ตรัง - เจ้าหน้าที่ตำรวจตรัง รวบ 2 ผัวเมียชาวพัทลุง อาชีพรับซื้อเศษเหล็ก รับจ้างขนยาบ้า 15,600 เม็ด จาก 2 ขาใหญ่คุกบางขวาง มูลค่าเกือบ 5 ล้าน ผู้ว่าฯ ตรัง ห่วงเยาวชนที่เสพยาแล้วรวมกลุ่มกันก่อคดีอาชญากรรม
วันนี้ (24 ส.ค.) เมื่อเวลา 10.30 น.นายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง พร้อมด้วย พล.ต.ต สาคร ทองมุณี ผบก.ภ.จว.ตรัง พ.ต.ท ภูมิ บาลทิพย์ รอง ผกก.ป.สภ.เมืองตรัง ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นายสมหมาย พัฒช่วย อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 103 หมู่ที่ 11 ต.เกาะเต่า อ.ป่าพะยอม จ.พัทลุง และ นางดาราพร พูลเกิด อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 207 หมู่ที่ 11 ต.เกาะเต่า อ.ป่าพะยอม จ.พัทลุง 2 สามีภรรยา พร้อมด้วยยาบ้า จำนวน 15,600 เม็ด มูลค่าประมาณ 4.6 ล้านบาท พร้อมด้วยโทรศัพท์มือถือ จำนวน 2 เครื่อง และรถกระบะ โตโยต้า วีโก้ สีบอร์นทอง หมายเลขทะเบียน บท 3594 ตรัง จำนวน 1 คัน
สืบเนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ซึ่งประกอบไปด้วย ชุดปราบปรามยาเสพติด สภ.เมืองตรัง พร้อมกับชุด ตชด.ที่ 435 ตรัง ได้สืบทราบว่า ทั้ง 2 คน มีพฤติการณ์ลักลอบส่งยาบ้า จึงได้ทำการสืบสวนและทำการล่อซื้อ จนสามารถจับกุมได้พร้อมของกลางที่บริเวณริม ถ.สายตรัง-พัทลุง หน้าโรงแรมเรือรัษฎา ในเขตเทศบาลนครตรัง เมื่อเวลา 17.30 น.ของวันที่ 23 ส.ค.54 ที่ผ่านมา
โดยจากการสอบสวนทั้ง 2 สามีภรรยา ให้การรับสารภาพว่า ปัจจุบันมีอาชีพตระเวนรับซื้อเศษเหล็กขายในพื้นที่ จ.พัทลุง โดยแต่ละเดือนมีรายได้ไม่แน่นอน แถมยังมีลูกอีก 1 คน ที่ต้องรับผิดชอบเลี้ยงดู จึงมารับจ้างขนยาบ้ามาส่งให้กับลูกค้าตามที่ นายพงษ์ และ นายเวฟ ซึ่งเป็นนักโทษที่อยู่ในเรือนจำบางขวางสั่ง โดยมีผู้ที่เคยมารับซื้อเศษเหล็กแนะนำให้รู้จักอีกทอดหนึ่ง และที่ผ่านมา ทำมาแล้ว 7 ครั้ง แต่ละครั้งจะรับยาบ้ามา 12 มัด และสูงสุด 15 มัด ส่วนค่าจ้างที่ได้รับแต่ละครั้งก็จะไม่เท่ากัน ตั้งแต่ 5,000-15,000 บาท ตามแต่ระยะทางที่จะนำยาบ้าไปส่งให้กับลูกค้า
สำหรับยาบ้าดังกล่าวจะมีคนนำมาให้จาก กทม.โดยตรง หลังจากนั้น ก็นำไปส่งให้ตามใบสั่ง แต่การทำงานล่าสุดที่ผ่านมา ตนไม่ได้ค่าจ้างสักบาท เนื่องจากทางผู้รับยาเสพติดกล่าวหาว่า ยาบ้าหายไป 1 มัด จึงทำให้ตอนนี้ตนทั้งคู่ต้องทำงานหาเงินชดใช้ค่ายาบ้า จำนวน 90,000 บาท ทั้งนี้ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหา 2 สามีภรรยาว่า ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย
นายไมตรี อินทุสุต ผุ้ว่าราชการจังหวัดตรัง กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้ถือว่าเป็นรายใหญ่อันดับ 2 ในรอบปี 2554 และที่ผ่านมาได้ดำเนินการจับกุมอย่างต่อเนื่อง เฉลี่ย 1 เดือน จับได้ถึง 160 ครั้ง มากกว่าปีที่แล้วประมาณ 32% และมีการขยายผลจากรายเล็กไปสู่รายใหญ่ พร้อมทั้งยังมีการปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายไปแล้ว 19 ครั้ง โดยมีข้อมูลจากภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม แต่ก็ห่วงเยาวชนที่เสพยาเสพติด แล้วรวมกลุ่มกันก่อคดีอาชญากรรม