ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ตร.หาดใหญ่รวบ “แก๊งควาย” อ้างตัวเป็นผู้บังคับการดีเอสไอ ยศพลตำรวจตรี ต้มตุ๋นชาวบ้าน
วันนี้ (12 ก.ย.) พ.ต.อ.จิระวัฒน์ พยุงธรรม ผกก.สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ได้รับรายงานจากสายสืบว่า มีแก๊งต้มตุ๋นอ้างตัวว่าเป็นผู้บังคับการดีเอสไอ มานั่งรับประทานข้าวต้มอยู่ที่ร้านข้าวต้ม “ต๋อมโภชนา” ถ.ฉัยยากุล เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ จึงสั่งการให้ พ.ต.ท.กิตติชัย สังขถาวร รอง ผกก.ปป.สภ.หาดใหญ่ และ ร.ต.อ.กิตติพัศ คงศรีทอง พร้อมกำลังตำรวจจำนวนหนึ่งเดินทางเข้าตรวจสอบและจับกุม
เมื่อไปถึงร้านข้าวต้มดังกล่าว พบชายสูงวัยสวมเสื้อยืดคอกลมสีขาว ที่อกมีตราตำรวจ พร้อมสวมเสื้อแขนยาวคล้ายเสื้อสูทสีดำ ระบุดีเอสไอ สวมกางเกงขาสั้น นั่งรับประทานข้าวต้มอยู่ จึงแสดงตัวเข้าตรวจสอบ ทราบชื่อคือ นายวิชยุตม์ พันสำเภา อายุ 57 ปี ที่อยู่ตามบัตรประชาชน เลขที่ 7 ถ.เทศบาล 37 ต.พะตง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
เจ้าหน้าที่ตรวจสอบภายในกระเป๋าพบบัตรประจำตัวข้าราชการจำนวนหนึ่ง ระบุชื่อ พล.ต.ต.วิษณุพงศ์ ภุมรินทร์ สังกัดกรมสอบสวนคดีพิเศษ กระทรวงยุติธรรม ภาพถ่าย นายวิชยุตม์ จำนวนมาก และหลายขนาด ที่แต่งกายด้วยเครื่องแบบตำรวจยศพลตำรวจตรี ทั้งยังมีนามบัตรของตำรวจในพื้นที่ จ.ภูเก็ต อีกด้วย ทั้งนี้ คาดว่า ได้หลอกลวงและขอนามบัตรมาเก็บไว้
นอกจากนี้ ยังตรวจพบอาวุธปืนพกสั้นขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก เหน็บที่เอว พร้อมกระสุนอีก 6 นัด บรรจุอยู่ในลูกโม่กระบอกปืน ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างตรวจสอบว่าเป็นอาวุธปืนเถื่อนหรือมีทะเบียนถูกต้องหรือไม่ รวมถึงยาคุมกำเนิดอีกจำนวนหนึ่ง คาดว่าไว้ให้กับหญิงสาวที่หลอกลวงมารับประทานหลังมีการหลับนอนด้วยกัน และโทรศัพท์มือถืออีกจำนวนหนึ่ง จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวมาสอบปากคำที่งานป้องกันและปราบปราม สภ.หาดใหญ่ (ศูนย์ตำรวจ 191)
จากการสอบสวน นายวิชยุตม์ ให้การรับสารภาพว่า ได้แต่งกายและอ้างตัวเป็นพลตำรวจตรี ตำแหน่งผู้บังคับการดีเอสไอจริง และบ้านเกิดอยู่พื้นที่ อ.สิงหนคร จ.สงขลา โดยเพิ่งจะเดินทางมาจาก จ.ภูเก็ต และพักที่โรงแรมในตัวเมืองหาดใหญ่ ซึ่งจะกลับมาหาครอบครัวและเยี่ยมลูกที่บ้าน แต่เห็นว่าฝนตกเลยตัดสินใจเปิดห้องโรงแรมนอนที่หาดใหญ่แทน และระหว่างที่ออกมานั่งรับประทานข้าวต้มที่ร้านดังกล่าว ก็ถูกตำรวจจับกุมตัวได้
ขณะที่ ร.ต.อ.กิตติพัศ ตำรวจผู้จับกุม เปิดเผยว่า นายวิชยุตม์ มีพฤติการณ์หลอกลวงต้มตุ๋นและอ้างตัวว่าเป็นนายตำรวจยศพลตำรวจตรีสังกัดกรมคดีสอบสวนพิเศษ (ดีเอสไอ) ซึ่งได้สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนที่หลงเชื่อจนสูญเสียทรัพย์สินได้
นอกจากนี้ ในขณะเข้าจับกุม นายวิชยุตม์ ได้พยายามติดสินบนเจ้าหน้าที่ด้วย โดยการนำเงินสดจากกระเป๋าออกมากว่า 1 หมื่นบาท ยื่นให้ตนเอง แต่ตนไม่ยอมรับเงินดังกล่าว เนื่องจากมองว่า นายวิชยุตม์ เป็นบุคคลที่อาจจะไปสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นอีกหลายคนได้อีก เพราะที่ผ่านมา ก็มีเหยื่อหลงเชื่อจำนวนหลายราย และยังได้ประสานไปยังกรมสอบสวนคดีพิเศษแล้วเพื่อให้ช่วยตรวจสอบรายชื่อตามบัตรที่ผู้ต้องหาแอบอ้าง ปรากฏว่า ไม่มีชื่อดังกล่าวในกรมสอบสวนคดีพิเศษ
สำหรับผู้ต้องหารายนี้ ได้แจ้งข้อหามีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาไปในทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร และข้อหาแต่งกายเครื่องแบบตำรวจ ใช้เครื่องหมายยศ ตำแหน่ง และเครื่องราชอิสริยยศ โดยไม่มีสิทธิตามกฎหมาย ป.อาญา มาตรา 146
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังสืบทราบว่า นายวิชยุตม์ เคยถูกจับกุมมาแล้วครั้งหนึ่ง โดยมีพฤติการณ์ต้มตุ๋นในลักษณะคล้ายกันกับคดีนี้ แต่ครั้งนั้นยังไม่ได้แอบอ้างตัวเป็นตำรวจ และแก๊งนี้จะรู้จักกันในาม “แก๊งควาย” หรือพวก 18 มงกุฎ หลังจากสอบสวนปากคำเสร็จ จึงควบคุมตัวส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป