กระบี่- ชาวบ้านร้องนายทุนรุกพื้นที่ป่าชายเลนบ้านคลองทราย ม.2 ต.ตลิ่งชัน อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ นำเครื่องจักรล้มป่าโกงกางราบเป็นหน้ากลอง รวมเนื้อที่กว่า 50 ไร่ ก่อสร้างท่าเรือมารีนา และเตรียมผุดรีสอร์ตหรูริมทะเล มูลค่ากว่า 100 ล้าน
เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (5 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้าน ว่า ได้มีนายทุนต่างถิ่นเข้าทำการบุกรุกพื้นที่ป่าชายเลนบริเวณคลองทราย ม.2 ต.ตลิ่งชัน อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ ส่งผลให้ป่าไม้ชายเลน ได้รับความเสียหายบริเวณกว้างรวมเนื้อที่กว่า 50 ไร่ จึงเดินทางไปตรวจสอบมีการปรับพื้นที่เป็นบริเวณกว้าง
เมื่อเข้าไปถึงด้านในพบรถแบ็กโฮ และรถแทรกเตอร์กำลังปรับพื้นที่ บริเวณดังกล่าว โดยริมคลองป่าชายเลนมีการก่อสร้างเป็นท่าเรือมารีนาขนาดใหญ่สามารถออกไปสู่ทะเลใหญ่ได้ บางส่วนที่ปรับพื้นที่แล้ว ใจกลางพื้นที่มีการก่อสร้างอาคารขนาดใหญ่ และมีเครื่องจักร และวัสดุก่อสร้างอยู่จำนวนมาก
สอบถามชาวบ้านในพื้นที่ทราบว่า บริเวณดังกล่าวเดิมมีสภาพเป็นป่าโกงกางที่อุดมสมบูรณ์ ในปี 2550 การไฟฟ้าฝ่ายผลิต แห่งประเทศไทย (กฟผ.) และองค์กรเอกชน ได้ร่วมกับชาวบ้านช่วยกันปลูกต้นโกงกางเพื่อฟื้นฟูหลังจากที่มีการทำนากุ้งร้าง
แต่เมื่อปีที่ผ่านมา ได้มีนายทุนจากจังหวัดภูเก็ตเข้ามาปรับพื้นที่ป่าชายเลนจนราบเป็นหน้ากลอง ซึ่งไม่ทราบว่ามีเอกสารสิทธิหรือไม่ เบื้องต้นชาวบ้านได้แจ้งไปยังเจ้าหน้าที่สถานีพัฒนาทรัพยากรป่าชายเลนที่ 27 หลายครั้ง แต่ก็ไม่คืบหน้า จึงอยากให้ทางเจ้าหน้าที่ระดับจังหวัดเข้าตรวจสอบด้วย
ต่อมา นายสุนทร เครือหลี ป้องกันจังหวัดกระบี่ พร้อมด้วยนายภราดร สังขพงศ์ ปลัดอำเภอเหนือคลอง ฝ่ายความมั่นคง นำกำลังเจ้าหน้าที่กองร้อยอาสารักษาดินแดน เจ้าหน้าที่สถานีพัฒนาทรัพยากรป่าชายเลนที่ 27 เข้าตรวจสอบพื้นที่ทันที
เบื้องต้นพบว่า บริเวณดังกล่าวเป็นโครงการก่อสร้าง ท่าเทียบเรือโบ๊ท ลากูน โดยเจ้าของเป็นนายทุนมาจากจังหวัดภูเก็ต อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบในเบื้องต้นพบว่าพื้นที่ดังกล่าวมีโฉนดที่ดินเนื้อที่ 39 ไร่ และบริเวณโดยรอบเป็นเอกสาร ส.ค.1 ซึ่งได้มอบหมายให้หัวหน้าสถานีพัฒนาทรัพยากรพื้นที่ป่าชายเลน 27 จับค่าพิกัดพื้นที่ว่ามีการรุกล้ำป่าชายเลนหรือไม่ และประสานไปยังที่ดินจังหวัดว่าเอกสารสิทธิดังกล่าวชอบด้วยกฎหมายหรือไม่
