ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - นปพ.ภาค 9 บุกค้นบ้านนายทุนเงินกู้นอกระบบ และผู้มีอิทธิพลใน อ.หาดใหญ่ หลังเหยื่อสาวเจ้าของธุรกิจเข้าร้องเรียนกู้ 1 ล้านแต่ต้องจ่าย 7 ล้านบาท
วันนี้ (11 ส.ค.) เมื่อเวลา 11.30 น. พ.ต.อ.ศักดิ์สิทธิ์ มีแสง ผู้กำกับการปฏิบัติการพิเศษกองบังคับการสืบสวนตำรวจภูธรภาค 9 พร้อมด้วย พ.ต.ต.พลกุล ชอบกิจ สว.กก.สส.2 บก.สส.ภ.9 และ ร.ต.ท.ปริวัฒน์ เทศสิงห์ รอง สว.กก.สส. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษตำรวจภูธรภาค 9 กว่า 50 นาย พร้อมหมายค้นของศาลแขวงสงขลา เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 39 ซอย 25 ถนนราษฎร์อุทิศ เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ หลังได้รับการร้องเรียนว่าเป็นสถานที่ปล่อยเงินกู้นอกระบบและรับจำนำผิดกฎหมาย และยังมีพฤติกรรมเป็นผู้มีอิทธิพล พบนายวัชระ มหันตมรรค อายุ 40 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านอยู่ภายในบ้าน เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงหมายค้นให้ดูแลยินยอมให้เข้าตรวจค้นแต่โดยดี
จากการตรวจค้นพบว่า ที่บริเวณชั้นล่างของบ้านมีรถจักรยานยนต์จอดอยู่จำนวน 18 คัน ซึ่งเป็นรถที่รับจำนำเอาไว้ นอกจากนี้ยังพบหลักฐานที่เกี่ยวกับการกู้เงินทั้งคู่มือการจำนำรถ โฉนดที่ดิน สัญญาเงินกู้ตั้งแต่หลักหมื่นถึงหลักล้านจำนวนหนึ่ง โพยพนันฟุตบอล และอาวุธปืน 9 มม.พร้อมกระสุน 2 กล่อง ซึ่งเป็นปืนที่มีทะเบียนถูกต้อง เจ้าหน้าที่จึงได้ยึดของกลางทั้งหมดไปตรวจสอบ โดยเฉพาะสัญญากู้ซึ่งบางรายมียอดเงินกู้สูงถึง 5 ล้านบาท และมีวงเงินหมุนเวียนหลายสิบล้านบาท
จากการสอบสวนนายวัชระให้การว่า รถจักรยานยนต์รวมทั้งเอกสารการกู้เงิน และโฉนดที่ดินเป็นของลูกหนี้ที่มาขอกู้เงิน โดยปล่อยกู้ในอัตราร้อยละ 3 ต่อเดือน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงที่เดือดร้อนเรื่องเงิน และมาขอให้ช่วย และปฏิเสธว่าไม่ได้ขูดรีดหรือบังคับข่มขู่แต่อย่างใด
ด้าน พ.ต.อ.ศักดิ์สิทธิ์ มีแสง ผู้กำกับการปฏิบัติการพิเศษ กองบังคับการสืบสวนตำรวจภูธรภาค 9 ก่อนที่จะเข้าตรวจค้น เจ้าหน้าที่ได้รับการร้องเรียนและขอความช่วยเหลือจากหญิงสาวรายหนึ่ง ซึ่งเป็นเจ้าของร้านอาหารชื่อดังย่านถนนลพบุรีราเมศวร์ใน อ.หาดใหญ่ ว่าได้ไปกู้เงินจาก นายวัชระ จำนวน 1 ล้านบาท แต่ปรากฏว่าขาดสภาพคล่อง และไม่ส่งตามสัญญา จึงถูกบังคับให้ทำสัญญาใหม่ และต้องชดใช้เงินต้นพร้อมดอกเบี้ยสูงถึง 7 ล้านบาท และได้ยึดโฉนดที่ดินไป 3 ใบรวมทั้งยังใช้อาวุธปืนข่มขู่หากไม่ยอมจ่าย
พ.ต.อ.ศักดิ์สิทธิ์กล่าวว่า ของกลางทั้งหมดจะนำไปเก็บไว้ที่ สภ.หาดใหญ่ หลังจากนี้จะเชิญผู้ที่เกี่ยวข้อง ที่มีชื่อระบุอยู่ในสัญญากู้เงินมาทำการสอบสวนในรายละเอียดของการปล่อยเงินกู้ และอัตราดอกเบี้ยหากพบว่า เรียกเก็บสูงกว่าที่กฎหมายกำหนดก็จะดำเนินคดีขั้นเด็ดขาด แต่ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ตั้งข้อหานายวัชระว่าเปิดโรงรับจำนำโดยไม่ได้รับอนุญาต