นราธิวาส - จนท.คุมเข้มรอบเรือนจำนราฯ เป็นวันที่ 2 หลังนักโทษชายรวมตัวก่อเหตุจลาจลเมื่อวานนี้ เผย ส่งตัวแทนเจรจาแล้วแต่ไม่เป็นผล ชาวบ้านโวยเดือดร้อน เหตุปิดถนนทั้ง 4 สายรอบเรือนจำ
รายงานข่าวความคืบหน้ากรณีกลุ่มนักโทษชายที่ถูกคุมขังภายในเรือนจำนราธิวาส ได้ก่อการจลาจล และทุบทำลายฝาผนังเรือนนอน ได้รับความเสียหาย หลังจากที่เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้ทำการตรวจค้นเพื่อกวาดล้างยาเสพติดและอาวุธ ตั้งแต่ช่วงเช้าของวันที่ 11 ส.ค.54 ที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถยึดยาบ้า โทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์ซึ่งเป็นเครื่องมือในการทำเฟอร์นิเจอร์ได้มากกว่า จำนวน 100 รายการนั้น
ล่าสุด ในช่วงเช้าของวันนี้ (12 ส.ค.) พบว่า มีเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครองจำนวนหนึ่ง ยังคงกระจายกำลังกันคุมเข้มพื้นที่บริเวณรอบนอกรั้งกำแพงของเรือนจำตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา และได้มีการถอนกำลังบางส่วนรวมถึงรถกระเช้าออกจากพื้นที่แล้ว เหลือเพียงบริเวณด้านซ้ายมือของรั้วกำแพงเรือนจำ ที่ยังคงมีชุดแม่นปืนขึ้นอยู่ในรถกระเช้า เพื่อตรวจดูความเคลื่อนไหวของกลุ่มนักโทษชายที่เป็นกลุ่มคนโจกประมาณ 10-15 คน ซึ่งยังคงเคลื่อนไหวอยู่ภายในเรือนจำ โดยทั้งเจ้าหน้าที่และกลุ่มนักโทษต่างก็อยู่ในความกดดัน ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ยังคงหาวิธีและทางออกในการต่อรองซึ่งกันและกัน เพื่อให้ปัญหาที่เกิดขึ้นคลี่คลายไปในทางที่ดี
ส่วนถนนสายหลักที่มุ่งสู่เรือนจำทั้ง 4 สาย เจ้าหน้าที่ยังคงปิดกั้นการจราจร ไม่อนุญาตให้ยานพาหนะทุกชนิดผ่านเข้าออก สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านเป็นอย่างมาก บางรายถึงกับต่อว่าเจ้าหน้าที่ที่ทำหน้าที่ปิดกั้นการจราจร โดยที่ไม่ยอมบุกสลายการจลาจลของนักโทษเสียที
ด้านความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับความพยายามของเจ้าหน้าที่เรือนจำกับกลุ่มนักโทษหัวโจก ที่จะคลี่คลายปัญหาที่เกิดขึ้นนั้น ทางเรือนจำนราธิวาส ได้มีการเชิญตัว นางอังคนา นีละไพจิตร ประธานคณะทำงานยุติธรรมเพื่อสันติภาพ มาทำการเจรจากับกลุ่มนักโทษ แต่ไร้ผล เนื่องจากนักโทษที่เป็นหัวโจกได้ส่งนักโทษชาวพม่า จำนวน 2 คน มาทำการเจรจากับเจ้าหน้าที่เรือนจำ ทำให้ 2 ฝ่ายพูดกันไม่รู้เรื่อง จนการเจรจาต้องยุติไปโดยปริยาย ซึ่งจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเห็นว่าทางกลุ่มแกนนำนักโทษ ไม่ต้องการที่จะเจรจากับเจ้าหน้าที่เรือนจำแต่อย่างใดในขณะนี้
ด้าน นายธนน เวชกรกานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส นั้น เปิดเผยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายพยายามเต็มที่จะไม่ใช้มาตรการขั้นรุนแรง และยังคงเปิดโอกาสให้แกนนำนักโทษส่งตัวแทนมาเจรจากับเจ้าหน้าที่ถึงข้อเรียกร้องต่างๆ อีกครั้ง