ศูนย์ข่าวภูเก็ต-ประธานคณะอนุกรรมาธิการยุติธรรม วุฒิสภา ลงภูเก็ตสอบร้องเรียนเรียกรับผลประโยชน์ของตำรวจ ระบุอีก 2 สัปดาห์สรุปผลสอบได้ พร้อมให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย
วันนี้ (3 ก.ย.54 )ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดภูเก็ต พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รองประธานคณะกรรมาธิการการยุติธรรมและการตำรวจ คนที่สอง ในฐานะประธานคณะอนุกรรมาธิการการตำรวจ ในคณะกรรมาธิการการยุติธรรมและการตำรวจ วุฒิสภา กล่าวภายหลังร่วมกับคณะอนุกรรมาธิการการตำรวจ ในคณะกรรมาธิการการยุติธรรมและการตำรวจ วุฒิสภา สอบปากคำผู้ประกอบการร้านเทเลอร์ (ร้านตัดเสื้อผ้า)ในพื้นที่กะตะ-กะรน ต.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต เพื่อสอบสวนข้อเท็จจริง กรณีมีการร้องเรียนเรื่องการเรียกรับผลประโยชน์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งรับผิดชอบในพื้นที่ ต.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต ว่า
คณะกรรมาธิการฯ ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนในพื้นที่ ต.กะรน เมื่อวันที่ 9 พ.ค. 2554 ว่า มีการเรียกเก็บผลประโยชน์จากกลุ่มผู้ประกอบการร้านเทเลอร์ (ร้านตัดเสื้อ) ชาวเนปาล และกลุ่มผู้ประกอบการสินค้าอื่นๆ โดยการเรียกเก็บผลประโยชน์ในครั้งนี้มีการอ้างว่าจะนำเงินที่เก็บได้ไปให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ภายหลังมีการร้องเรียนคณะกรรมาธิการฯได้ดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงมาระยะหนึ่งแล้ว และวันนี้ เป็นการลงพื้นที่เพื่อเก็บข้อมูลจากผู้ที่เกี่ยวข้องและตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมด รวมทั้งสอบปากคำในส่วนของผู้ร้องและผู้ถูกร้องเพิ่มเติมรวมทั้งบุคคลที่ถูกอ้างเป็นพยาน
พล.ต.อ.จงรักษ์ กล่าวต่อไปว่า สำหรับการสอบสวนกรณีการร้องเรียนเรื่องของการรับผลประโยชน์ในพื้นที่กะตะ กะรน นั้น ขณะนี้ได้เรียกผู้ที่เกี่ยวข้อง จากทั้งผู้ร้องและผู้ถูกร้องไปให้ปากคำกับทางคณะกรรมาธิการฯแล้วหลายราย ซึ่งการสอบสวนข้อเท็จจริงมีความคืบหน้าประมาณ 80 % คาดว่าจะสามารถรวบรวมข้อมูลการสอบสวนแล้วเสร็จภายในสองสัปดาห์ หลังจากนั้นจะสรุปผลการสอบสวนนำเสนอต่อวุฒิสภา เพื่อเสนอต่อรัฐบาลในการดำเนินการแก้ปัญหาต่อไป อย่างไรก็ตาม ในการดำเนินการของคณะกรรมาธิการฯจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายทั้งผู้ร้องและผู้ถูกร้อง
พล.ต.อ.จงรักษ์ ยังได้กล่าวอีกว่า สำหรับในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตในขณะนี้ คณะกรรมาธิการฯ ได้รับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่ตำรวจเพียงเรื่องเดียวเท่านั้น คือ เรื่องการเรียกรับผลประโยชน์ และคิดว่าน่าจะมีความรุนแรงพอสมควร เพราะจากการลงพื้นที่มาสอบปากคำพบว่า มีผู้เสียหายที่เข้ามาให้ปากคำค่อนข้างมาก
ส่วนภาพรวมทั่วประเทศที่มีการร้องเรียนต่อกรรมาธิการฯ ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งมีทั้งเรื่องที่เป็นจริงและความเข้าใจผิดกัน นอกจากนี้ก็ยังมีเรื่องการเรียกรับผลประโยชน์รถบรรทุก ซึ่งขณะนี้ก็อยู่ระหว่างการดำเนินการ
ขณะที่นายวินัย ชิดเชี่ยว กำนันตำบลกะรน อ.เมืองภูเก็ต หนึ่งในผู้ร้องกล่าวว่า เหตุที่มีการร้องเรียนในครั้งนี้ ก็เนื่องจากต้องการเรียกร้องความเป็นธรรมให้เกิดขึ้นในพื้นที่ เพราะจากการตรวจสอบข้อมูลแม้ว่าได้มีการร้องเรียนไปแล้ว แต่ก็ยังมีผู้ไปเรียกรับผลประโยชน์อยู่อีก
อย่างไรก็ตาม หนึ่งในผู้มาให้ปากคำซึ่งเป็นเจ้าของร้านเทเลอร์ ในพื้นที่กะตะ-กะรน กล่าวว่า ที่ผ่านมามีผู้มาเรียกรับเงินกับผู้ประกอบการ ที่มีลูกจ้างคนต่างด้าวรายละประมาณ 2,000 บาทต่อเดือน โดยอ้างว่าจะนำไปส่งให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งก็ไม่มั่นใจว่ามีการนำไปส่งจริงหรือไม่