ศูนย์ข่าวภูเก็ต - รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ระบุ ปัญหายาเสพติดทวีความรุนแรง เน้นปราบปรามจับกุม ภูเก็ตพบ 70%ในกลุ่มวัยรุ่นอายุระหว่าง 15-25 ปี เกี่ยวข้องกับยาเสพติดและเป็นผู้เสพรายใหม่ ขณะที่การแก้ไขปัญหายาเสพติดในเมืองท่องเที่ยว จี้ ตร.เร่งทำป้ายประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจนักท่องเที่ยว เกี่ยวข้องยาเสพติดเป็นการทำผิดกฎหมายไทย
วันนี้ (6 ก.ย.) ที่โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ ภูเก็ต พล.ต.ต.พิสัณห์ จุลดิลก รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 เป็นประธานเปิดการอบรมเยาวชนสัมพันธ์ต้านภัยยาเสพติดรุ่นที่ 1/2554 ซึ่งสถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต ร่วมกับเทศบาล ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ตจัดขึ้น ระหว่างวันที่ 5-8 ก.ย.2554
ทั้งนี้ เพื่อแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติดที่นับวันจะทวีความรุนแรง และมีแนวโน้มการแพร่ระบาดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่นที่มีอายุระหว่าง 15-25 ปี ประมาณ 70% ที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติดและเป็นผู้เสพรายใหม่ ซึ่งกลุ่มเหล่านี้จะใช้ยาเสพติดประเภทยาบ้าเป็นหลัก รองลงมาคือ ยาไอซ์ กัญชา สารระเหยและยาเสพติดชนิดอื่นๆ
จากสถานการณ์ดังกล่าว สถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ตได้ตระหนักถึงความสำคัญของเยาวชนในฐานะที่เป็นพลังและทรัพยากรอันสำคัญยิ่งของประเทศชาติในอนาคต การป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยการป้องกันหรือลดการแพร่ระบาดในหมู่วัยรุ่นหรือเยาวชน โดยมี พล.ต.ตพิกัด ตันติพงศ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พ.ต.อ.โชติ ชิดไชย ผู้กับการสถานีตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต นายกรีฑา แซ่ตัน นายกเทศมนตรีเทศบาล ต.วิชิต นักเรียนในพื้นที่ ต.วิชิต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม
พล.ต.ต.พิสัณห์ จุลดิลก รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 กล่าวถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของยาเสพติดในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 8 ว่า ขณะนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดของยาเสพติดในพื้นที่มีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น โดยพื้นที่ที่มีความรุนแรงงานที่สุดคือพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช รองลงมา คือ พื้นที่เมืองท่องเที่ยว
ที่ผ่านมา มีการจับกุมทั้งในส่วนของผู้เสพและผู้ค้าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัญหายาเสพติดนั้นในส่วนของตำรวจภูธรภาค 8 เน้นให้ความสำคัญในเรื่องของการปราบปรามและป้องกัน รวมทั้งเพิ่มมาตรการในการกวดขันจับกุมผู้กระทำความผิด แต่การดำเนินการจะต้องเป็นไปด้วยความระมัดระวัง เนื่องจากขณะนี้กลุ่มพ่อค้ายาบ้าส่วนใหญ่จะมีอาวุธและพร้อมที่จะต่อสู่กับเจ้าหน้าที่ตำรวจตลอดเวลา แต่อย่างไรก็ตามการดำเนินการจะต้องไม่ใช้ความรุนแรงซึ่งเรื่องนี้ทางรัฐบาลได้เน้นย้ำมา
ส่วนปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติดในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ทราบว่า ในส่วนของจังหวัดภูเก็ตมีการนำยาเสพติดเข้ามาในหลายเส้นทางทั้งทางเครื่องบิน ทางรถ และ ทางเรือ ซึ่งล่าสุด มีการจับกุมผู้ต้องหาลักลอบขนยาเสพติดมาจากต่างประเทศผ่านทางท่าอากาศยานภูเก็ตแล้ว 2 ราย
ส่วนการลักลอบขนเข้ามาทางรถก็เป็นอีกเส้นทางหนึ่งที่จะต้องเฝ้าระวัง เนื่องจากปัจจุบันจุดตรวจภูเก็ตยังไม่มีเครื่องมือในการตรวจจับที่ทันสมัย ซึ่งเรื่องนี้จะเสนอต่อรัฐบาลเพื่อพิจารณาในเรื่องของการติดตั้งเครื่องมือตรวจจับยาเสพติดที่ทันสมัยในภูเก็ตเพื่อสกัดกั้นการลักลอบขนยาเสพติดเข้ามาในพื้นที่
พล.ต.ต.พิสัณห์ ยังได้กล่าวต่อไปถึงการปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติดในเมืองท่องเที่ยว ว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกแห่งทำป้ายประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนนักท่องเที่ยวไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด เพราะเป็นการทำผิดกฎหมายของประเทศไทย ขณะที่การใช้ยาเสพติดบางตัวในบางประเทศไม่ผิด แต่เมื่อนำมาทำในบ้านเมืองเราเป็นการทำผิดกฎหมาย จึงจำเป็นที่จะต้องมีการแจ้งประชาสัมพันธ์และทำความเข้าใจกับนักท่องเที่ยว เพื่อความเข้าใจตรงกัน ในการปฏิบัติตามกฎหมายของประเทศไทย