นราธิวาส – จนท.แอบนำ 3 นักโทษที่บาดเจ็บจากเหตุจลาจลภายในเรือนจำนราฯ เมื่อวานนี้ส่งโรงพยาบาล พร้อมสกัดกั้นนักข่าวกลัวรู้ความจริง หลังปิดข่าวเงียบมา 2 วันเต็ม ส่วนอธิบดีกรมราชทัณฑ์ และ อังคณา ร่วมทีมเจรจาแล้ว คาดไม่ช้านักโทษยอมจำนน
วันนี้ (12 ส.ค.) เมื่อเวลา 09.00 น. พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รองปลัดกระทรวงยุติธรรม นายชาติชาย สุทธิกลม อธิบดีกรมราชทัณฑ์ นายบุญธรรม กำลังเกื้อ อดีต ผบ.เรือนจำนราธิวาส นางอังคณา นีละไพจิตร ประธานคณะทำงานยุติธรรมเพื่อสันติภาพ และนักสิทธิมนุษยชน ได้ร่วมกันประชุมวางมาตรการในการคลี่คลายการสลายการก่อจลาจลของนักโทษชายที่ ถูกคุมขังอยู่ภายในเรือนจำนราธิวาส โดยกลุ่มหัวโจกดังกล่าว 10-15 คน ได้รวมตัวต่อต้านการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ที่บุกจู่โจมกวาดล้างยาเสพติดและอาวุธ เหตุเกิดในช่วงสายของวันที่ 11 ส.ค.54 ที่ผ่านมา จนกระทั่งยืดเยื้อมาถึงวันนี้
ซึ่งการเจรจาในเบื้องต้นต่างสลับสับเปลี่ยนกันขอความร่วมมือกับกลุ่มหัวโจก ให้ตั้งตัวแทนมาเจรจากับเจ้าหน้าที่เรือนจำ แต่ยังไร้ผล โดยมีเจ้าหน้าที่กองกำลังทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง จำนวนกว่า 300 นาย กระจายกำลังกันคุมเข้มพื้นที่ทั้งภายในและนอกรั้วกำแพงของเรือนจำ
ต่อมาเมื่อเวลา 12.30 น.เจ้าหน้าที่เรือนจำนราธิวาสได้ขอสนับสนุนรถโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ ในการลำเลียงนักโทษชาย จำนวน 3 คน ที่ถูกยิงในระหว่างการสลายการจลาจลไปยังโรงพยาบาล ทราบชื่อคือ นช.มูหะมะรอมลี นาวี อายุ 21 ปี เป็นคนพื้นที่ จ.นราธิวาส นายจวน ดิน อายุ 37 ปี สัญชาติพม่า และ นายโมฮัมหมัด ชาลีซาล หรือ ดีบินอุสมัน อายุ 33 ปี สัญชาติมาเลเซีย โดยทั้งหมดถูกยิงที่บริเวณหน้าท้อง อาการสาหัส ซึ่งยังไม่ทราบแน่ชัดว่าเกิดการการสลายการจลาจลของเจ้าหน้าที่ หรือเหตุทำร้ายกันเอง
ซึ่งการทยอยส่งนักโทษรักษาตัวที่โรงพยาบาลนั้น ในขณะที่ผู้สื่อข่าวกำลังจะบันทึกภาพ มีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์และทหารจำนวนหนึ่งกันผู้สื่อข่าวออกมา ไม่ให้บันทึกภาพสู่สายตาสาธารณชน นอกจากนี้ ยังกันสื่อมวลชนทั้งหลายไม่ให้เข้าภายในเขตเรือนจำนราธิวาสโดยเด็ดขาดด้วย ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้ประสานผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อขอเข้าไปทำข่าวแล้ว ปรากฏว่า ถูกทางเรือนจำปฏิเสธไม่ให้เข้า จนกว่าทางผู้บังคับบัญชาจะอนุญาตเท่านั้น
ส่วนการเจรจากับกลุ่มแกนนำนักโทษชายในเรือนจำ ผ่านไปประมาณ 1 ชั่วโมง สังเกตได้ว่านักโทษกลุ่มหัวโจกเริ่มอ่อนข้อ และมีท่าทีจะส่งตัวแทนเข้าเจรจากับอธิบดีกรมราชทัณฑ์ในเวลาใกล้นี้
