ระนองฝนตกหนักดินถล่มทับถนน-ท่อประปา-สะพานขาด

ระนอง- ฝนตกต่อเนื่องตลอด 4 วัน ส่งผลดินภูเขาสไลด์ทับถนนสายบ่อน้ำร้อน-บ้านหาดส้มแป้น รถทุกชนิดไม่สามารถสัญจรไปมาได้ นอกจากนี้ดินยังทับท่อประปาเข้าเมืองระนองขาดขาดสองท่อน ทำให้น้ำประปาในเขตตัวเมืองระนองหยุดไหลเกือบครึ่งเมือง จนท.คาดต้องใช้เวลา 5-7 วัน กว่าจะซ่อมเสร็จ

เมื่อวันที่ (28 ส.ค. 54) จากกรณีเกิดมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทยและอ่าวไทยมีกำลังแรง ส่งผลให้จังหวัดระนอง เกิดฝนฝนตกหนักถึง หนักมากในทุกอำเภอ และมีฝนตกติดต่อกันสะสมมา ตั้งแต่วันที่ 25-28 ส.ค. ที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดเหตุดินภูเขาเลื่อนไหลทับถนนทางหลวงชนบทหมายเลข ร.น. 4035 สายบ่อน้ำพุร้อน-บ้านหาดส้มแป้น ที่บริเวณ หมู่ 2 ต.หาดส้มแป้น อ.เมือง ระนอง ทำให้เส้นทางการจราจร ถูกตัดขาดประมาณ 50 เมตร รถทุกชนิดไม่สามารถสัญจรไปมาได้ เจ้าหน้าที่ทางหลวงชนบทจังหวัดระนองต้องระดมเครื่องจักรหนักเข้าแก้ไขจนรถสามารถผ่านไปมาได้แล้ว นอกจากนี้ท่อส่งน้ำขนาด 500 มิลลิเมตรของการประปาส่วนภูมิภาคระนองถูกดินภูเขาทับจนขาดสองท่อนส่งผลให้น้ำประปาในเขตตัวเมืองระนองหยุดไหลเกือบครึ่งเมือง

นายสมคิด เดี่ยวฉิม ผู้จัดการการประปาส่วนภูมิภาค สาขาระนอง กล่าวว่า เหตุการณ์ดินภูเขาเลื่อนไหลสร้างความเสียหายให้กับท่อส่งน้ำประปาสายหลักที่มาจากตำบลหาดส้มแป้น ชำรุด ท่อประปาขาดออกจากกัน ทางการประปากำลังเร่งดำเนินการแก้ไข คาดว่าต้องใช้เวลาประมาณ 5-7 วัน กว่าจะเสร็จเรียบร้อย จะรีบส่งน้ำให้กับประชาชน ในจังหวัดระนองได้ใช้โดยทันที หากผู้ใช้น้ำท่านใดต้องการรับน้ำ ให้นำภาชนะหรือถังใส่น้ำ มาขอรับน้ำได้ที่การประปาส่วนภูมิภาคสาขาระนองได้

ด้านนายนิจ เพ็ชรคง ผู้อำนวยการสำนักงานทางหลวงชนบทจังหวัดระนอง กล่าวว่า เส้นทางที่ต้องเฝ้าระวังในเขตพื้นที่อำเภอเมืองระนอง คือ เส้นทางสายบ่อน้ำร้อน-หาดส้ม แป้นกิโลเมตรที่ 1-4 หมู่ 2 ต.หาดส้มแป้น อ.เมืองระนอง เพราะตั้งแต่เกิดลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามันตั้งแต่วันที่ 25 ส.ค.54 ที่ผ่ามา จังหวัดระนอง มีฝนตกต่อเนื่องมา 4 วัน และดินอุ้มน้ำมาก จึงทำให้ดินและหินเลื่อนไหล จำนวน 3 จุด กรมทางหลวงชนบทจังหวัดระนองได้ใช้รถคอยตักดินที่ถล่มลงมาตลอด เพราะเป็นจุดที่เกิดการเลื่อนไหลมาทุกครั้งที่มีฝนตกอย่างต่อเนื่อง

ขณะที่นายวันชาติ วงษ์ชัยชนะ ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง เปิดเผยว่า จากการที่จังหวัดระนองเกิดฝนตกหนักติดต่อกันมาตั้งแต่วันที่ 25 - 28 สิงหาคม 2554 ทำให้ทุกอำเภอสามารถวัดน้ำฝนในรอบวันได้เกิน 100 มิลลิเมตร โดยเฉพาะอำเภอเมืองวัดได้ 147 มิลลิเมตร ส่งผลให้ทุกอำเภอเกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากและมีดินภูเขาเลื่อนไหลในหลายพื้นที่แต่สามารถเปิดเส้นทางจนรถสามารถผ่านไปมาได้แล้ว แต่น้ำป่าได้กัดเซาะจนสะพานข้ามคลองรา หมู่ที่ 1 ต.เชี่ยวเหลียง อ.กะเปอร์ เกิดการทรุดตัว และคอสะพานขาดทำให้ชาวบ้านจำนวน 21 ครัวเรือน ไม่สามารถสัญจรออกมาสู่ถนนเส้นหลักได้

นอกจากนี้ชาวบ้านในพื้นที่ หมู่ที่ 2-4 ต.เชี่ยวหลียง ได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วม จำนวน 117 ครัวเรือน และชาวบ้านในพื้นที่ หมู่ที่ 3 บ้านทองหลาง ต.บ้านนา สะพานถูกน้ำกัดเซาะทำให้คอสะพานขาด ชาวบ้านได้รับความเดือนร้อน จำนวน 30 ครัวเรือน และหมู่ที่ 8 บ้านทรัพย์สมบูรณ์ ต.บ้านนา ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน จำนวน 80 ครัวเรือน

นายวันชาติ กล่าวต่อไปว่า ทางจังหวัดกำลังเตรียมประกาศให้ทุกอำเภอเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติแล้ว ได้แก่ อำเภอกระบุรี อำเภอละอุ่น อำเภอกะเปอร์ อำเภอเมืองระนอง และ อำเภอสุขสำราญ โดยสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดระนอง ได้สรุปความเสียหาเบื้องต้น ดังนี้ ราษฎรเดือดร้อน 15,735 คน 1,687 ครัวเรือน พื้นที่ทางการเกษตรพืชสวนและอื่นๆ เสียหายประมาณ 7,212 ไร่ บ้านเรือนถูกน้ำท่วม จำนวน 327 ครัวเรือน และ สิ่งสาธารณประโยชน์ สะพาน 10 แห่ง ถนน 20สาย

นายสำราญ กลิ่นหอม อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 4 ม.1 ต.เชี่ยวเหลียง กล่าวว่า หากยังมีฝนตกหนักต่อเนื่องตนและเพื่อนบ้านมีความกังวลในเรื่องน้ำท่วม เนื่องจากในวันที่ 29 ส.ค.54 ต้องไปส่งบุตรหลานไปโรงเรียน อีกเรื่องที่กังวลคือเรื่องผลผลิตทางการเกษตรโดยเฉพาะปาล์มน้ำมัน ต้องมีความยากลำบากในการลำเลียงออกจากพื้นที่เพื่อส่งไปจำหน่าย ชาวบ้านคงจะต้องแบกหรือใส่รถเข็นเพื่อนำขึ้นสู่ถนนใหญ่ก่อนขึ้นรถบรรทุก เพื่อไปขายยังลานรับซื้อปาล์ม หากเป็นไปได้ในช่วงนี้อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือชาวบ้านโดยด่วน