เลขาธิการ ป.ป.ท.ส่งข้อมูลการออกบัตรประชาชน “สมาร์ทการ์ด” ให้ต่างด้าวในพื้นที่ทองผาภูมิ กาญจนบุรี ให้ดีเอสไอเอาผิดนายหน้า พร้อมส่งให้นายกรัฐมนตรีสั่งการถึงฝ่ายปกครองสอบวินัยเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้อง ชี้ ต่างด้าวต้องเสียเงิน 1-1.5 แสน แลกมีบัตรประชาชน ระบุในทองผาภูมิ-สังขละ มีคนไทยอยู่จริงไม่ถึงร้อยละ 20 ที่เหลือเป็นต่างด้าว ห่วงอนาคตต่างด้าวจะเป็นผู้มีอิทธิพลใน 2 อำเภอ มีฐานการเมืองปกครองระดับท้องถิ่น พร้อมเร่งขยายผลตรวจสอบในพื้นที่ตาก-ระนอง
วันนี้ (6 เม.ย.) เมื่อเวลา 14.00 น.นายอำพล วงศ์ศิริ เลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) เปิดเผยถึงการดำเนินการปราบปรามขบวนการปลอมบัตรประจำตัวประชาชนให้กับคนต่างด้าว ว่า ขณะนี้ ป.ป.ท.ได้เริ่มลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบเรื่องดังกล่าวแล้ว หลังพบเรื่องร้องเรียนจากประชาชนและข้าราชการในพื้นที่ โดยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ตนและคณะทำงานได้สุ่มลงพื้นที่เข้าไปตรวจสอบ และสังเกตการณ์ที่ที่ว่าการอำเภอทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ซึ่งตามข้อมูลพบว่ามีการออกบัตรประชาชนให้กับคนต่างด้าวมากผิดปกติ โดยเฉพาะชาวเนปาล และจากการตรวจสอบสามารถแจ้งความดำเนินคดีกับคนต่างด้าวรายหนึ่งซึ่งเป็นชาวเนปาล ชื่อ อามาน ขณะที่ชายดังกล่าวเพิ่งได้รับบัตรประชาชนแบบสมาร์ทการ์ดจากที่ที่ทำการอำเภอทองผาภูมิ โดยยอมรับว่า อ่านภาษาไทยไม่ได้ แม้กระทั่งชื่อ นามสกุล และที่ปรากฏอยู่ในบัตรประชาชน คือ นายตุ่ย กุลจารุกิจ อยู่บ้านเลขที่ 72 ม.3 ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี เพราะเจ้าหน้าที่เป็นผู้ดำเนินการให้ทั้งหมด และเมื่อตรวจสอบไปยังบ้านเลขที่ดังกล่าว ปรากฏว่า ไม่มีบ้านเลขที่ตามที่ปรากฏในบัตร ดังนั้น ตนจึงได้นำตัวนายอามานไปแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาเป็นคนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยไม่ได้รับอนุญาตและมีไว้หรือใช้เอกสารราชการปลอม
นายอำพล กล่าวต่อไปว่า ในส่วนของผู้ที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ทั้งผู้ใหญ่บ้าน และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านที่ให้การรับรองเอกสารการออกบัตร ตลอดจนเจ้าหน้าที่ที่มีอำนาจออกบัตรจะต้องมีการตรวจสอบ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป โดยในส่วนของเจ้าหน้าที่รัฐ ทาง ป.ป.ท.จะรวบรวมข้อมูล เพื่อส่งต่อให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ดำเนินการเอาผิดตามกฎหมาย
ส่วนการเอาผิดกันนายหน้าหรือไม่นั้น จะส่งต่อข้อมูลให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ดำเนินการต่อไป นอกจากนี้ยังจะเดินหน้าตรวจสอบเส้นทางการเงิน โดยขอความร่วมมือจากสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ด้วย
เลขาธิการ ป.ป.ท.กล่าวว่า ในเบื้องต้นได้รายงานเรื่องดังกล่าวต่อนาย พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมแล้ว พร้อมเสนอรายงานถึงนายกรัฐมนตรี เพื่อสั่งการไปยังอธิบดีกรมการปกครองให้ออกคำสั่งสอบสวนทางวินัยกับนายอำเภอทองผาภูมิแล้ว พร้อมกันนี้ ป.ป.ท. ได้รับมอบหมายให้เร่งขยายผลขบวนการดังกล่าว โดยเฉพาะที่อำเภอทองผาภูมิต้องมีการตรวจสอบข้อมูลการทำบัตรประชาชนย้อนหลัง 3 ปี หลังมีข้อมูลว่าช่วง 3 ปีที่ผ่านมาอำเภอทองผาภูมิได้ออกบัตรประชาชนให้คนต่างด้าวไปจำนวนมากกว่า 1 หมื่นราย และหากคิดเป็นรายได้ที่ผู้ร่วมขบวนการได้รับจะมีจำนวนมากถึงหลักพันล้านบาท
นายอำพล กล่าวเพิ่มเติมว่า จากนี้ ป.ป.ท.ยังจะขยายผลการตรวจสอบไปอีกหลายพื้นที่ที่มีข้อมูลพบการออกบัตรประชาชนให้ต่างด้าวผิดปกติ เช่น อ.ศรีสวัสดิ์ อ.สังขละ จ.กาญจนบุรี อ.แม่สอด จ.ตาก และ จ.ระนอง
ทั้งนี้ สำหรับพฤติกรรมดังกล่าวน่าจะมีลักษณะเป็นขบวนการ โดยมีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องหลายระดับ และ ป.ป.ท.มีข้อมูลว่าต่างด้าวสัญชาติเนปาลที่ต้องการมีบัตรประชาชนจะต้องเสียค่าใช้จ่ายประมาณ 100,000-150,000 บาท โดยขบวนการดังกล่าวถือเป็นเรื่องที่ส่งผลกระทบกับความมั่นคง ดังนั้น จำเป็นต้องมีการปราบปรามอย่างจริงจัง เนื่องจากป.ป.ท.พบข้อมูลว่าในพื้นที่ อ.ทองผาภูมิ และ อ.สังขละ จ.กาญจนบุรี มีคนสัญชาติไทยอยู่จริงไม่ถึงร้อยละ 20 ส่วนที่เหลือเป็นคนต่างด้าว หากปล่อยปัญหาเรื้อรังตนมีความเป็นห่วงว่าในอนาคตคนต่างด้าวจะก้าวขึ้นมาเป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ทั้ง 2 อำเภอ มีการขยายฐานอำนาจในทางการเมืองทั้งการสมัครเป็นผู้ใหญ่บ้านและสมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ด้วย