กระบี่- ผู้ว่าฯกระบี่ ยันไม่เป็นมวยล้ม ขุดคูแพรก ทำลายป่าชายเลน เรียกรับเงินชาวบ้าน ใกล้ได้ตัวการรับผิดชอบ รอคณะกรรมการสอบผู้เกี่ยวข้องเพิ่ม
นายประสิทธิ์ โอสถานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เปิดเผยถึงความคืบหน้าการตั้งกรรมการสอบสวนโครงการขุดคูแพรก กั้นระหว่างป่าชายเลนและที่ดินของชาวบ้านในพื้นที่ ม.3 ต.เขาคราม อ.เมือง จ.กระบี่ หลังได้มีชาวบ้านนร้องเรียนว่ามีการขุดคูแพรกรุกล้ำป่าชายเลน และทำลายต้นโกงกางจำนวนมากกว่า 20 ไร่ เพื่อนำที่ดินที่ขุดรุกล้ำเข้าไปในชายเลนแบ่งให้กับชาวบ้านพร้อมเรียกเก็บเงินไร่ละ 20,000 หมื่นบาท ซึ่งขณะนี้การสอบสวนหาข้อเท็จจริงของคณะกรรมการมีความคืบหน้าไปมาก ใกล้ได้ตัวคนรับผิดชอบ
สำหรับสาเหตุที่การสอบสวนหาผู้กระทำผิดล่าช้าไปจากกำหนดการเดิมที่กำหนดไว้ว่าไม่เกิน 15 วัน ซึ่งขณะนี้เวลาก็ล่วงเลยมาแล้ว ซึ่งได้สอบถามไปทางคณะกรรมการสอบสวนหาข้อเท็จจริง ทราบว่าสาเหตุที่ล่าช้าเนื่องจากต้องสอบผู้เกี่ยวข้องเพิ่มอีกเล็กน้อย แต่อย่างไรก็ตาม ขอยืนยันว่า คดีนี้ไม่เป็นมวยล้มต้มคนดูอย่างแน่นอน ต้องมีผู้รับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หากว่าใครเข้าไปเกี่ยวข้องก็ต้องว่ากันไปตามกฎหมายถึงแม้ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐก็ตาม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่มีการตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงขึ้น ก็ได้มีชาวบ้านรายหนึ่งที่จ่ายเงินให้กับผู้รับเหมาโครงการขุดคูแพรก ซึ่งเป็นโครงการของส่วนบริหารจัดการทรัพยากรป่าชายเลนที่ 2 เป็นเงินกว่า 100,000 บาท เข้าร้องเรียนต่อคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ว่าได้จ่ายเงินให้กับผู้รับเหมาจริง และพร้อมที่จะให้รายละเอียดทั้งหมดหากทางคณะกรรมการต้องการข้อมูล
นายประสิทธิ์ โอสถานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เปิดเผยถึงความคืบหน้าการตั้งกรรมการสอบสวนโครงการขุดคูแพรก กั้นระหว่างป่าชายเลนและที่ดินของชาวบ้านในพื้นที่ ม.3 ต.เขาคราม อ.เมือง จ.กระบี่ หลังได้มีชาวบ้านนร้องเรียนว่ามีการขุดคูแพรกรุกล้ำป่าชายเลน และทำลายต้นโกงกางจำนวนมากกว่า 20 ไร่ เพื่อนำที่ดินที่ขุดรุกล้ำเข้าไปในชายเลนแบ่งให้กับชาวบ้านพร้อมเรียกเก็บเงินไร่ละ 20,000 หมื่นบาท ซึ่งขณะนี้การสอบสวนหาข้อเท็จจริงของคณะกรรมการมีความคืบหน้าไปมาก ใกล้ได้ตัวคนรับผิดชอบ
สำหรับสาเหตุที่การสอบสวนหาผู้กระทำผิดล่าช้าไปจากกำหนดการเดิมที่กำหนดไว้ว่าไม่เกิน 15 วัน ซึ่งขณะนี้เวลาก็ล่วงเลยมาแล้ว ซึ่งได้สอบถามไปทางคณะกรรมการสอบสวนหาข้อเท็จจริง ทราบว่าสาเหตุที่ล่าช้าเนื่องจากต้องสอบผู้เกี่ยวข้องเพิ่มอีกเล็กน้อย แต่อย่างไรก็ตาม ขอยืนยันว่า คดีนี้ไม่เป็นมวยล้มต้มคนดูอย่างแน่นอน ต้องมีผู้รับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หากว่าใครเข้าไปเกี่ยวข้องก็ต้องว่ากันไปตามกฎหมายถึงแม้ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐก็ตาม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่มีการตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงขึ้น ก็ได้มีชาวบ้านรายหนึ่งที่จ่ายเงินให้กับผู้รับเหมาโครงการขุดคูแพรก ซึ่งเป็นโครงการของส่วนบริหารจัดการทรัพยากรป่าชายเลนที่ 2 เป็นเงินกว่า 100,000 บาท เข้าร้องเรียนต่อคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ว่าได้จ่ายเงินให้กับผู้รับเหมาจริง และพร้อมที่จะให้รายละเอียดทั้งหมดหากทางคณะกรรมการต้องการข้อมูล