายงานสถานการณ์ การแก้ไขปัญหาเขาคูหา โดยเฉพาะกรณีบ้านเรือนแตกร้าว 326 หลัง ชาวบ้านเชื่อมั่นในระบบราชการที่จะช่วยแก้ไขปัญหา แต่เมื่อได้เรียนรู้เรื่องอายุความของการดำเนินคดี มีระยะเวลาอายุความ 1 ปี จึงมีการใช้สิทธิในกระบวนการยุติธรรม 6 คน แยกฟ้องศาลจังหวัด 2 ราย และฟ้องศาลแขวง 6 ราย (มีการถอนฟ้อง 2 ราย) ซึ่งในศาลแขวง ชั้นต้นได้มีคำพิพากษา ในคดีหมายเลขแดงที่ 313/2554
ทั้งนี้ ในกรณีปัญหาบ้านเรือนแตกร้าวอีก 320 หลังคาเรือนในส่วนที่เหลือ ยังรอกระบวนการแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ จากระบบราชการอยู่ เครือข่ายฯ จึงขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดช่วยเร่งรัดดำเนินการแก้ไขปัญหาโดยมีข้อเสนอให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม ดูบ้านเรือนราษฎรที่แตกร้าว และเปิดประชุมผู้ได้รับผลกระทบ จากกรณีการทำเหมืองหินเขาคูหา โดยเฉพาะบ้านเรือนแตกร้าว 326 หลังคาเรือน ที่อำเภอรัตภูมิ เพื่อรับทราบสถานการณ์จริงจากพื้นที่ และรายงานผลการดำเนินการแก้ไขปัญหาของคณะกรรมการแก้ไขปัญหา ที่ผู้ว่าฯ แต่งตั้งโดยมีรองผู้ว่าฯ เป็นประธาน (เมืี้่่อมกราคม 2554 ) รวมถึงรับฟังข้อเสนอแนะจากประชาชนในการแก้ไขปัญหา และหวังว่าผู้ว่าราชการจังหวัดจะได้จัดสรรเวลา และให้ความสำคัญในการแก้ปัญหาที่เรื้อรังนี้มาหลายปี