ตรัง - ตำรวจตรังออกหมายจับ “ด.ต.พยัคฆ์ อุนทรีจันทร์” มือฆ่า “น.ส.วิชุดา” เผยติดต่อขอมอบตัวแล้ว ขณะที่ครอบครัวนำกระดูกผู้ตายกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาที่ ต.โคกยาง อ.กันตัง จ.ตรัง
จากกรณีที่ น.ส.วิชุดา ทองเสน่ห์ อายุ 22 ปี หรือน้องปิ๊ก ได้ถูก ด.ต.พยัคฆ์ อุนทรีจันทร์ อายุ 45 ปี ผบ.หมู่ฝ่ายปกครองและการฝึก ซึ่งมีหน้าที่ในการฝึกนักเรียนและผู้ที่เข้ารับการอบรมประจำศูนย์ฝึกอบรมประจำศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ วางแผนลวงอุ้มจากพื้นที่ จ.ตรัง เพื่อพาไปเคลียร์ปัญหาหัวใจ หลังจากทราบว่าฝ่ายหญิงตีตัวออกห่างเตรียมจะแต่งงาน แต่เมื่อไม่สามารถตกลงกันได้ ด.ต.พยัคฆ์จึงได้โทรศัพท์ตามนายมุตตาเหล็บ และนายบ่าวที่รู้จักในช่วงที่มีการซื้อขายอาวุธปืนด้วยกัน ให้นำยางรถยนต์ 10 เส้นและน้ำมันเพื่อใช้สำหรับเผา น.ส.วิชุดา ผู้ตายมาให้ แล้วลงมือใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม.จ่อยิงที่ศีรษะจำนวน 1 นัดจนเสียชีวิต ก่อนนำยางรถยนต์มาจุดไฟเผาเพื่อทำลายหลักฐานและแยกย้ายกันหลบหนี โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 25 มิ.ย.ที่ผ่านมา บริเวณสวนยางพาราที่ไถดัน บ้านเขาสอยดาว ต.เขาพระ อ.รัตภูมิ จ.สงขลา
ต่อมาตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานติดตาม 2 ผู้ที่ร่วมก่อเหตุ คือ นายมุตตาเหล็บ และนายบ่าว มาสอบปากคำและกันไว้เป็นพยานในคดีดังกล่าว พร้อมกันนั้น ยังได้เรียก ด.ต.พยัคฆ์ ผู้ต้องสงสัยมาสอบปากคำ แต่เบื้องต้นให้การปฏิเสธ อย่างไรก็ตาม ล่าสุดพนักงานสอบสวน สภ.เมืองตรัง ได้ขออนุมัติศาลต่อศาล จ.ตรัง เพื่อออกหมายจับ ด.ต.พยัคฆ์ ผู้ต้องหาในคดีดังกล่าว ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างลาพักร้อน
สำหรับความคืบหน้าล่าสุด วันนี้ (25 ส.ค.) นายทวี ทองเสน่ห์ พร้อมด้วย นางประทุม ทองเสน่ห์ พ่อแม่ของผู้ตาย และญาติกว่า 20 คน ได้นำกระดูกของ น.ส.วิชุดา บุตรสาว ที่รวบรวมเก็บมาจากสวนยางพาราที่ไถดัน บ้านเขาสอยดาว ต.เขาพระ อ.รัตภูมิ จ.สงขลา ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุ ที่ ด.ต.พยัคฆ์ นำผู้ตายไปยิงทิ้งและเผา กลับมาประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดโคกยาง หมู่ที่ 1 ต.โคกยาง อ.กันตัง จ.ตรัง โดยมีพระครูปัญญาวัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดนาเมืองเพชร เป็นผู้ทำพิธีรดน้ำดอกไม้แทนการรดน้ำศพ ท่ามกลางญาติพี่น้อง เพื่อนฝูง และชาวบ้านที่ทราบข่าวจำนวนกว่า 200 คนเดินทางเข้าร่วมพิธีอย่างเศร้าสลด
จากนั้น นายทวี พ่อของผู้ตายได้มอบกระเช้าเครื่องดื่มสุขภาพให้กับ พ.ต.อ.ธรรมนูญ ไตรทิพย์พงศ์ รอง ผบก.ภ.จว.ตรัง พ.ต.อ.นิรัตน์ ปานดำ ผกก.สส.ภ.จว.ตรัง และนายสมชาย หอยสังข์ นายก อบต.โคกยาง เพื่อเป็นการขอบคุณที่ปฏิบัติงานจนทำให้คดีคลี่คลาย และนำไปสู่การนำกระดูกของบุตรสาวกลับมาประกอบพิธีทางศาสนา ทั้งนี้ พ.ต.อ.ธรรมนูญได้ชี้แจงขั้นตอนการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดคลี่คลายคดี และสาเหตุการตายของ น.ส.วิชุดา ให้กับทางญาติและชาวบ้านได้รับทราบด้วย เพราะก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวลือทำให้เกิดการบิดเบือนข้อเท็จจริง โดยเมื่อชาวบ้านในพื้นที่ตำบลโคกยางได้รับทราบข้อเท็จจริง ต่างก็คลายความสงสัย
นายทวี ทองเสน่ห์ อายุ 50 ปี บิดาของ น.ส.วิชุดา กล่าวว่า หลังจากทราบข่าวว่าบุตรสาวได้หายตัวไปเมื่อวันที่ 25 มิ.ย.54 ที่ผ่านมา ทางตนพร้อมด้วยญาติๆ ก็ได้ช่วยกันออกตามหา แม้จะทราบดีว่าโอกาสที่จะพบเจอบุตรสาวมีน้อยมาก แต่ก็ได้ทำใจไว้แล้ว กระทั่งมาทราบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดดังกล่าวสามารถรวบรวมพยานหลักฐานและแกะรอยติดตามผู้ที่ร่วมก่อเหตุมาสอบปากคำ จนทำให้คดีมีความคืบหน้าไปมากและคลี่คลาย นำไปสู่การค้นหาเศษชิ้นส่วนกระดูกของบุตรสาวที่หลงเหลือจากการเผาทำลาย ทำให้ทางครอบครัวและญาติได้มีโอกาสนำกลับมาบำเพ็ญกุศลตามศาสนา ก็รู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก หลังจากที่ก่อนหน้านี้ค้นหากันหลายวันก็ยังไม่พบ
ส่วนกำหนดการทางศาสนาของบุตรสาวนั้น ขณะนี้ได้มีการตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดโคกยาง แต่ยังไม่ทราบแน่ชัดว่ากี่วัน ซึ่งตนก็ให้คำตอบไม่ได้ เพราะต้องรอหารือกับญาติก่อน แต่ทั้งนี้ อยากฝากขอบคุณไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดดังกล่าวที่มี พ.ต.อ.ธรรมนูญ ไตรทิพย์พงศ์ รอง ผบก.ภ.จว.ตรัง เป็นหัวหน้าทีม ที่ทำให้คดีคลี่คลายไปมาก จนทราบว่าผู้ก่อเหตุเป็นใคร
และอยากฝากไปถึง ด.ต.พยัคฆ์ ซึ่งเป็นผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวว่า ตนรู้สึกเสียใจอย่างมากเมื่อทราบว่า ฆาตกรที่ลงมือฆ่าบุตรสาวตนอย่างเหี้ยมโหดนั้นจะเป็นถึงเจ้าหน้าที่ของรัฐ ที่ใจคอโหดร้ายทำกับผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่ไม่มีทางสู้ได้ถึงเพียงนี้ ซึ่งตนก็คาดหวังและมั่นใจว่าจะสามารถติดตามตัว ด.ต.พยัคฆ์มาดำเนินคดีตามกฎหมายได้อย่างแน่นอน
พ.ต.ท.บรรเทา ปลอดทอง สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองตรัง เจ้าของคดี เปิดเผยว่า สำหรับ 2 ผู้ต้องหาที่ให้ความมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และถูกกันไว้เป็นพยาน ได้แก่ นายหมุดตาเหล็บ หลีหมาด อายุ 28 ปี เป็นชาว อ.รัตภูมิ จ.สงขลา เป็นลูกชายของผู้ใหญ่บ้านคนดังในพื้นที่ ซึ่งได้ทำแผนประกอบคำรับสารภาพไปแล้วเมื่อวานนี้ (24 ส.ค.) และนายธวัชชัย หรือบ่าว บินยาแม อายุ 31 ปี เป็นชาว อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
ทั้งนี้ ล่าสุดทางพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติหมายจับ ด.ต.พยัคฆ์ ต่อศาล จ.ตรัง แล้ว ตามหมายจับที่ จ 250/2554 ลงวันที่ 24 ส.ค.54 ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา โดยไตร่ตรองไว้ก่อน ส่วนข้อหาอื่นๆ จะได้สอบสวนพยานเพื่อแจ้งข้อหาเพิ่มเติมภายหลัง ทั้งนี้ทราบว่า ด.ต.พยัคฆ์ได้หลบหนีไปกบดานอยู่ในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี แต่ได้ประสานเข้ามาเพื่อขอเข้ามอบตัวแล้ว