ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ตชด.437 อ.สะเดา สกัดจับกุมขบวนการค้าใบกระท่อมข้ามชาติ ยึดของกลางได้ล๊อตใหญ่รวม 8 กระสอบ หนัก 180 กก.มูลค่ากว่า 1.5 แสนบาท ซ่อนอยู่ในรถเก๋ง พร้อมผู้ต้องหา 2 คน สารภาพหนุ่มมาเลย์จ้างให้นำส่งผู้ค้า จ.สงขลา และ 3 จชต.เพื่อขายปลีกแก่วัยรุ่นเสพ 4X100
วันนี้ (9 ก.ย.) เมื่อเวลา 13.00 น.พ.ต.ท.วีระศักดิ์ พันธุวงศ์ ผบ.ร้อย (สบ2) ร้อย ตชด.437 อ.สะเดา ได้รับแจ้งจากสายลับว่ามีการลักลอบขนใบกระท่อมสดเข้ามาทางชายแดนไทย-มาเลเซีย บริเวณ อ.สะเดา จ.สงขลา จึงสั่งการให้ ร.ต.ท.วสันต์ มาวิเลิศ หัวหน้าชุดปราบปรามยาเสพติด ร้อย ตชด.437 อ.สะเดา นำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบในพื้นที่ บริเวณริมรั้วชายแดนไทย-มาเลเซีย ระหว่างหลักกิโลเมตรที่ 9-10 บ้านวังเปลว ต.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา
พบรถยนต์เก๋งต้องสงสัย ยี่ห้อมิตซูบิชิ แลนเซอร์ หมายเลขทะเบียน กค 2443 ปัตตานี อยู่ในบริเวณดังกล่าว จึงแสดงตัวเพื่อขอทำการตรวจค้น ภายในรถมี นายซุลกีพลี สาแม็ง อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 53/1 ม.7 ต.ปากู อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี เป็นคนขับ เและ นายมะตอเฮ ยูโซ๊ะ อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 50/2 ม.5 ต.กอตอตือร๊ะ อ.รามัน จ.ยะลา นั่งอยู่เบาะข้าง จากการตรวจค้นภายในรถยนต์ พบใบกระท่อมสดซุกซ่อนอยู่บริเวณเบาะหลัง จำนวน 6 กระสอบ และบริเวณใต้ฝากระโปรงหลังอีก 2 กระสอบ รวมน้ำหนักทั้งสิ้น 180 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 150,000 บาท
จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 2 คน รับสารภาพว่า ใบกระท่อมทั้งหมด นายอาหลง ชาวมาเลเซีย ได้ว่างจ้างให้ขนมาจากริมรั้วชายแดนแดนไทย-มาเลเซีย โดยใช้วิธีโยนข้ามรั้วชายแดนเพื่อเลี่ยงการตรวจค้นและถูกจับกุมแทนการขับเข้ามาทางด่านพรมแดนปาดังเบซาร์ เพื่อนำไปส่งให้กับกลุ่มผู้ค้าใบกระท่อมในพื้นที่ จ.สงขลา และ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยได้รับค่าจ้างกิโลกรัมละ 40 บาท ทั้งนี้ ราคาขายต่อเมื่อถึงปลายทางจะมีราคาสูงสุดถึงกิโลกรัมละ 800 บาท เนื่องจากเป็นที่ต้องการของกลุ่มวัยรุ่นเพื่อนำไปต้มเอาน้ำผสมเป็นยาเสพติดสี่คูณร้อย แต่ใบกระท่อมสดในพื้นที่เริ่มหายาก เนื่องจากส่วนหนึ่งเจ้าหน้าที่ได้ตัดโค่นและมีการจับกุม จึงต้องหันไปสั่งเข้ามาจากประเทศมาเลเซีย ราคาจึงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากเดิมที่ราคาแค่กิโลกรัมละ 200 บาท
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ว่า มียาเสพติดให้โทษประเภท 5 พืชใบกระท่อม ไว้ครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.สะเดา เพื่อดำเนินคดีและจะขยายผลไปยังขบวนการค้าใบกระท่อมทั้งชาวมาเลเซียและคนไทยในพื้นที่ต่อไป
