ตรัง - แกนนำพรรคเพื่อไทยจังหวัดตรังทำใจ ผลจากการที่ชาวใต้เทคะแนนเสียงให้น้อย อาจกระทบต่อการของตำแหน่งสำคัญจากผู้ใหญ่ ด้าน ส.ส.ปชป.ให้เวลารัฐบาลใหม่แค่ 6 เดือน
นายทวี สุระบาล อดีต ส.ส.ตรัง 6 สมัย และแกนนำพรรคเพื่อไทยจังหวัดตรัง กล่าวว่า ผลจากการเลือกตั้ง ส.ส.ครั้งล่าสุดที่ผ่านมา สามารถสะท้อนอะไรได้หลายอย่าง และจากการที่พรรคเพื่อไทยได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ก็จะทำให้ประเทศไทยมีโอกาสในการพัฒนาด้านต่างๆ มากขึ้น
แต่อย่างไรก็ตาม รู้สึกเสียดายที่ชาวตรังหรือชาวใต้ส่วนใหญ่ยังไม่เห็นความสำคัญในส่วนนี้ และรู้ตั้งแต่ก่อนวันเลือกตั้งด้วยซ้ำไปว่า พรรคเพื่อไทยจะกลับมาเป็นรัฐบาลแน่ แต่ก็ยังอุตส่าห์ไปลงคะแนนให้แก่อีกพรรคการเมืองหนึ่ง ขณะที่พรรคเพื่อไทยเองกลับได้คะแนนเพียงน้อยนิด โดยเฉพาะในระบบบัญชีรายชื่อ (ปาร์ตี้ลิสต์)
ดังนั้น ขณะนี้ตนเองจึงไม่สามารถตอบได้ว่าจะมีโอกาสได้รับตำแหน่งสำคัญในรัฐบาลหรือไม่ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ได้เคยคุยกับพรรคเพื่อไทยไว้บ้างแล้ว แต่ในเมื่อชาวตรังหรือชาวใต้ไม่เทคะแนนเสียงให้ จึงต้องปล่อยให้เป็นการพิจารณาของทางผู้ใหญ่อีกครั้ง เช่นเดียวกับแนวทางพัฒนาจังหวัดตรังที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ก็คงต้องรอให้การจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่เสร็จสิ้นเรียบร้อยเสียก่อน จากนั้นก็จะได้มาดูว่ามีการเขียนนโยบายตรงจุดไหน อย่างไรบ้าง เพื่อที่จะได้ผลักดันนำมาใช้พัฒนาจังหวัดตรังต่อไป อย่างไรก็ตาม สำหรับการเลือกตั้ง ส.ส.ระบบเขตสมัยต่อไปนั้น ตนตั้งใจไว้แล้วว่าจะขอลงสมัครในเขตเลือกตั้งที่ 2 อีกสักครั้ง
นายสมชาย โล่สถาพรพิพิธ ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ 4 สมัย กล่าวว่า จากคำให้สัมภาษณ์ของนายทวี เหมือนกับบ่งบอกว่ารัฐบาลชุดใหม่อาจจะมีการเลือกปฏิบัติ หรือไม่ให้ความเป็นธรรมต่อการพัฒนาจังหวัดตรังหรือภาคใต้ เพียงเพราะประชาชนส่วนใหญ่ไม่ไปลงคะแนนเสียงให้ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นก็จะทำให้ภาพของรัฐบาลในสมัย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่แตกต่างไปจากภาพของรัฐบาลในสมัยพี่ชาย คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่เคยมีตัวอย่างการพัฒนาเฉพาะบางภาค หรือบางพื้นที่ที่เลือกพรรคไทยรักไทย ส่วนบางภาคหรือบางพื้นที่ที่ไม่เลือกก็จะถูกทอดทิ้งไม่สนใจใยดี ทั้งๆ ที่เวลาเก็บภาษีจะเก็บทุกจังหวัดทุกภาคเหมือนกันทั่วประเทศ
ฉะนั้น ถ้าหากรัฐบาลในสมัย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังมีความคิดแบบเดิมๆ โดยมองประโยชน์ส่วนตัว มากกว่าประโยชน์ส่วนรวม ทุกอย่างก็จะเกิดปัญหา เพราะประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมคงไม่ยอมแน่ ต่างกับสมัยที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล ซึ่งมีการจัดสรรงบประมาณไปอย่างเท่าเทียมกัน แม้แต่จังหวัดเชียงใหม่ บ้านเกิดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ขณะเดียวกัน ผลจากนโยบายการหาเสียงที่มุ่งหวังแต่ชัยชนะ โดยไม่มองว่าในความเป็นจริงจะทำได้หรือไม่ อย่างไร รวมทั้งปัญหาอีกสารพัดสารพันที่กำลังเกิดขึ้น ก็จะเป็นตัวบั่นทอนรัฐบาลในสมัย นางสาวยิ่งลักษณ์ ให้เหลือเวลาน้อยลง ซึ่งตนคาดว่าอาจจะอยู่ได้ไม่เกิน 6 เดือนเท่านั้น